เพราะเหตุผลใด?เครื่องบินโดยสารจึงต้องแบ่งชั้นที่นั่งบนเครื่อง
"ปัจจุบัน ผู้คนทั่วโลกมากกว่าหลักร้อยล้านคนเดินทางท่องเที่ยวถึงจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ในขณะที่สายการบินต่างก็แข่งขันพัฒนาการบริการเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะความสะดวกสบายระหว่างที่ต้องนั่งติดที่นั่งบนเครื่องบินเป็นเวลาหลายชั่วโมง
"วันนี้จะมาอธิบายสาเหตุที่มาที่ไปว่า ทำไมที่นั่งบนเครื่องบิน ก็ต้องแบ่งแยกเป็น ชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด เพราะเราเชื่อว่าหลายคนเคยสงสัยว่าทำไมสายการบินจึงแบ่งที่นั่งออกเป็นประเภทต่างๆ เหล่านี้ และมีความหมายว่าอะไร
"เหตุผลหลักประการหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการแบ่งที่นั่งออกเป็นชั้นคือเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่หลากหลายของผู้โดยสาร นักเดินทางแต่ละคนมีลำดับความสำคัญที่แตกต่างกันในเรื่องของการเดินทางทางอากาศ ชั้นเฟิร์สคลาส ชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัดได้รับการออกแบบเพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันเหล่านี้
ชั้นหนึ่ง (First class)
ชั้นนี้มักจะเกี่ยวข้องกับความหรูหราและความพิเศษเฉพาะตัว ผู้โดยสารในชั้นหนึ่งจะได้เพลิดเพลินกับที่นั่งที่กว้างขวาง อาหารหรู บริการส่วนบุคคล และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น เบาะปรับนอนได้ มีแชมเปญให้ดื่ม มีแปรงสีฟัน ผ้าห่ม ชุดนอนบริการ ชั้นเฟิร์สคลาสค่าตั๋วจะแพงที่สุด ราคามีตั้งแต่หลักหมื่นปลาย ๆ ไปจนถึงหลักแสน
ชั้นธุรกิจ (Business class)
ชั้นธุรกิจ บนผังเครื่องบินอยู่ในตำแหน่งตรงกลางระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นประหยัด เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย พื้นที่กว้างขึ้น และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่อาจไม่ต้องการความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส สมัยก่อนคนที่เลือกจองตั๋วชั้นนี้มักเป็นนักธุรกิจ สายการบินจึงตั้งชื่อเช่นนี้
ชั้นประหยัด (Economy class)
ออกแบบมาสำหรับนักเดินทางที่คำนึงถึงต้นทุน ค่าโดยสารประหยัดที่สุด แต่ต้องแลกมาด้วยที่นั่งที่อึดอัดติดกันมาก สิ่งอำนวยความสะดวกน้อยลงเมื่อเทียบกับชั้นที่เหลือ ชั้นประหยัดเหมาะสำหรับผู้โดยสารที่ให้ความสำคัญกับงบประมาณมากกว่าความหรูหรา
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งเบื้องหลังการแบ่งที่นั่งของสายการบินออกเป็นชั้นโดยสารคือ"การเพิ่มรายได้ของสายการบิน"
"แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าจะต้องนั่งบนเครื่องบินชั้นไหน มีจุดที่มีเหมือนกันคือ ทุกชั้นจะมีที่นั่งติดหน้าต่างด้วยเสมอ บอกไว้สำหรับคนต้องการเลือกที่นั่งเพื่อชมวิวภายนอก