สุขบั้นปลาย
**
**สุขบั้นปลายในชีวิตให้คิดตระหนัก
ต้องรู้จักลด-ละ-วางอย่างควรที่
กินพออิ่มชิมรู้รสแค่พอดี
ใช้วิถีความพอเพียงเลี่ยงทุกข์ตรม
สิ่งใดทุกข์อย่าเข้าใกล้ไม่ประชิด
รู้จักคิดแก้ปัญหาพาสุขสม
อย่าเก็บตัวมัวเกียจคร้านพาลระทม
ยิ่งขื่นขมยิ่งจิตตกหมกไหม้นาน
*ผู้สูงวัยแต่ละคน เลือกใช้ชีวิตที่ต่างกันไปตามจริตและเนื้อนาบุญ หลายคนมุ่งหาความสงบสุขจากธรรมะ การปฎิบัติธรรม สร้างสมาธิ และหาทางหลุดพ้นจากทุกขเวทนายามไปสู่สุคติ
อีกหลายคนเลือกอยู่กัยปัจจุบัน แสวงสุขยามที่ยังมีกำลังวังชา อยากไปทุกถิ่นที่ตามที่ใจปรารถนา เดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆให้ชีวิต มีความสุขเพื่อชดเชยให้กับช่วงเวลาชีวิตที่หดหายไปเพราะหมกมุ่นกับการงานและการทำมาหากิน
ยังคงมีอีกหลายคนที่ยังต้องดิ้นรนทำงานประกอบสัมมาชีพตามอัตตภาพ ตำข้าวสารกรอกเฉพาะหม้อ เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านสะสมไว้เพื่อยังชีพไปวันๆ แล้วท่องคำปลอบประโลมใจให้มีสุขกับความพอเพียงที่พอมีและพอกินอย่างพอควรที่พอใจ
ด้วยเหตุนี้ ผู้คนกลุ่มที่ยังเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการหาเลี้ยงชีพ จึงเป็นที่ชิงชังรังเกียจจากคนที่มีเหลือเฟือว่า มัวแต่งกหาเงินจนไม่มีเวลาให้ผู้ใด
แต่รู้หรือไม่ว่า ความสุขบั้นปลายของผู้คนกลุ่มนี้ คือสุขที่ไม่ต้องเบียดเบียนผู้ใด แม้ในบางครั้งจะอ่อนล้าจนเกียจคร้าน เก็บตัวเพราะกลัวไม่มีเหลือ จึงต้องลด-ละ-วาง แล้วตะโกนก้องให้โลกรู้ราวกับเกิดดวงตาเห็นธรรมว่า...
"โซก็เสาะใส่ท้อง จับเนื้อกินเอง"