The Longest Promise:ลำนำกระดูกหยก..สัญญารักยาวนานถึงไหน ?
เพราะกุหลาบหิมะดอกนั้น!
ลำนำรัก The Longest Promise เรื่องราวความรักที่มาครบรสทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสุข น้ำตา และดราม่าก็เริ่มต้นขึ้น
“... ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของข้าคือการได้อยู่เคียงข้างอาจารย์ เพราะคนที่ให้กำลังใจให้ข้าเรียนวิชาเวทย์นอกจากซื่อจื่อสืออิง ก็มีแต่อาจารย์...”
เป็นความปรารถนาของท่านหญิงน้อยจูเหยียนแห่งซีฮวง ที่ตั้งใจจะอยู่เคียงข้างคนที่ตนรักและศรัทธาตลอดไปไม่หวั่นกลัวความยากลำบากใดๆ.. ดังคำพูดอันบริสุทธิ์ใจของนางในวันมอบตัวเป็นศิษย์เอกว่า
เส้าซือมิ่ง: ข้าไม่ใช่อาจารย์ที่ใจดี การฝึกบำเพ็ญเจ้าจะลำบากมาก
จูเหยียน: ข้าไม่กลัวความยากลำบาก
เส้าซือมิ่ง: เจ้าจะโดดเดี่ยวมาก
จูเหยียน: ไม่หรอก เมื่อก่อนอาจารย์ก็อยู่คนเดียวโดดเดี่ยวจะตาย... นับจากนี้ข้าจะคอยอยู่เป็นเพื่อนอาจารย์
ต้นแหล่งพลังงานที่บันดาลให้ตั้งแต่วันรับเพื่อนใหม่เข้าสำนัก ชีวิตอันแสนสงบเงียบเรียบร้อยบนเขาจิวอิ๋อันงดงามขององค์รัชทายาทสืออิงผู้ละฐานันดรศักดิ์ มุ่งแสวงหามรรคาแห่งจิต บำเพ็ญเพียรเพื่อนำพลังแห่งเทพมาปกป้องใต้ล้าหวังสันติสุขของปวงประชา .. ก็เริ่มไม่เงียบอีกต่อไป
ต้องบอกว่า เป็นซีรีย์ดีๆอีกหนึ่งซีรีย์ ที่ซ่อนประเด็นในการใช้ชีวิต ความคิด ความเชื่อน่าสนใจมากกว่าความรัก ( แต่วันนี้จะคุยเรื่องความรักก่อน ^^) ..
ความรักของสืออิงและสาวน้อยจูเหยียน เป็นทั้งรักแรกพบ รักซึมลึกและลึกซึ้ง รักบริสุทธิ์ รักแบบสถานการณ์โบ๊ะบ๊ะพาไป รักแบบไม่รู้ตัวว่ารักไปแล้ว..มากมาย เลยเกิดเป็นmomentว้าวุ่นให้คุณผู้ชมยิ้มน้อยยิ้มเยอะไปกับความInnocentบวกความKeep Look ของเซียนนิ่งสืออิงกับความแก่นแก้วจอมซนของศิษย์เอกเจ้าเหยียนเอ๋อ
ทว่าความรักของทั้งสองก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหิมะ เพราะเงื่อนไขทั้งส่วนตัว และเหตุการณ์แวดล้อมรอบตัว แต่สุดท้าย.. ก็ลงเอยซาบซึ้งตามครรลองของกุหลาบหิมะเป็นสัญญารักมั่นที่ภพชาติกาลเวลาไม่อาจแยก
ซีรีย์เทพนิยายจบ แต่ผู้ชมช่างคิดอย่างเราไม่จบ .. ก็มานั่งนึกๆ ว่า...ในโลกของความจริง ความรักที่งดงามซาบซึ้งประหนึ่งเทพนิยายมีมั๊ย ? หรือว่ามีแค่ในเทพนิยาย ? รักแท้ในโลกของความจริงหน้าตาเป็นยังไง? สัญญานั้นมั่นคงยาวนานได้ถึงไหน ? แล้วอะไรที่ทำให้รักนั้นมั่นคงได้ตลอดรอดฝั่ง ? .. คู่รักไหนบ้างที่ทำอย่างนั้นได้ ?
นึกไปนึกมา... บางทีชีวิตจริงก็ยิ่งกว่าเทพนิยาย ทำให้นึกถึงคู่รักคู่หนึ่ง ที่ผูกพันลึกซึ้งและสัญญารักก็มั่นคงยาวนานพาคนสองคนชนะทุกอย่าง ร่วมเดินทางฟันฝ่าจนไปถึงจุดหมายปลายทางแห่งความสำเร็จของชีวิตได้อย่างงดงาม .. คู่รักที่กล่าวถึงนี้ คือ คู่รักคู่บุญคู่บารมี เจ้าชายสิทธัตถะและเจ้าหญิงพิมพายโสธรา .. คู่เนี้ยะ! แท้ทรูที่สุดในสามภพจบสากล!
เรื่องราวรักแท้ของทั้งสองพระองค์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4 อสงไขยแสนมหากัป ก่อนวันนี้ .. เจ้าชายสิทธิธัตถะ เป็นดาบสหนุ่มสำเร็จอภิญญา5 สมาบัติ8 ชื่อว่า “สุเมธ” (ฟิลเทพเซียนสำเร็จวิชาขั้นสูง..^^ ) ในกาลนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า “ทีปังกร”
วันนั้น ณ อมรวดีนครอันรุ่งเรือง ชาวเมืองกำลังช่วยกันถมหลุมบ่อเตรียมถนนหนทางให้สะอาดเรียบร้อย เพื่อต้อนรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทีปังกร และพระอริยสาวก 4 แสนรูป
เวลานั้นดาบสหนุ่มออกจากฌาณสมาบัติเหาะเข้ามาในเมือง เมื่อทราบว่าชาวเมืองกำลังเตรียมต้อนรับพระบรมศาสดา ก็รู้สึกปีติยินดีอย่างยิ่งที่จะได้เข้าเฝ้าพระบรมศาสดา จะได้สร้างกุศลใหญ่ จึงขอแบ่งพื้นที่ถนนจากชาวเมือง ชาวเมืองเห็นว่าดาบสหนุ่มเป็นผู้มีฤทธิ์ สามารถใช้ฤทธิ์จัดการถนนให้เรียบร้อยได้อย่างง่ายดาย จึงแบ่งส่วนถนนที่มีหลุมบ่อน้ำขังมากกว่าส่วนอื่นให้ แต่ดาบสหนุ่มคิดว่า ถ้าจะใช้ฤทธิ์นั้นเป็นการง่ายเกินไป ไม่สมกับที่ตนเลื่อมใสศรัทธาพระบรมศาสดา ดังนั้นจึงอุตสาหะขนดินขนทรายมาถมหลุมบ่อที่น้ำขังด้วยกำลังของตัวเอง แต่เหลือหลุมบ่อที่น้ำขังอีกหนึ่งช่วงตัว พระบรมศาสดาก็จะเสด็จมาถึง ดูสถานการณ์แล้วยังไงก็ไม่ทัน และเพื่อไม่ให้พระบาทของพระบรมศาสดาต้องเปื้อนโคลน ดาบสหนุ่มจึงทอดกายปิดหลุมบ่อนั้นและกราบทูนอาราธนาพระบรมศาสดาและเหล่าพระอริยสาวกดำเนินผ่านไปบนหลังของตนเอง
ในขณะนั้น ดาบสหนุ่มได้ระลึกถึงความปรารถนาของตนว่า “เราเองก็ปรารถนาพระโพธิญาณ จะเป็นดั่งพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และพามหาชนข้ามวัฏสงสารไปด้วยเช่นกัน”
พระบรมศาสดาทีปังกรพุทธเจ้า ทรงหยุดอยู่ที่ดาบสหนุ่ม แล้วทรงตรวจดูด้วยพุทธญาณ เห็นว่าดาบสหนุ่มผู้นี้ได้สร้างสมพุทธบารมีมาตลอด 16 อสงไขย ชาตินี้แม้ได้ฟังธรรมเพียง 4 บาท ก็สามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เข้าพระนิพพานได้ แต่ดาบสหนุ่มผู้นี้เป็นพระโพธิสัตว์หน่อเนื้อพุทธางกูรมีใจแน่วแน่ต่อพระสัมมาสัมโพธิญาณ มุ่งหวังจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดสรรพสัตว์ให้พ้นจากวัฏฏสงสารแห่งทุกข์เท่านั้น
พระบรมศาสดาจึงได้ประกาศพุทธพยากรณ์แก่ดาบสหนุ่มต่อพระอรหันต์ขีณาสพและมหาชน ณ ที่นั่นว่า
“… ท่านทั้งหลายดาบสผู้นี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า ความปรารถนาของดาบสผู้นี้จักสำเร็จในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้ ดาบสผู้นี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้านามว่าโคตมะ ..ในกาลนั้นจะมีนครนามว่า กบิลพัสดุ์ เป็นที่อยู่อาศัย พระมารดานามว่ามายา พระบิดานามว่าสุทโธทนะ พระอุปติสสะเป็นอัครสาวก พระโกลิตะเป็นอัครสาวกที่สอง พระเขมาเป็นอัครสาวิกา พระอุบลวัณณาเป็นอัครสาวิกาที่สอง พระอานนท์เป็นพุทธอุปัฏฐาก ดาบสจะมีญาณแก่กล้าแล้วออกมหาภิเนษกรมณ์ ตั้งความเพียรอย่างใหญ่ รับข้าวปายาสที่โคนต้นไทร เสวยที่ฝั่งเเม่น้ำเนรัญชรา ขึ้นสู่โพธิมณฑล และจักตรัสรู้ที่โคนต้นอัสสัตถพฤกษ์” .. เมื่อจบพุทธพยากรณ์ เหล่าเทวา และมหาชนต่างกล่าวสาธุการสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งจักรวาล
เหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ที่ดาบสหนุ่มเหาะมา จนถึงได้รับพุทธพยากรณ์ อยู่ในสายตาของสุมิตตาดรุณีน้อยโดยตลอด ตั้งแต่แรกเห็นนางก็เกิดความเลื่อมใสในดาบสหนุ่ม(เรียกว่าปลื้มตั้งแต่แรกพบ) เมื่อได้เห็นการกระทำของดาบสหนุ่ม ดรุณีน้อยก็ยิ่งเลื่อมใสมากขึ้น และเมื่อดาบสหนุ่มได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตภายภาคหน้าอย่างแน่นอน สุมิตตาก็ยิ่งเลื่อมใสศรัทธาอย่างท่วมท้น ( เรียกว่ารักล้นใจละ ^^ )
บัดนั้นเอง ดรุณีน้อยจึงได้แบ่งดอกบัวให้ดาบสหนุ่ม 5 กำเพื่อบูชาพระบรมศาสดา ส่วนตัวนางนำดอกบัวอีก 3 กำ เข้าไปกราบแทบเท้าพระบรมศาสดาและกล่าวอธิษฐานจิตตั้งความปรารถนาว่า
“ .. ข้าพระบาทมีปิติศรัทธาต่อท่านดาบสยิ่งนัก ข้าพระบาทขอตั้งความปรารถนา ขอเป็นบาทบริจาริกา ช่วยท่านดาบสสร้างสมบารมีให้สมบูรณ์ "
แต่เมื่อดาบสหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็พลันทักห้ามพยายามอธิบายถึงความยากลำบากของหนทางภายภาคหน้าว่า
“.. น้องหญิง เจ้าอย่าอธิษฐานเช่นนั้นเลย อสงไขยมหากัปนั้นยาวนานนัก เจ้าต้องเวียนว่ายตายเกิด ต้องทนทุกข์ ต้องเสียน้ำตาเพราะธารแห่งกรรมซัดเหวี่ยงในห้วงวัฏสงสาร อันเป็นดั่งมหาสมุทรกว้างไกลไร้ฝั่ง เมื่อเจ้าได้พบพระบรมศาสดาแล้ว จงเร่งทำพระนิพพานให้แจ้ง ข้ามห้วงวัฏสงสารเข้าสู่ฝั่งพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้เถิด..”
แต่กระนั้น รักก็คือรัก! ดรุณีน้อยสุมิตตายังคงยืนยันความปรารถนานั้นอย่างมั่นคง พระบรมศาสดาตรวจด้วยพุทธญาณ แล้วตรัสพยากรณ์สุมิตตาว่า
“ ..ดูก่อนมหาฤาษี ความปรารถนาโพธิญาณของท่านจักสำเร็จฉันใด ความปรารถนาเกื้อกูลแห่งพราหมณีผู้นี้จักสำเร็จฉันนั้น .. มหาฤาษี พรามหมณีผู้นี้จักเป็นผู้มีจิตเสมอกัน จักทำกุศลร่วมกัน กุศลกรรมเสมอกัน เป็นที่รักของบุญ เพื่อประโยชน์แก่ท่าน พราหมณีผู้นี้วาจาอ่อนหวาน น่ารักน่าเอ็นดูยิ่ง จักเป็นธรรมทายาทผู้มีฤทธิ์ของท่าน ความปรารถนาของนางจักสำเร็จ" สิ้นพุทธพยากรณ์ มนุษย์และเทวา ก็เปล่งเสียงสาธุการกึกก้องไปทั้งจักรวาล
(แปลความโดยสรุปให้เข้าใจชัดเจนขึ้นว่า .. การมีเพื่อนร่วมเดินทางคอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุน ย่อมดีกว่าเดินทางคนเดียว .. ดรุณีน้อยผู้นี้ก็มีคุณสมบัติเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง .. และจะบรรลุธรรมตามได้ด้วย.. นั้นเอง ^^ )
นับตั้งแต่ชาตินั้นมา ทั้งสองก็เป็นยอดกัลยาณมิตรในชีวิตซึ่งกันและกัน เกิดมาเป็นคู่รักคู่ชีวิตร่วมเดินทางข้ามวัฏสงสารฟันฝ่าอุปสรรคข้ามเวลาตลอด 4 อสงไขยแสนกัป คอยสนับสนุนกันและกันในการสั่งสมบุญสร้างบารมีจนเต็มเปี่ยมบริบูรณ์
ในชาติสุดท้าย เมื่อเจ้าชายสิทธิ์ถัตถะได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโคตมะ(ตามพุทธพยากรณ์) สุมิตตาพราหมณีในชาตินั้นมาเป็นพระนางพิมพายโสธราได้ขอออกบวชเป็นภิกษุณีพระนามว่า "พระภัททากัจจานาเถรี" เจริญภาวนา 15 วัน พระนางก็ได้บรรลุอรหัตผล พระบรมศาสดาทรงยกย่องพระนางว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลายผู้ได้บรรลุอภิญญาใหญ่ สามารถระลึกชาติได้ถึงหนึ่งอสงไขยกับอีกแสนกัปด้วยการระลึกเพียงครั้งเดียว เมื่ออายุได้ 78 พรรษา พระนางจึงขอกราบลาพระศาสดาปลงอายุสังขารว่า
“ ความทุกข์ยากนานาประการที่พระนางเคยได้รับตั้งแต่สร้างบารมีเคียงคู่กับพระองค์นั้น พระนางไม่มีความเสียใจเลย ทุกอย่างที่ทำไปทั้งบริจาคข้าวของเงินทอง เสื้อผ้า ทรัพย์สิน บุตรธิดา แม้แต่ชีวิตก็เพื่อประโยชน์แก่พระโพธิญาณของพระองค์เท่านั้น บัดนี้พระนางจะขอละจากพระพุทธองค์ เพราะได้กระทำที่พึ่งให้แก่ตนเองได้แล้ว จึงขอทูลลาเข้าพระนิพพาน ”
----
ดรุณีน้อยสุมิตตาจงรักภักดีคอยเคียงข้างไม่เคยหวั่นไหวต่อหนทางอันยาวไกลข้ามภพข้ามชาติ ยิ่งมีแต่ความรักความจริงใจความปรารถนาดีให้ไม่เคยลดน้อยไม่เคยแยกจาก พระโพธิสัตว์เองก็ให้ความรักความเมตตาเอ็ดดูเป็นคู่ชีวิตเป็นรักแท้แก่นางอย่างมั่นคงเสมอกัน จับมือดรุณีน้อยไม่เคยปล่อยแม้แต่ชาติเดียว พาเดินทางข้ามห้วงวัฏฏสงสารแห่งทุกข์ได้สำเร็จอย่างงดงาม
น้ำใจรักที่ทั้งสองมีต่อกัน เป็นความรักที่ไม่ใช่เพียงแค่ปรารถนาจะเคียงข้างไปตราบนานเท่านานเท่านั้น แต่มั่นคงและยิ่งใหญ่ด้วยปณิธานที่จะเกื้อกูลสรรพสัตว์ผู้เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายให้ได้ข้ามวัฏสงสารแห่งความทุกข์ไปด้วยกัน
ในที่สุด! ไม่ว่าในเทพนิยาย หรือในชีวิตจริง เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสัญญารักนั้นมั่นคงได้ และเป็น “..ความรักชนะทุกอย่างได้!..” (สืออิงกล่าวไว้) ไม่ใช่ความรักที่มากมายอย่างเดียว แต่เพราะคุณสมบัติของทั้งสองที่มีเสมอกัน คือ
- ศีล: ศีลคือ ความดีหรือคุณธรรมพื้นฐานของความเป็นมนุษย์(ที่มีคุณภาพความคิด จิตใจที่ดี)ซึ่งนั่นหมายถึง นิสัยดีๆ ความคิดดี คำพูดดี การกระทำดี ความรักจะไปต่อได้ไกล และมั่นคงแค่ไหน ความดีเหล่านี้เป็นเสาเข็ม เป็นฐานสำคัญ เมื่อพื้นฐานดีเสมอกันแล้ว คุณสมบัติสำคัญอื่นๆ ก็ต้องเสมอกันด้วยคือ ..
- จริงใจ(มีสัจจะ) ไม่ใช่จริงใจแค่กับคนๆเดียวที่เรารัก แต่ต้องจริงใจกับทุกอย่างในชีวิตด้วย: จริงต่อหน้าที่ จริงต่อภาระกิจ ต่อคำพูด และจริงใจต่อผู้คนในชีวิต นี่คือความจริงใจ 5 ประการ หากมีครบก็เป็นอันไว้ใจกันได้ เชื่อมั่นในกันและกันได้ จับมือร่วมเดินทางไปด้วยกันได้
- รักความก้าวหน้า ใช้ปัญญาในการใช้ชีวิต เพราะทุกคนต่างแสวงหาความสุข ความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าในชีวิตทั้งนั้น รักที่ดีต้องช่วยกันสร้างสรรค์ให้ชีวิตและจิตใจดีขึ้น ไม่ใช่วนเวียนย้ำอยู่ที่เดิม หรือปล่อยให้แย่กว่าเดิม พากันตกต่ำลำบากถอยหลังลงห้วยลงเหว แบบนั้นเรียกคู่เวรคู่กรรม รักแท้และรักดีต้องสนับสนุนกัน ฉลาดในการใช้ชีวิตช่วยกันคิดพัฒนาไปด้วยกัน เจริญก้าวหน้าไปพร้อมกัน พากันเดินไปสู่ความสำเร็จตั้งแต่ขั้นต้น จนกระทั้งถึงจุดหมายปลายทางอันสูงสุดของมนุษย์คือพ้นจากวัฏสงสารแห่งทุกข์
- รู้จักอดทน เพราะโลกและชีวิตไม่ได้มีแต่ด้านที่สุขสดใสสวยงามเท่านั้น ความไม่ราบรื่น ปัญหาอุปสรรคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ฉะนั้นในยามขัดข้องทุกข์ยากลำบากไม่ว่าเล็กน้อยหรือมากมายระดับไหน ความอดทนเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะช่วยให้ผ่านความยากลำบากไปด้วยกันได้
- รู้จักเสียสละ รู้ว่าสิ่งใด เมื่อใด ควรให้ ควรแบ่งปัน ควรปล่อยวาง ควรยอมเสีย ควรสละออกจากตัวหรือจากใจ เพื่อคนรัก และเพื่อส่วนรวมได้ สิ่งนี้จะทำให้ความรักของคนสองคน เติบโตเป็นความรักที่ให้คุณค่าแก่ผู้คนอีกมากมายได้อย่างน่าชื่นชม
ไม่ว่าจะเป็นคู่รักพระโพธิสัตว์:ดาบสหนุ่ม&ดรณีน้อยสุมิตตา หรือคู่รักพระนาง:หนุ่มผู้ครองอาภรณ์เทพสืออิง&ท่านหญิงน้อยจูเหยียน หรือแม้คู่รักในเทพนิยายเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ล้วนมีคุณสมบัติดีๆ เหล่านั้นกันทุกคนทุกคู่ ...
ซึ่งคุณสมบัติดีๆที่ว่านี้ ไม่ได้สงวนไว้ให้ใครเป็นพิเศษ แต่เป็นคุณสมบัติสากลที่มนุษย์ทุกคนสามารถมีได้ เป็นได้ ฝึกได้ สร้างได้ เพราะสิ่งที่มนุษย์(คนอื่น)ทำได้ มนุษย์อย่างเราก็ทำได้อย่างแน่นอน อย่างที่สืออิงกล่าวไว้ว่า “ ขอเพียงแค่เจ้ายินยอม เจ้าก็ย่อมสามารถตามทัน เจ้าทำมันได้แน่นอน ..”
ดังนี้แล้ว ความปรารถนาของคุณผู้อ่าน คืออะไรละคะ ? ความรัก ความสุข ความดีงาม หรือความสำเร็จใดๆ ย่อมเป็นไปได้ทั้งนั้น
#ชีวิตก็เหมือนซีรีย์ที่คุณDesignได้!
ขอบคุณที่แวะมา ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีนะคะ ^^
ขอบคุณภาพประกอบ:
https://www.imdb.com/title/tt27460313/
The Longest Promise Episode 23 English Sub (Chinese Drama) [www.chinesedrama.in] – Bilibili
The Longest Promise (TV Series 2023-2023) - Backdrops — The Movie Database (TMDB)
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
การเดินทางที่ไม่สามารถที่จะระบุเวลาที่จะถึงได้ "แล้วแต่สถานการณ์ระหว่างทาง"
ความรู้นั้นมีการรวบรวม ส่วนของวรรณกรรมและเรื่องราวความเป็นมา (ปราสาทหินพิมาย)
"อย่าเดินเหยียบธรณีประตู" สิ่งที่ติดหูเรานั้นมาตลอด คำบอกเล่าจากยาย
ใต้เเสงไฟคริสมาสต์ จุดประกายความหวังครั้งใหม่

