มะม่วงหาว มะนาวโห่ ไม้ประดับปลูกสวยงามหน้าบ้าน กับกลายเป็น อาหารว่าง และมีสรรพคุณทางด้านสมุนไพรดีเยี่ยม
เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านเคยเห็นเจ้าพืชชนิดนี้กันบ่อย ๆ แต่ไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรมากมายนัก อาจจะเป็นความเคยชิน หรือเห็นเป็นแค่ไม้ประดับ ที่มีความสวยงามชนิดหนึ่งก็ได้ เวลาติดผลจะสวยงามมาก ผลมีสีแดงอมชมพู ทำให้ดูสวยงามร่มรื่นสบายตาจริงเชียว เจ้าพืชชนิดนี้จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ถ้าใครเคยดูละครพื้นบ้าน เรื่องนางสิบสอง ยุคก่อน ๆ อาจจะเคยได้ยิน ชื่อของเจ้าพืชชนิดนี้ ทีพระเอกของเรื่องถูกหลอก ให้ไปหาสมุนไพรชื่อ มะม่วงหาว มะนาวโห่ ที่มีอยู่ที่เมืองยักษ์ เพื่อที่จะหลอกไปให้ยักษ์จับพระเอกกิน และมีตาฤาษีมาแอบเปลี่ยนจดหมายว่าถึงเมื่องให้ลูกสาวจับกินเป็นจับแต่งงานแทน นั่นมันละคร แต่เรามารู้จักของเจ้าพืชชนิดนี้กันดีกว่า
สมุนไพร มะม่วงหาว มะนาวโห่ เป็นชื่อที่เพี้ยนมากจากชื่อ "มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ " พันธุ์ไม้ชนิดนี้ ชื่อท้องถิ่น อื่น ๆ ว่า หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) , หนามแดง (กรุงเทพ ฯ ), มะนาวไม่รู้โห่ (ภาคกลาง ), มะนาวโห่ (ภาคใต้ ) เป็นต้น
มะม่วงหาว มะนาวโห่ จัดเป็นผลไม้สมุนไพรชนิดหนึ่ง ลักษณะของผลจะเป็นสีแดงเรียวเล็ก คล้ายกับมะเขือเทศ ราชินี สำหรับรสชาดของผลสุกจะออกรส หวานนุ่มลิ้น แต่ถ้าหากยังไม่สุกจะมีรสเปรี้ยวจัด เข็ดฟัน มีธาตุเหล็ก และวิตามินซีสูง เมื่อกัดไปแล้วจะมียางเหนียว ๆ ฝาดคอ
ประโยชน์และสรรพคุณของมะม่วงหาว มะนาวโห่
. มะม่วงหาว มะนาวโห่มีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยในการชะลอวัย และริ้วรอย (ผล )
. ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง (แก่น )
. แก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า ( เนื้อไม้ )
. เพิ่มความกระชุ่ม กระชวยให้แก่ร่างกาย ( ผล )
. ช่วยให้เจริญอาหาร ( ราก )
. มีส่วนช่วยลดความอ้วน ( ผล )
. ธาตุเหล็กในผลมีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวาน (ผล )
. มีส่วนช่วยรักษาโรคโลหิตจาง ( ผล )
. ช่วยขยายหลอดเลือดป้องกันการเกิดโรคหัวใย ( ผล )
. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรงมะเร็ง ( ผล )
มะม่วงหาว มะนาวโห่ยังสามารถ นำมาปรุงอาหารได้ เช่น น้ำของผลสามมารถนำมาปรุงอาหารแทนมะนาวได้ นำมาทำอาหารได้หลายเมนู เช่น ผัดไทยเต้าหู้มะนาวโห่ น้ำพริกเผามะนาวโห่ หรือใช้ทำเป็นผลไม้ แช่อิ่ม ผลไม้หมักดอง เป็นต้น
มะม่วงหาว มะนาวโห่ เป็นพืชสมุนไพรไทยที่มีชื่อแปลกชนิดหนึ่ง ที่ในช่วงหลายปีก่อน กำลังเป็นที่นิยม จัดเป็นผลไม้ประเภททานผลสุก มีรสชาดเปรี้ยวเฉพาะตัว มีลักษณะเป็นไม้พุ่มยืนต้น ขนาดย่อม สูง 2 - 3 เมตร ทรงพุ่มกลม แตกกิ่งจำนวนมาก ทุกส่วนมียางสีขาวเหมือนน้ำนม ลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมยาว 2 - 5 เซนติเมตร ปลายหนามมีสีแดง เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่กลับ ปลายใบมีลักษณะมนหรือเว้าเข้าเล็กน้อย โคนใบกลม ผิวใบมีลักษณะสีเขียวเข้มเป็นมัน เป็นดอกช่อสั้น ๆ ที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีขนที่โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว สีชมพูแกมแดง ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และออกดอกทั้งปี ส่วนผลจะเป็นผลเดี่ยวออกรวมกันเป็นช่อ ผลเป็นรูปทรงกลมรี ทรงมนรี หรือรูปไข่ ผลอ่อนจะมีสีขาวอมชมพู ส่วนผลดิบจะมีน้ำยางมาก ผลจะค่อย ๆ เข้มขึ้นเป็นสีแดงกระทั่งสุกจึงกลายเป็นสีดำ..