ชิงเปรต ภาคใต้ กำลังมาแล้ว
ประเพณีสารทเดือนสิบ ภาคใต้
ชิงเปรต คำนี้มีทั้งความเชื่อและเรื่องเล่า ประเพณีส่งต่อจากอดีตถึงปัจจุบัน
สารทเดือนสิบ เป็นประเพณีไหว้บรรพบุรุษได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูและระลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ผ่านการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่ยืนยันได้ว่าประเพณีเดือนสิบไทยเริ่มต้นเมื่อใด เกิดขึ้นที่ไหน นักวิชาการส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นการรับอิทธิพลจากอินเดีย
ในศาสนพิธีของฮินดูปรากฏพิธีหนึ่งที่เรียกว่า “ศราทธะ” เป็นการทำทักษิณาอุทิศแก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ 3 ชั้น คือ บิดา ปู่ และทวด โดยกระทำในวันเผาศพหรือวันครบรอบวันเสียชีวิต เมื่อทำทักษิณาอุทิศแล้วก็ต่อด้วยการกรวดน้ำลงในแม่น้ำ
ส่วนอาหารเซ่นพลีนำโปรยทานให้แร้งกา และเชิญพราหมณ์มาถวายอาหาร เครื่องบูชา และ ผ้านุ่ง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพราะเชื่อว่าผู้ล่วงลับมีความหิวกระหายและเปลือยกายทรมานในที่หนาวเย็น ต่อมาพิธีศราทธะเปลี่ยนเป็นพิธีปุพพเปตพลีในภายหลัง เมื่อพราหมณ์จำนวนหนึ่งหันมานับถือพระพุทธศาสนาแล้วก็ยังคงถือปฏิบัติพิธีปุพพเปตพลีอยู่ เนื่องจากเป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีแก่ผู้ล่วงลับและเกิดความสุขแก่ผู้ปฏิบัติแต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของพิธีกรรมไปตามลักษณะถิ่นอาศัยบ้าง
สารทเดือนสิบของคนภาคใต้เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปีตามปฏิทินจันทรคติถือเป็นวันรับตายายหรือวันรับเปรต คนใต้มีการนำภัตตาหารไปทำบุญที่วัดเพื่อเป็นการต้อนรับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับกลับสู่โลกมนุษย์เท่านั้น ส่วนวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปีเป็นวันส่งตายายหรือวันส่งเปรตกลับสู่ภพภูมิเดิม โดยทั่วไปคนใต้ให้ความสำคัญกับวันส่งตายายมากกว่าวันรับตายายและมีการละเล่นอีกหนึ่งอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ การชิงเปรต ซึ่งปีนี้เป็นปีเถาะ พ.ศ.2566 สารทเดือนสิบตรงกับวัน
วันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566 / วันรับตายายหรือวันรับเปรต
วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2566 / วันส่งตายายหรือวันส่งเปรต