ทำไมเก้าอี้และผ้าม่านในโรงภาพยนตร์จึงมักเป็นสีแดง ?
เชื่อว่าคุณผู้อ่านทุกคนคงเคยไปโรงภาพยนตร์กันมาแล้วทุกคน และถ้าได้ไปตอนที่ภาพยนตร์ในโรงยังไม่เริ่มฉาย หรือฉายจบแล้วยังนั่งดู End Title จนกระทั่งโรงเริ่มเปิดไฟสว่างอีกครั้งก็คงจะเห็นว่าส่วนใหญ่แล้ว The Theatre are Reds คือมันแดงไปหมดทั้งเบาะหุ้มเก้าอี้ พรมทางเท้า รวมไปถึงผ้าที่ม่านที่บุอยู่โดยรอบ และก็อาจจะมีหลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงต้องแดงกันขนาดนั้น จะเป็นสีอื่นบ้างไม่ได้หรือไง
คำตอบคือ เพราะสีแดงจะช่วยให้คุณภาพการชมภาพยนตร์ดีขึ้นนั่นเอง
เราคงจะเรียนกันมาแล้วทุกคนว่า ตาของคนเราประกอบด้วยเซลล์รับแสงสองชนิด คือชนิดแท่ง (Rod) ซึ่งจะทำงานได้ดีในที่มืด และชนิดกรวย (Cone) ซึ่งจะช่วยในการจำแนกสีสัน ในสภาพที่มีแสงสว่างมาก เซลล์รูปกรวยจะทำงานได้ดีกว่า แต่เมื่อแสงลดลง เซลล์รูปกรวยจะเริ่มลดประสิทธิภาพลงและเซลล์ชนิดแท่งจะเข้ามามีบทบาทแทน และแสงสีแรกที่จะเริ่มหายไปจากการมองเห็นของตาเราก็คือแสงสีแดงนั่นเอง เนื่องจากเป็นแสงที่มีความยาวคลื่นมากสุด ส่วนแสงสีม่วงซึ่งมีความยาวคลื่นสั้นสุดก็จะหายไปเป็นลำดับสุดท้าย ปรากฎการณ์นี้ค้นพบโดย Purkinje นักวิทยาศาสตร์ชาวเช็ก ตั้งแต่เมื่อปี 1819 แล้ว ดังนั้นการที่โรงภาพยนตร์ใช้เก้าอี้และม่านสีแดง ก็เพื่อทำให้มันหายไปจากการมองเห็นของเราได้เร็วที่สุดในขณะที่ไฟในโรงภาพยนตร์ค่อย ๆ มืดลง จะได้ไม่เป็นการรบกวนมองเห็นของผู้ชม และทำให้สายตาผู้ชมเพ่งความสนใจไปที่จอภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว
ส่วนชนิดของผ้าที่ใช้ทำผ้าม่านรวมถึงนำมาหุ้มเก้าอี้นั่งนั้น มักจะเป็นผ้าที่เรียกว่า Velour ซึ่งเป็นผ้าได้จากการนำเส้นใยมาถักเป็นห่วงและตัดให้เรียบตลอดพื้นผิว ซึ่งนอกจากจะมีเนื้อหนาและนุ่มนั่งสบายแล้ว ผ้าชนิดนี้จึงมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถดูดซับเสียงได้ดีอีกด้วย จึงช่วยเสียงสะท้อนภายในโรงภาพยนตร์ ทำให้คุณภาพเสียงภายในโรงภาพยนตร์คมชัดและไม่มีเสียงสะท้อนรบกวนการฟังเสียงจากตัวภาพยนตร์อีกด้วย