เยื่อไผ่ ประโยชน์มากมายที่คุณอาจยังไม่รู้
เยื่อไผ่ หรือที่เรียกอีกชื่อว่าเห็ดเยื่อไผ่ เป็นอาหารยอดนิยมที่มักนำมาปรุงเป็นส่วนผสมในแกงจืด หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเยื่อไผ่ทำมาจากไผ่ แต่ความจริงแล้วเยื่อไผ่ทำมาจากเห็ดชนิดหนึ่งที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schizophyllum commune เห็ดชนิดนี้มักพบขึ้นตามต้นไม้ที่ตายหรือซากพืช ในประเทศไทยพบมากในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เยื่อไผ่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ เช่น วิตามินบี 2 วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก เป็นต้น เยื่อไผ่จึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ดังนี้
- บำรุงร่างกาย เยื่อไผ่มีโปรตีนสูง จึงเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
- ลดความดันโลหิต เยื่อไผ่มีสารที่ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง
- บรรเทาโรคเกี่ยวกับไต ตา ปอด ตับอักเสบ หวัด เยื่อไผ่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ในร่างกายจากความเสียหาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคไต โรคตา โรคปอด โรคตับอักเสบ และโรคหวัด
- ช่วยระบบขับลม เยื่อไผ่มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องผูก
- ลดความอ้วน เยื่อไผ่มีแคลอรีต่ำ จึงเป็นอาหารที่ดีต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
นอกจากนี้ เยื่อไผ่ยังนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางและเวชสำอาง เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยและจุดด่างดำ
วิธีรับประทานเยื่อไผ่
เยื่อไผ่สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดและแบบปรุงสุก ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดคือแบบปรุงสุก โดยมักนำมาต้มเป็นส่วนผสมในแกงจืด หรือนำไปผัดกับผักต่างๆ เยื่อไผ่สดสามารถรับประทานเป็นผักสด หรือนำมาหมักดองได้
ข้อควรระวังในการรับประทานเยื่อไผ่
เยื่อไผ่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่ควรรับประทานมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการแพ้เห็ด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเยื่อไผ่
สรุป
เยื่อไผ่เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย จึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่ควรรับประทานเป็นประจำ