หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ การเงิน Pic Post
 
Page หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype
 
อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่
 
เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ
 
คำนวณ การเงิน ราคา BitCoin/Crypto
 
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
 
Login เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
 
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำไม?? รางรถไฟต้องรองด้วยก้อนหิน

              แม้ว่าหลายคนจะกล่าวว่า การเดินทางโดยรถไฟค่อนข้างจะอันตราย  ถึงอย่างนั้นก็ตาม การเดินทางโดยสารทางรถไฟก็ยังคงเป็นหนึ่งในประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นเต้น เพราะไม่เพียงแค่ได้เห็นภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติสองข้างทางแล้ว  แต่ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศของชุมชนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมพื้นเมืองที่แตกต่าง ความงดงามทางศิลปะของวัดวาอาราม และสถานที่สำคัญ ตลอดจนรอยยิ้มของผู้คน  อย่างไรก็ดีอีกสิ่งหนึ่งที่เกือบจะมองเห็นได้ตลอดเส้นทางรถไฟก็คือ ก้อนหินขนาดเล็กที่อัดแน่น และรองรางรถไฟไว้ เคยสงสัยหรือไม่ว่าเหตุใดจึงมีก้อนหินเหล่านั้นวางอยู่แทบจะตลอดเส้นทาง

              ก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ที่เรามองเห็นว่าถูกวางไว้บริเวณรางรถไฟนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อประดับตกแต่งให้สวยงาม แต่เป็นหินโรยทาง 
(Track ballast) ที่ถูกวางไว้ในบริเวณด้านข้างของรางรถไฟ (Railway Tracks) และในระหว่างหมอนรองรางรถไฟ (Railway Sleepers) ทั้งนี้หมอนรองรางรถไฟเป็นวัสดุที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง เหล็กกล้า หรือคอนกรีตอัดแรงที่มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมมุมฉาก  ซึ่งติดเข้ากับรางรถไฟในลักษณะของการวางตั้งฉากกับรางรถไฟที่ทอดตัวยาวขนานกันตามเส้นทาง  โดยมีบทบาทช่วยยึดจับรางรถไฟทั้งสองเส้นให้อยู่กับที่และมีระยะที่เท่ากัน อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ของการวางหินไว้ตลอดแนวทางรถไฟนั้นเพื่อยึดโครงสร้างของรางรถไฟไว้ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง

              หากลองจินตนาการถึงความท้าทายด้านวิศวกรรม ที่ต้องคำนวณการสร้างรางรถไฟแคบ ๆ เพื่อรองรับการวิ่งของยานพาหนะขนาดใหญ่ที่ต้องบรรทุกทั้งผู้โดยสาร และหัวรถจักรที่มีน้ำหนักกว่าหลายร้อยตันในระยะทางหลายกิโลเมตร พร้อมกับปัจจัยในเรื่องของการหดและขยายตัวจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ การสั่นสะเทือนของพื้นดิน การชะล้างจากน้ำฝนหรือหิมะ รวมทั้งการเจริญเติบโตของวัชพืชใต้พื้นดิน  ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้การขนส่งระบบรางเป็นเรื่องที่น่าสนใจ

              การสร้างทางรถไฟ เริ่มต้นจากพื้นดินเดิม (Subsoil) ที่ถูกยกพื้นให้สูงขึ้นด้วยวัสดุที่รองรับโครงสร้างของระบบการปูผิวหน้า โดยจะยกให้สูงขึ้นในระดับที่จะไม่เกิดน้ำท่วม ด้านบนของพื้นที่ถูกยกสูงขึ้นนั้น จะถูกปูด้วยหินโรยทางรถไฟก่อนที่จะมีการติดตั้งรางรถไฟและหมอนรองรางรถไฟเข้าด้วยกัน  จากนั้นจึงจะเทกลบด้วยหินโรยทางอีกครั้ง หินที่มีลักษณะขอบไม่เรียบ จะช่วยยึดรางรถไฟไว้ในตำแหน่งที่มีการคำนวณอย่างแม่นยำแล้วทางวิศวกรรมระบบราง

              ในความเป็นจริงแล้ว นอกจากหินโรยทางจะทำหน้าที่ยึดรางรถไฟกับหมอนรองรางรถไฟไม่ให้เคลื่อนไปตามพื้นผิว ในขณะที่รถไฟที่มีน้ำหนักมหาศาลเคลื่อนผ่านแล้ว ยังช่วยป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการหดและขยายตัวของรางรถไฟจากความร้อน การสั่นสะเทือนของพื้นดิน และช่วยถ่วงน้ำหนักไม่ให้รางรถไฟลื่นไถลไปตามกระแสน้ำหรือหิมะในวันที่สภาพอากาศเลวร้าย รวมทั้งป้องกันความเสียหายของหน้าดินในชั้นดินเดิมโดยช่วยในการระบายน้ำรอบตัวรางและใต้รางรถไฟ นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้พื้นดินต่ำลงจากวัชพืชที่เติบโตขึ้นบริเวณรางรถไฟจากข้อมูลข้างต้นหลายท่านคงทราบถึงความสำคัญของหินที่อยู่ในบริเวณรางรถไฟแล้ว ดังนั้นการหยิบก้อนหินโรยทางขึ้นมาขว้างเล่นจึงไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมสำหรับการระบายความเครียด

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.stkc.go.th/stiarticle/เคยสงสัยไหม-ทำไมรางรถไฟต้องถูกรองด้วยก้อนหิน
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: Mac Casanova
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
จังหวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในภาคอีสานของไทยงดข้าวเย็น กินอะไรแทน เมนูอิ่มท้อง ช่วยลดน้ำหนักได้จังหวัดในเขตภาคอีสานที่เคยมีพื้นที่ ขนาดกว้างใหญ่ที่สุดประเทศไทยจังหวัดที่ขาดการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวมากที่สุดในไทยจังหวัดเดียวที่มีน้ำท่วมมากที่สุดในประเทศไทยประเทศที่อาชีพครู มีเงินเดือนสูงมากที่สุดอันดับหนึ่งในโลกห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่สวยงามและหรูหราที่สุดของประเทศไทยประเทศที่จับปลาได้มากที่สุด อันดับที่หนึ่งของโลกประเทศที่มีค่าครองชีพที่สูงที่สุดในปี พ.ศ. 2566
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เงินนอกงบประมาณ? แหล่งเงินในการจัดทำโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนยาคุมกำเนิดแบบปกติได้จริงหรือเกร็ดความรู้คู่แรงงาน ตอน"นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างหลังเลิกจ้างภายในกี่วัน?"คำพิพากษาฎีกา "กรณีที่ถือเป็นค่าจ้าง" และ "กรณีที่ไม่ถือเป็นค่าจ้าง"
ตั้งกระทู้ใหม่