10 แท็บเล็ตน่าใช้ราคาไม่เกิน 5 พันบาท ปี 2023
ในปัจจุบันแท็บเล็ตได้เข้ามามีบทบาทต่อการทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อความบันเทิง การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือสื่อคอนเทนต์ต่าง ๆ หรือการใช้สำหรับการประชุมออนไลน์ การเรียนออนไลน์ แต่ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงคือความคุ้มค่าและราคาที่จับต้องได้ รวมถึงสเปคที่ลื่นไหล เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีรุ่นไหนน่าใช้บ้าง
1. Lenovo Tab M8 TB-8505X-ZA5H0114TH
แท็บเล็ต Lenovo Tab M8 HD รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้บางเบาเพียง 8.15 ขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว โดดเด่นที่ดีไซน์ฝาหลังด้วยโลหะเสริมด้วยขอบที่โค้งมน ในด้านการใช้งานจุดเด่นของแท็บเล็ตรุ่นนี้คือคุณภาพเสียงและวีดีโอคมชัด ไม่แตก สตรีมหนัง ซีรีย์ ได้เต็มอรรถรส เรียกได้ว่าซื้อเครื่องนี้ไปเพื่อเติมเต็มอรรถรสด้านการรับชม ไม่มีผิดหวังแน่ มีแบตเตอรี่สุดอึดถึง 5000 mAh ใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง และรุ่นนี้สามารถใส่ซิมรับสายรับสายเข้าและโทรออกได้อีกด้วย
ขนาดหน้าจอ : 8 นิ้ว
Display : IPS 350nits
Processor : MediaTek Helio A22 (4C, 4x A53 @2.0GHz) Quad-Core 2.0GHz
ความจุ : RAM 3 GB / ROM 32 GB
ราคา : 3,990 บาท
2.Lenovo Tab M10 FHD Plus
แท็บเล็ต Lenovo Tab M10 FHD Plus ตัวเครื่องโลหะทั้งชิ้น ดีไซน์เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยว ขอบบางรอบด้าน รองรับการใช้งานได้ทุกด้าน ใช้ทำงาน ใช้เรียน สตรีมซีรีย์ ดูหนัง เล่นเกม ความละเอียด Full HD Plus ให้สีสันสวยงาม และถ้าใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตทำงาน แนะนำรุ่นนี้เลยใช้งานร่วมกับโปรแกรม Office ได้เป็นอย่างดี ภายในกล่องมีอุปกรณ์เสริมครบ มีเคสแบบพับได้ และยังมีฟิล์มกันรอยมาให้ด้วย เรียกว่าซื้อเครื่องเดียวครบจบ ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม
ขนาดหน้าจอ : 10.3 นิ้ว
Display : FHD (1920×1200) TDDI 330nits
Processor: MediaTek Helio P22T
ความจุ : RAM 4 GB / ROM 128 GB
ราคา : 4,990 บาท
3.Huawei MatePad T 10s
ดีไซน์ตัวเครื่องโค้งมน จับถนัดไม่ลื่นไหล เป็นรุ่นที่แนะนำเลยถ้าจะซื้อให้ลูกๆ ใช้ เหมาะที่สุดสำหรับให้เด็กๆ ตอบสนองการใช้งานทั่วๆ ได้ดี จุดเด่นคือมีโหมดการแจ้งเตือน หากใช้งานอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสม เช่น ถือจอใกล้เกินไป นอนตะแคงเล่น มีการแจ้งเตือนเมื่อใช้งานอยู่ในที่ที่แสงไม่เพียงพอช่วยปกป้องสายตาด้วยโหมดอัจฉริยะปกป้องสายตา (Eye Comfort) และผู้ปกครองยังสามารถจำกัดเวลาและจำกัดแอปในการใช้งานของเด็กๆ ด้วยโหมด Parental Control และมีโหมด Huawei App Multiplier 2 ที่สามารถเปิดแอปใช้งาน 2 แอปในหน้าเดียวกันได้อีกด้วย
ขนาดหน้าจอ : 10.1 นิ้ว
Display : 1921 x 1200 pixels, 224 PPI, IPS
Processor: HiSilicon Kirin 710A
ความจุ : RAM 2 GB / RAM 32 GB
ราคา : 4,990 บาท
4.Lenovo M10 HD (2nd Gen) ZA6V0098TH
แท็บเล็ต Lenovo M10 HD (2nd Gen) รุ่นนี้ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งชิ้นทำให้มีความทนทานเหมาะมากกับเด็กๆ ทำหล่นได้ไม่ต้องกลัวแตก และรุ่นนี้ยังได้รับการรับรองการป้องกันดวงตาจาก TÜV Rheinland ® ช่วยลดแสงสีน้ำเงินที่อันตรายต่อดวงตา ในส่วนการใช้งานรองรับการใช้งานทั่วๆ ไปได้ดี แต่ถ้าเน้นเล่นเกมหนักยังไม่เหมาะมากนัก เน้นที่ใช้เน้นที่ความบันเทิงทั่วไป แถมรุ่นนี้ใช้งานได้ตลอดวันเป็นรุ่นประหยัดพลังและแบตอึดมาก ใครที่กำลังมองหาให้ลูกน้อยใช้เรียน ใช้ดูหนัง ดูการ์ตูน คุ้มค่าเลยทั้งราคาและประสิทธิภาพ
ชนาดหน้าจอ : 10.1 นิ้ว
Display : HD (1280×800) TDDI 400nits, Touch
Processor: MediaTek Helio P22T
ความจุ : RAM 2 GB / ROM 32 GB
ราคา : 4,290 บาท
5.Alldocube iPlay 50
แท็บเล็ต Alldocube รุ่น iPlay 50 การดีไซน์ตัวเครื่องทำออกมีความบาง 8.0 มม. ด้านหลังของตัวเครื่องวัสดุมีผิวสัมผัสที่ด้าน ไม่ลื่นมาก ขอบแบบโค้งมน งานประกอบโดยรวมค่อนข้างดี มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มีลำโพงให้ใช้งาน 2 ตัว เป็นลำโพงแบบคู่เสียงเบสค่อนข้างบาง ไม่หนักมาก เสียงของนักร้องค่อนข้างแหลม แต่โดยรวมเสียงค่อนข้างดี หน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียด 2K ซึ่งทำให้ภาพหน้าจอมีความสว่าง สีสวยสดใส และภาพคมชัด รองรับการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอได้ อัตรารีเฟรชเรทอยู่ที่ 60 Hz ที่เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งน่าเสียดายที่ใน Netflix สามารถปรับความละเอียดได้เพียง L3 (SD) เท่านั้น เหมาะสำหรับสายชอบดูคอนเทนต์ เล่น Tiktok หรือหากจำเป็นต้องใช้ทำงานก็สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอย่างเมาส์หรือคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานแบบ Laptop ได้
ขนาดหน้าจอ : 10.4 นิ้ว
Processor : UNISOC Tiger T618
ความจุ : RAM 4 GB / ROM 64 GB
ราคา : 4,320 บาท
6.BMAX i10 Pro
หนึ่งแบรนด์ทางเลือกสำหรับแท็บเล็ตราคาประหยัดแต่สเปกที่ให้มาแบบคุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ในส่วนของการดีไซน์ด้านหลังของตัวเครื่องวัสดุจะมีลักษณะเป็นผิวแบบด้านให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างลื่นเล็กน้อย แต่ก็มีข้อดี คือ จะไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย รุ่นนี้หน้าจอมีขนาด 10.1 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ IPSLCD ซึ่งความโดดเด่นของรุ่นนี้จะอยู่ที่ความละเอียดของหน้าจอจะอยู่ที่ FHD ทำให้การใช้งานอย่าง Youtube ก็จะสามารถปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 1080p ซึ่งสีของหน้าจอค่อนข้างสว่างสีสันสดใส ลำโพงให้มาใช้งาน 2 ตัว เสียงค่อนข้างดังฟังชัด และรุ่นนี้มีช่องสำหรับต่อหูฟัง 3.5 มม. มาให้ ทำให้รุ่นนี้ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานสำหรับสายบันเทิงมาก ๆ
ขนาดหน้าจอ : 10.1 นิ้ว
Processor : UNISOC Tiger T310
ความจุ : RAM 4 GB / ROM 64 GB
ราคา : 4,299 บาท
7.TCL Tab 10 FHD
แท็บเล็ต TCL รุ่น Tab 10 FHD ดีไซน์ของฝาหลังเป็นแบบ Capla มีผิวสัมผัสแบบด้านทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก และที่สำคัญระหว่างใช้งานก็สามารถถือได้ถนัด สามารถจับได้แน่นขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะลื่นหลุดมือ หน้าจอของรุ่นนี้มีขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้วเป็นหน้าจอแบบ FHD ที่มีความละเอียด 1920 x 1200 หน้าจอสีสวยและคมชัด บริเวณขอบหน้าจอบางทุกด้านทำให้สามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างเต็มที่ ลำโพงแบบคู่ ซึ่งลำโพงแบบคู่จะอยู่ด้านล่าง หากใช้งานตอนตั้งใช้งานบนโต๊ะเสียงจะสะท้อนจากพื้นและดังมากยิ่งขึ้น และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB TypeC สามารถใส่ซิมการ์ดได้ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับใช้งานเพื่อความบันเทิงมาก ๆ ชิปเซตเป็น Helio P22 ทำให้การทำงานค่อนข้างไว มีความลื่นไหล
ขนาดหน้าจอ : 10.1 นิ้ว
Processor : Helio P22
ความจุ : RAM 3 GB / ROM 32 GB
ราคา : 3,599 บาท
8.Teclast P40 HD
แท็บเล็ตจากแบรนด์ Teclast รุ่น P40HD การดีไซน์วัสดุของฝาหลังเป็นอะลูมิเนียมแบบเรียบ ๆ ผิวสัมผัสมีความด้านทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก ด้านล่างจะเป็นลำโพงแบบคู่เสียงไม่ได้มีโดดเด่นมาก สามารถใช้งานทั่วไปได้ มีช่องใส่ซิมการ์ดได้และช่องใส่หูฟัง 3.5 มม. รองรับทุกการใช้งาน และที่สำคัญมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว ความละเอียดแบบ FHD 1200 x 1920 อัตรารีเฟรชเรท 60 Hz แบบเริ่มต้น สามารถดูหนัง ดูซีรีส์ได้อย่างเต็มที่
ขนาดหน้าจอ : 10.1 นิ้ว
Processor : UNISOC T606
ความจุ : RAM 4 GB / ROM 64 GB
ราคา : 3,822 บาท
9.Samsung Galaxy Tab A7 Lite WiFi
Galaxy Tab รุ่น Tab A7 WiFi เป็นแท็บเล็ตขนาดเล็กสเปกแรง มีดีไซน์สวยงาม บางเบา วัสดุแข็งแรง ด้วยหน้าจอขนาด 8.7 นิ้วทำให้ถือง่ายใช้งานได้ด้วยมือเดียวได้ ตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผลแบบ TFTLCD ความละเอียด 800 x 1340 ภาพสีสันต่าง ๆ ทำออกมาได้ดี มีอัตรารีเฟรชเรทจะอยู่ที่ 60 Hz ภาพค่อนข้างลื่นไหล ซึ่งก็อยู่ในระดับเริ่มต้นทั่ว ๆ ไป มาพร้อมกับลำโพงแบบคู่ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ให้คุณภาพเสียงที่ไพเราะ เหมาะสำหรับใช้ดูหนังหรือฟังเพลงได้ดี ในการใช้งานแบบสองหน้าจอก็สามารถใช้งานได้ค่อนข้างลื่นไหลไม่เกิดอาการหน่วงหรือกระตุก สามารถใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานได้ เพราะให้แบตเตอรี่มาถึง 5,100 mAh ทำให้ใช้งานได้แทบทั้งวัน
ขนาดหน้าจอ : 8.7 นิ้ว
Processor : Mediatek MT8768T Helio P22T
ความจุ : RAM 3 GB / ROM 32 GB
ราคา : 4,490 บาท
10.Blackview Tab 12
แท็บเล็ตจากแบรนด์ Blackview โดยรุ่น Tab 12 เป็นการอัปเกรดประสิทธิภาพจากรุ่น Tab 8 ที่มียอดขายสูงของแบรนด์ Blackview ซึ่งในรุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์แบบเรียบ ๆ มีขอบแบบโค้งมนตามสไตล์ของแท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมทำให้จับถือง่าย วัสดุฝาหลังเป็นโลหะทำให้ดูพรีเมียมมาก ๆ ซึ่งจะมีจอแสดงผลขนาด 10.1 นิ้ว หน้าจอแบบ IPS FHD+ ที่มีความละเอียดถึง 1200 x 1920 และลำโพงที่ให้เสียงได้ดี ไพเราะ เสียงเบสดังฟังชัด ทำให้ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูหนัง ฟังเพลง หรือใช้งานเพื่อดูคอนเทนต์ความบันเทิงต่าง ๆ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังให้แบตเตอรี่มากถึง 6,580 mAh ซึ่งทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน นอกจากนี้สำหรับรุ่นนี้ก็มีความพิเศษในเรื่องของ PC Mode ที่สามารถใช้งานแบบ Laptop ได้อีกด้วย
ขนาดหน้าจอ : 10.1 นิ้ว
Processor : UNISOC SC9863A
ความจุ : RAM 4 GB / ROM 64 GB
ราคา : 4,990 บาท