ศึกร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย!! "เจ้าสัวเจริญ" BJC แปลงโฉมร้านโชห่วยกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2570
แปลงโฉมร้านโชห่วยกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศ
เมื่อบรรดายักษ์ใหญ่ค้าปลีกต่างก็เร่งขยายสาขาและเพิ่มบริการ เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด โดยหนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญคือ "เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี" แห่งเครือไทยเบฟเวอเรจ ที่เตรียมลุยธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อ "โดนใจ" โดยตั้งเป้าจะแปลงโฉมร้านโชห่วยกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2570
"โดนใจ" เป็นธุรกิจร้านสะดวกซื้อในเครือของเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกชั้นนำของไทย โดยเจ้าสัวเจริญ ถือหุ้นใหญ่ใน BJC อยู่แล้ว ดังนั้นการลุยธุรกิจร้านสะดวกซื้อครั้งนี้จึงถือเป็นการต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่เดิม
สำหรับกลยุทธ์ของ "โดนใจ" ในการบุกตลาดร้านสะดวกซื้อนั้น เน้นไปที่การแปลงโฉมร้านโชห่วยที่มีอยู่เดิมให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น โดยครอบคลุมทั้งด้านสินค้า บริการ และการตกแต่งร้าน
ด้านสินค้า โดนใจ จะเน้นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงสินค้าท้องถิ่นและสินค้าตามฤดูกาล เพื่อให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าในชุมชน
ด้านบริการ โดนใจ จะเน้นบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น บริการฝากเงิน ถอนเงิน เติมเงินมือถือ ชำระเงินค่าบริการต่างๆ และบริการจัดส่งสินค้า
ด้านการตกแต่งร้าน โดนใจ จะเน้นการตกแต่งร้านให้ทันสมัยและสะดุดตา เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ
การบุกตลาดร้านสะดวกซื้อของ "โดนใจ" ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจของ "เซเว่น-อีเลฟเว่น" ผู้นำตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย โดยเซเว่น-อีเลฟเว่น ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 70% ของตลาดร้านสะดวกซื้อทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม โดนใจ ก็มีจุดแข็งที่แตกต่างจากเซเว่น-อีเลฟเว่น ตรงที่ โดนใจ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในชุมชน โดยอาศัยฐานเครือข่ายของร้านโชห่วยที่มีอยู่เดิม ซึ่งอาจเป็นจุดแข็งที่ทำให้โดนใจสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากกว่าเซเว่น-อีเลฟเว่น
นอกจากนี้ โดนใจ ยังมีจุดแข็งในด้านราคาสินค้า โดยโดนใจ เน้นจำหน่ายสินค้าในราคาที่ย่อมเยากว่าเซเว่น-อีเลฟเว่น ซึ่งอาจทำให้โดนใจสามารถดึงดูดลูกค้าที่มีกำลังซื้อจำกัดได้มากขึ้น
การบุกตลาดร้านสะดวกซื้อของ "โดนใจ" ครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้การแข่งขันในตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยยิ่งดุเดือดขึ้น โดยผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการที่มีทางเลือกมากขึ้น