เสื้อเกราะกันกระสุนสมัยใหม่ที่ทหารในหลายประเทศใช้ และเสื้อเกราะกันกระสุนของกองทัพไทย
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เสื้อเกราะสำหรับทหารในสมรภูมิได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่ผลเสียคือมันก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากด้วย ในช่วงหลายทศวรรษหลังมานี้ เสื้อเกราะสมัยใหม่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ที่เรียกกันว่า "เคฟลาร์" ซึ่งนำไปรวมกับแผ่นโลหะหรือไม่ก็เซรามิกเพื่อช่วยป้องกันแรงกระแทก
จริงอยู่ที่เสื้อเกราะสมัยใหม่แบบนี้ช่วยป้องกันกระสุนและภัยคุกคามได้ แต่ก็มีน้ำหนักกว่าเสื้อเกราะสมัยก่อนที่ใช้เส้นใยไนลอนช่วยรับแรงกระแทกหลายชั้นซึ่งบางทีก็มีแผ่นไฟเบอร์กลาสด้วย
ทหารที่ใส่เสื้อเกราะ ให้ความคิดเห็นว่า ในการสวมเสื้อเกราะเคฟลาร์ มันมีข้อเสียเวลาต้องใส่ในประเทศที่อากาศร้อน คือทหารสามารถพกอาวุธและกระสุนซึ่งจำเป็นต้องใช้ได้น้อลง
กองทัพทุกประเทศล้วนเจอปัญหาเรื่องน้ำหนักและความสบายของเสื้อเกราะ ตัวอย่าง เช่นเสื้อเกราะเต็มรูปแบบของกองทัพสหรัฐอเมริกาซึ่งมีแผ่นป้องกันกระสุน 4 แผ่น มีเกราะกันตรงคอและเป้ากางเกง มีน้ำหนักรวมถึงเกือบ 14 กิโลกรัม เทียบกับเสื้อเกราะสมัยสงครามเวียดนามที่หนักแค่ 3.6 กิโลกรัม
น้ำหนักแต่ละกิโลกกรัมที่เพิ่มเข้าไปกลายเป็นภาระที่หนักอึ้งของทหารสมัยนี้ อย่างทหารราบสหรัฐ ในอิรักและอัฟกานิสถานต้องถือสัมภาระที่ประกอบไปด้วยอาวุธ อาหาร และเครื่องมืออื่นๆ ที่หนักรวมถึง 45 กิโลกรัม
เมื่อเวลาผ่านไป การต้องถือของหนัก ก็ส่งผลต่อร่างกาย ในสหรัฐ กระทรวงการทหารผ่านศึก บอกว่าระหว่างปี 2003ถึง2009 มีทหารเกษียณพร้อมปัญหาด้านกล้ามเนื้อและโครงกระดูกเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า
ในช่วงกว่า 40 ปีผ่านไปที่การผลิตใช้เส้นใยเคฟลาร์เป็นหลัก ตอนนี้มีวัสดุใหม่ในการทำเสื้อเกราะแล้วมีชื่อว่า ultra-high molecular weight polyethylene
เสื้อเกราะนี้ได้ความแข็งแกร่งมาจากโมเลกุลประกอบเส้นใยที่มีขนาดยาวมากและก็ใช้กระบวนการผลิตสมัยใหม่ ผู้ผลิตเสื้อเกราะ UHMWPE บางรายบอกว่ามันมีความแข็งแกร่งมากกว่าเหล็กกล้าน้ำหนักเท่ากันถึง 15 เท่า
มีการผลิตเสื้อเกราะจากวัสดุนี้มาหลายทศวรรษแล้ว แต่มันเพิ่งจะได้รับการยอมรับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และกองทัพบางประเทศก็เริ่มใช้เสื้อเกราะชนิดนี้แล้ว
แต่อีกปัญหาหนึ่งในการผลิตเสื้อเกราะคือ นอกจากจะกันกระสุนหรือสะเก็ดระเบิดได้แล้ว มันต้องสามารถป้องกันแรงกระแทกที่จะส่งต่อไปยังผู้ใส่เสื้อเกราะได้ด้วย
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ผลิตก็จะแก้ปัญหานี้ด้วยการเสริมพลาสติกโพลีเอทิลีนหรือวัสดุอื่น แน่นอนว่านี่ก็จะยิ่งทำให้เสื้อเกราะหนักเพิ่มขึ้นอีกแต่ บริษัทผู้ผลิตบาง บริษัทอย่าง สกายเด็กซ์ ได้กล่าวว่าวัตถุดิบที่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนขึ้นจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น เสื้อเกราะรุ่นใหม่ ที่ใช้วัสดุอย่างโบรอนคาร์ไบด์
การพัฒนาของเทคโนโลยีด้านนี้จะช่วยให้ทหารหรือตำรวจสามารถใส่เสื้อเกราะที่ช่วยป้องกันกระสุนหรือสะเก็ดระเบิด และสามารถป้องกันแรงกระแทกที่จะส่งต่อไปยังผู้ใส่เสื้อเกราะได้ด้วย
การพัฒนาเสื้อเกราะในกองทัพไทย ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศในการพัฒนางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
การพัฒนา “เกราะกันกระสุน” ยุทธภัณฑ์ที่ช่วยลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของทหารและตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ประชาชนและประเทศ ซึ่งศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สวทช.
ได้นำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเซรามิก เซรามิกคอมโพสิทมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแผ่นเกราะกันกระสุน ให้มีน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งและมีความแข็งแรงสูง สามารถรับมือกับอาวุธที่มีอำนาจการทำลายล้างและการทะลุทะลวงสูงขึ้น
ทั้งนี้เอ็มเทค สวทช. ได้ร่วมมือกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ต่อยอดงานวิจัยพัฒนาเป็น “เสื้อเกราะกันกระสุน” ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมเซรามิกความบริสุทธิ์ 96% และเส้นใยโพลีเอทิลีนคอมโพสิทสมบัติเชิงกลสูง
โดยมีอายุการใช้งานนานกว่าเสื้อเกราะกันกระสุนทั่วไป และมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อชุด ซึ่งต่ำกว่าราคาเสื้อเกราะกันกระสุนระดับเดียวกันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเกือบเท่าตัว
เสื้อเกราะกันกระสุนที่ผลิตขึ้นนี้เป็นเสื้อเกราะชนิดแข็ง ใช้แผ่นกันกระสุนที่ประกอบด้วยแผ่นกระจายแรงและแผ่นดูดซับแรง แผ่นกระจายแรงทำจากเซรามิกส์และโลหะ ส่วนแผ่นดูดซับแรง
โครงการวิจัยเสื้อเกราะกันกระสุนของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผลิตจากแผ่นโพลิเมอร์ HDPE คอมโพสิตที่มีความแข็งแรงสูง โดยได้ดำเนินการวิจัยผลิตเส้นใยสมบัติเชิงกลสูงเสริมแรงโพลีเอทิลีน ซึ่งแผ่นเกราะแข็งนี้มีลักษณะเป็นแผ่นโค้งที่ออกแบบให้รับกับสรีระของคนไทย
แผ่นกระจายแรงที่อยู่ด้านนอกจะทำหน้าที่ทำลายหัวกระสุน และด้วยคุณสมบัติของวัสดุเซรามิกส์ที่เบาและแข็งสามารถทำลายหัวกระสุนที่มีความเร็วสูงให้แตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ได้ ส่วนความแข็งช่วยให้กระจายแรงได้ดี สำหรับแผ่นดูดซับแรงโพลิเมอร์คอมโพสิทที่อยู่ด้านในทำหน้าที่ลดแรงกระแทกที่เหลือ
เสื้อเกราะกันกระสุนนี้มีน้ำหนักเพียง 9 -10 กิโลกรัม และผ่านการทดสอบคุณภาพจากกองพลาธิการและสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วว่ามีประสิทธิภาพการป้องกันภัยของเกราะบุคคลในระดับ 3 ตามมาตรฐาน NIJ
ของสหรัฐอเมริกา คือสามารถป้องกันกระสุนปืน 7.62 ม.ม. ปืนเอ็ม-16 และปืนไรเฟิลได้ เสื้อเกราะแบบนี้ ถูกมอบให้นำไปใช้งานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
สำหรับกองทัพบกไทยก็ได้มีการพัฒนาเสื้อเกราะออกมาแต่ไม่ได้มีข้อมูลมากนัก ซึ่งกำลังพลที่่ใส่ส่วนใหญ่บอกว่ามีน้ำหนักมากและไม่คล่องตัว เสื้อเกราะของกองทัพบกมีการแจกจ่ายให้กำลังพลใช้งานในภารกิจต่าง และพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้