ผักเคล ราชินีผักใบเขียว
ผักเคล ภาษาอังกฤษ คือ Kale จัดเป็นพืชผักในวงศ์ Brassicaceae เป็นผักในตระกูลเดียวกับกะหล่ำ บรอกโคลี และคะน้า นอกจากชื่อเคลแล้ว ในไทยยังเรียกผักเคลว่า คะน้าใบหยัก หรือคะน้าใบหยิก
เพราะความที่เป็นผักใบเขียวจัด มีก้านที่แอบคล้ายกับคะน้า ต่างกันแค่ลักษณะของใบที่ผักเคลจะหยักกว่าเยอะ ผักเคลยังมีอยู่อีกหลายหลากสายพันธุ์
แต่ที่แพร่หลายในไทยจะเป็นผักเคลใบหยักสีเขียว พันธุ์ Curly Kale หรือ Scottish Kale ที่มีส่วนลำต้นเป็นก้านแข็ง ถ้ากินสดรสชาติจะติดขม จึงนิยมนำไปปั่นน้ำสมูทตี้
และอีกสายพันธุ์ คือ ผักเคลไดโนเสาร์ (Lacinato Dinosaur Kale) ที่นิยมนำมาทำสลัด เพราะมีรสชาติหวานกว่าเคลใบหยักสีเขียว
ผักเคล (Kale) หรือผักคะน้าใบหยิก เป็นผักใบเขียวที่กระแสกำลังดีในกลุ่มคนรักสุขภาพ จนใครหลาย ๆ คนเริ่มสงสัยว่าผักเคลมีประโยชน์ดียังไง นำไปทำเมนูไหนได้บ้าง
เคล เป็นหนึ่งในผักใบเขียวจัดและมีสีม่วงเข้มแซมอยู่บ้างในบางใบ เป็นผักใบเขียวที่มีรสชาติกรอบ อร่อย อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย นำมาทำเมนูได้อีกหลากหลายเมนู
ประโยชน์ของผักเคล
1. ไฟเบอร์สูง เคลเป็นผักที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์แน่น ๆ ถึง 4.7 กรัม ต่อ 1 ถ้วยตวง ซึ่งไฟเบอร์ในเคลไม่ได้แค่ช่วยในเรื่องการขับถ่ายเท่านั้น แต่ไฟเบอร์ของผักเคลยังช่วยดักจับไขมัน ลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกทาง
2. ช่วยลดน้ำหนัก เพราะผักเคลมีแคลอรีต่ำมาก คาร์บอนและน้ำตาลก็น้อย แต่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยในการลดน้ำหนัก ทำให้อิ่มง่าย ช่วยในการย่อยสารอาหารต่าง ๆ ช่วยในการขับถ่าย ดักจับไขมัน
3. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ผักเคลมีทั้งเบต้าแคโรทีน ลูทีน ซีแซนทีน วิตามินซี วิตามินอี และยังมีฟลาโวนอยด์ มีสารเควอซิทิน ที่ต่างก็มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในตัวเอง
จึงเป็นตัวช่วยในด้านการต่อสู้กับอนุมูลอิสระต่าง ๆ ที่อาจจะเข้ามาทำให้เซลล์เราเสื่อมถอยได้เร็วกว่าที่ควร และยังช่วยป้องกันการอักเสบที่เซลล์จากการโดนอนุมูลอิสระทำลายด้วย
4. วิตามินซีสูง เพราะผักเคลมีวิตามินซีค่อนข้างสูง สมกับที่เป็นราชินีผักใบเขียว โดยประโยชน์ของวิตามินซีก็มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน เสริมภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
5. ช่วยลดไขมัน ลดน้ำตาลในเลือด เคลจัดเป็นผักที่ช่วยลดไขมันในเลือดได้ เพราะมีไฟเบอร์ที่ช่วยในการขับถ่าย ช่วยดักจับไขมัน อีกทั้งสารลูทีนที่มีอยู่ในเคลยังมีส่วนช่วยลดไขมันเลว LDL ได้อีกด้วย
6. เป็นแหล่งของวิตามินเค ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ผักเคลมีวิตามินเคค่อนข้างสูง ผักเคลดิบในปริมาณ 1 ถ้วยตวง ให้วิตามินเคเกือบ ๆ 70% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ดังนั้นผักเคลจึงดีกับคนที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือมีภาวะเลือดไหลไม่หยุด ช่วยในการบำรุงรักษาเนื้อเยื่อและกระดูกได้อีกด้วย
7. ช่วยบำรุงและปกป้องดวงตา ผักเคลมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพดวงตา ทั้งลูทีน ซีแซนทีน ซึ่งมีหน้าที่ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย ชะลอการเกิดต้อกระจก และโรคจอประสาทตาเสื่อม
นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตาในส่วนการทำงานของจอประสาทตา และมีบทบาทสำคัญด้านการมองในที่มืด อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วยนะ
8. ดีต่อหัวใจ เพราะเคลมีโพแทสเซียมสูง การกินผักเคลจึงมีส่วนช่วยลดระดับความดันโลหิต ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
9. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญอยู่หลากหลายตัว และยังมีคลอโรฟิลล์ค่อนข้างสูง จึงมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระที่อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดเซลล์ร้ายในร่างกายได้
และยังมีงานวิจัยที่ศึกษาในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 149 คน พบว่าคนที่รับประทานผงสกัดจากเคลในปริมาณวันละ 14 กรัม ติดต่อกันนาน 8 สัปดาห์ มีระดับไขมันเลว LDL ลดลง ร่วมกับมีระดับความดันโลหิตลดลง ไขมันหน้าท้องลดลง และระดับน้ำตาลในเลือดลง
LOMA 🐬🐬
อ้างอิงจาก: อภิชัย ศักดิ์อาภา. 2564. การพัฒนาปัจจัยการผลิตจากวัสดุเหลือใช้
ทางการเกษตรภายในฟาร์มสำหรับผลิตผักเคลอินทรีย์.
กัลยา คุณาธิป. 2564. การศึกษาสารประกอบฟีนอลิกรวมและ
ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของผลิตภัณฑ์ผักเคลผง.