น้ำพริกแมงดา
ถ้าพูดถึงแมงดา เชื่อว่าต้องมีใครหลายๆคนที่รู้จักและเคยรับประทานกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแมงดาตัวผู้หรือแมงดาตัวเมียก็สามารถนำมารับประทานได้เหมือนกัน
ความแตกต่างระหว่างแมงดาตัวผู้และแมงดาตัวเมีย
แมงดานาเพศเมียนั้นจะไม่มีกลิ่น บริเวณโคนขาคู่หน้ามีสีขาว รูปร่างจะมีขนาดใหญ่กว่าเพศผู้
ส่วนแมงดานาเพศผู้นั้นจะมีกลิ่นฉุน โดยเฉพาะในระยะผสมพันธุ์ บริเวณโคนขาคู่หน้ามีสีเขียว รูปร่างจะเล็กและเพียวกว่าเพศเมีย
แมงดาที่คนนิยมนำมาทำอาหาร คือ แมงดานาเพศผู้ เป็นสัตว์ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว ช่วยเพิ่มกลิ่นในอาหาร โดยเฉพาะน้ำพริกให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน
ส่วนแมงดานาเพศเมียคนนิยมนำมาทอดเพื่อรับประทานไข่ตรงท้องเพราะมีความมัน
แมงดานาจะหาได้มากช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นช่วงหน้าผสมพันธุ์ ของแมงดานา ซึ่งแมงดาตัวเมียจะออกไข่ไว้บนใบไม้และจะมีแมงดาตัวผู้คอยเฝ้าอยู่
แล้วถ้าเราออกหาแมงดาช่วงหน้าฝน ถ้าเราเจอไข่แมงดาก็หมายความว่าเราจะได้ทั้งไข่แมงดาและแมงดาตัวผู้มาทานพร้อมกันเลยทีเดียว
บางคนก็จะนำไข่แมงดามาย่าง ส่วนบางคนก็จะเอาเฉพาะแมงดาตัวผู้มาทำอาหาร
เมนูที่นิยมนำแมงดานามาประกอบในอาหาร คือเมนูน้ำพริก น่าจะเป็นเมนูอาหารที่โปรดของใครหลายๆคน แถม เมนูน้ำพริก ยังเป็นเมนู อาหารสุขภาพอีกด้วย
วันนี้เรามาพูดถึง เมนูน้ำพริกแมงดา กันคะ เป็นน้ำพริกที่ได้กลิ่นหอมๆ จากแมงดา รสชาติจัดจ้าน ไขมันน้อย ลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี ( ซึ่งไม่แน่ใจว่าเวลาทานจริงๆจะลดความอ้วนได้จริงหรือเปล่า เพราะทานเยอะกว่าปกติทุกที )
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกแมงดา
กะปิ
แมงดานาตัวผู้
กระเทียม
พริกแห้ง
น้ำปลา
น้ำมะนาว
น้ำตาลปี๊บ
ผักสด ( สำหรับกินคู่กับน้ำพริกเลือกได้ตามชอบ )
วิธีทำน้ำพริกแมงดา
นำกะปิ ห่อใบตอง ปิ้งให้สุก พร้อมกับย่างพริก กระเทียม และ แมงดานา ให้สุก
โขรก กะปิ พริก กระเทียม แมงดานา ให้ละเอียด
ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล และ น้ำมะนาว ตามใจชอบ ทานคู่กับ ผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือ ผักกาดขาว หรือผักอื่นๆตามความชอบของแต่ละคน
แต่ถ้าใครไม่ชอบทานน้ำพริกเผาสามารถเอาแมงดานามาทำ น้ำพริกกะปิได้นะคะ อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะส่วนตัวเราชอบทั้ง 2 เมนูเลย😊😊
LOMA 🐬🐬