กะหล่ำดอก
กะหล่ำดอกเป็นผักหาทานง่าย มีขายทั่วไปทั้งในท้องตลาดและห้างสรรพสินค้า ซึ่งน่าจะเป็นผักโปรดของใครหลายๆคน แถมกะหล่ำดอก ยังมีประโยชน์ อย่างมากมาย
ประโยชน์ของกะหล่ำดอก
1. เพิ่มการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต
กะหล่ำดอกมี sulforaphane มีคุณสมบัติช่วยป้องกันผิวที่สัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต ปกป้องร่างกายจากโรคมะเร็งผิวหนัง การอักเสบ และความเสียหายของเซลล์
2. ต่อสู้กับการอักเสบ
การอักเสบเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรังเกือบทั้งหมด กะหล่ำดอกอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ กะหล่ำดอกหนึ่งถ้วยให้วิตามินถึง 73% ของปริมาณวิตามินซี ที่แนะนำต่อวัน ซึ่งจะช่วยยับยั้งการอักเสบได้
3. ช่วยลดปัญหาระบบหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต
จากการศึกษาเพิ่มเติมระบุว่า การอักเสบนั้นเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และความผิดปกติของระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ เพราะว่าในกะหล่ำดอกมีวิตามิน K วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี ส่งผลให้ลดความดันโลหิตสูงและระดับคอเลสเตอรอลสูงได้
4. ลดความเสี่ยงมะเร็ง
จากการวิจัยพบว่ากะหล่ำดอกมีประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งเต้านม ตับ ลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ปอด และยังมีคุณสมบัติป้องกันการเจริญเติบโตของมะเร็งในระยะแรก ช่วยกำจัดการพัฒนาของเนื้องอก นอกจากนี้กะหล่ำดอกยังเต็มไปด้วยกลูโคซิโนเลต ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มีประโยชน์ในการป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโต
5. มีวิตามินเคสูง
กะหล่ำดอกมีวิตามินเค ช่วยให้กระดูกแข็งแรงและยับยังการป้องกันการสูญเสียความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งอาจนำไปสู่โรคกระดูกพรุน วิตามินเคยังช่วยให้เลือดแข็งตัวดี อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพต้านการอักเสบ
6. ปรับปรุงการย่อยและล้างพิษ
กะหล่ำดอกมีสารประกอบเช่น กลูโคราพานิน ซัลโฟราเฟน กลูโคบราสซิซิน เป็นต้น ซึ่งล้วนมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย นอกจากนี้กะหล่ำดอกยังมีประโยชน์ในการล้างพิษและการย่อยอาหาร เนื่องจากมีสารที่อุดมด้วยกำมะถันมากมายที่เรียกว่ากลูโคซิโนเลตช่วยในการดูดซึมสารอาหารและกำจัดสารพิษ
7. ลดน้ำหนัก
กะหล่ำดอกมีแคลอรี่ต่ำเพียง 29 แคลอรี่ ต่อถ้วย ไขมันและต่ำมาก เป็นทางเลือกที่ดีในการลดน้ำหนัก เนื่องจากมีเส้นใยสูง ต่อสู้กับปัญหาท้องผูกได้ดี
8. ช่วยเพิ่มสุขภาพสมอง
กะหล่ำดอกมีวิตามินบีที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองจึงเป็นผักที่ยอดเยี่ยมที่จะกินเพื่อสุขภาพสมอง ยังส่งผลให้การนอนหลับดีขึ้น หน่วยความจำก็ดีขึ้นด้วย
9. ปรับสมดุลของฮอร์โมน
กะหล่ำดอก อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการปรับสมดุลของฮอร์โมน ผ่านการลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผิดปกติ ฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินในเลือดเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพ เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง เหนื่อยล้าเรื้อรัง และมะเร็งรังไข่
10. ดีต่อสุขภาพตา
กะหล่ำดอกมี sulforaphane สามารถป้องกันเนื้อเยื่ออ่อนของจอประสาทตาจากความเครียดและออกซิเดชัน ซึ่งสามารถนำไปสู่ปัญหาการมองเห็นที่รุนแรง เช่น ต้อกระจกจอประสาทตาเสื่อม
11. ดีต่อการตั้งครรภ์
โฟเลตสามารถช่วยทารกในครรภ์ให้พัฒนาเจริญเติบโตได้ตามปกติ กะหล่ำดอกมีวิตามินบีรวมทั้งโฟเลต ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ผู้หญิงทานเสริมด้วยเมื่อตั้งครรภ์
12. เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
กะหล่ำดอกอุดมไปด้วยแคลเซียมฟอสฟอรัสและซีลีเนียม ซึ่งช่วยในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีโซเดียมซึ่งช่วยในการจัดการสมดุลของเหลวของร่างกาย
13. ช่วยลดริ้วรอย
เนื่องจากกะหล่ำดอกมีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระมาก ความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระจะลดลง และการบริโภคดอกกะหล่ำจึงทำให้คุณดูอ่อนกว่าวัย
กะหล่ำดอกสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกงทอด ไม่ว่าจะทำเมนูไหนก็อร่อยเพราะความกรุบกรอบและหวานของกะหล่ำดอก
เมนูแกงส้มกะหล่ำดอกหมูสามชั้นสไลด์
วัตถุดิบและเครื่องปรุงที่ต้องเตรียม
กะหล่ำดอก
หมูสามชั้นสไลด์
พริกแกงส้ม / พริกชี้ฟ้าแห้ง / กระเทียม /
หอมแดง / หัวกระชาย
เกลือป่น
กะปิ
น้ำมะขามเปียก
น้ำตาลปี๊บ
น้ำปลา
วิธีทำ
นำหมูสามชั้นสไลด์คลุกเคล้ากับเกลือป่นล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปต้ม ต้มหมูสามชั้นสไลด์ก่อนล่วงหน้าเพื่อที่หมูจะได้นิ่มและเปื่อยเวลาทาน ( ตอนเขี้ยวหมูต้องหมั่นช้อนฟองออกด้วย เพื่อที่น้ำแกงส้มของเราจะได้ใส่ )
น้ำพริกแกงส้มมาคลุกกับกะปิให้เข้ากัน ตักน้ำร้อนที่ต้มหมูไว้มาคลุกกับพริกแกงส้มให้ละลายเล็กน้อย แล้วตักใส่ในหม้อที่เราต้มหมูสามชั้นเอาไว้เพื่อเคี่ยวให้พริกแกงส้มกับเนื้อหมูเข้ากัน
หั่นกะหล่ำดอกเป็นชิ้นแล้วล้างน้ำให้สะอาดเตรียมไว้
เขี้ยวหมูสามชั้นสไลด์ไปได้สักระยะปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลาเกลือเล็กน้อย ชิมรสชาติให้ได้ตามใจชอบ
แล้วใส่กะหล่ำดอกที่หั่นเตรียมไว้ลงไปต้มเขี้ยวต่อพร้อมหมูสามชั้นสไลด์ เมื่อกะหล่ำดอกสุกและหมูสามชั้นสไลด์นิ่มเปื่อยจนได้ที่ปิดไฟ ตักแกงส้มใส่ถ้วย ทานคู่กับไข่เจียว และข้าวสวยร้อนๆ เป็นอันเสร็จพร้อมทานค่ะ
คำแนะนำในการรับประทานกะหล่ำดอก
ในการรับประทานกะหล่ำดอกอย่าปรุงสุกมากจนเกินไป เพราะการปรุงสุกเกินไปจะทำลายคุณสมบัติทางยาของกะหล่ำดอกได้
เนื่องจากดอกกะหล่ำนั้นมีสารพิวรีนในระดับปานกลาง ผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ควรรับประทานในปริมาณที่จำกัด ควรงดเว้นและหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้อาการของโรคกำเริบขึ้นมาได้
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือแน่นท้อง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกะหล่ำดอก เพราะอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้มาก
LOMA🐬🐬
อ้างอิงจาก: กลุ่มสื่อส่งเสริมการเกษตร ส่วนส่งเสริมและเผยแพร่ สำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร.
ที่มา : naturalfoodseries