ตาเขม่น สัญญาณเตือนช่วยบอกลางหรือบอกโรค
เชื่อไหมว่า ใครก็ตามอายุเข้าขั้นมนุษย์ลุงมนุษย์ป้า
หรือไม่บางคนก็เลื่อนฐานะเป็นอากงอาม่าไปแล้ว
คงเคยคิดกังวลและเชื่อตามกันว่า อาการของ "ตาเขม่น" นั้น
เป็นอะไรที่มาเตือนให้ระวังนั่นโน่นนี่
โดยข้อสรุปสั้นๆ ว่า ถ้าตาเขม่นด้านขวา แปลว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี
ส่วนใครเขม่นข้างซ้ายล่ะก็ ต้องรีบไปซื้อลอตเตอรี่ให้ไวๆ เลย
แต่แท้จริงแล้วตาเขม่นเป็นสัญญาณบอกโรค?
อธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า Blepharospasm หรือภาวะตาปิดเกร็ง
ที่ชาวบ้านแบบเราเรียกว่าตาเขม่นนั้น เป็นส่วนหนึ่งของอาการ focal dystonia
ซึ่งเป็นภาวะความผิดปกติที่เกิดจากอาการเกร็งของกล้ามเนื้อดวงตา
มักพบในผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และช่วงอายุที่พบบ่อย คือ
ช่วงอายุประมาณ 40-60 ปี มักเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 ตา
อาการเริ่มต้นของภาวะนี้คือ มีกะพริบตาบ่อยครั้ง
ผู้ป่วยมักให้ประวัติว่ารู้สึกเคืองตาแสบตา
จากนั้นจะเริ่มมีอาการเกร็งหรือรู้สึกดึงรั้ง หรือแน่นรอบดวงตา
โดยเกิดขึ้นทั้งด้านบนและด้านล่าง ทำให้มีความลำบากในการลืมตา
ตาเริ่มหรี่แคบลงจนถึงตาเปิดไม่ได้ชั่วขณะ อาการจะเป็นๆ หายๆ
โดยระยะเวลาที่เกิดเป็นวินาทีถึงหลายนาทีได้
การโดนแสงแดดหรือไฟสว่างจ้ามากเกินและความเครียด วิตกกังวล
มักกระตุ้นให้เกิดอาการมากขึ้น ผู้ป่วยอาจมี sensory trick หรือ
การบรรเทาอาการจากการสัมผัสเบาๆ ที่บริเวณอื่น เช่น หางตาหรือแก้ม
แล้วทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาคลายตัว
ในระยะแรกของโรค จากนั้นอาการจะค่อยๆ หายไป
ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์ประเมินหาสาเหตุ เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
ฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องโชคดีหรือโชคร้ายนะ เพราะเป็นมากๆ ไม่หาย
ก็เป็นสัญญาณของปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรงได้อีกต่างหาก
จึงควรจะหมั่นสังเกตอาการ และปรึกษาหมอดีกว่า
ถ้าตาเขม่นบ่อยๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น..เตือนตัวเองด้วยว่า
ควรปรึกษาหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ