ไส้ติ่งแตกเกิดจากอะไร
ไส้ติ่งอักเสบเป็นภาวะที่ไส้ติ่งอักเสบและติดเชื้อ ส่งผลให้ไส้ติ่งบวม แดง และเจ็บปวด หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ไส้ติ่งอาจแตกและเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในช่องท้อง ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของไส้ติ่งอักเสบคือการอุดตันของไส้ติ่ง สิ่งอุดตันอาจเกิดจากอุจจาระแข็งตัว สิ่งแปลกปลอม เช่น เมล็ดพืช หิน หรือการอักเสบอื่นๆ เช่น การติดเชื้อในลำไส้
นอกจากนี้ ไส้ติ่งแตกอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- อุบัติเหตุ เช่น การถูกกระแทกบริเวณท้อง
- การผ่าตัดในช่องท้อง
- โรคติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ อีสุกอีใส
- โรคประจำตัว เช่น โรคโครห์น
อาการของไส้ติ่งอักเสบมักเริ่มจากอาการปวดท้องบริเวณท้องน้อยด้านขวา ต่อมาอาการปวดจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และแผ่กระจายไปยังบริเวณอื่น เช่น ไหล่ สะโพก อาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วมด้วย ได้แก่
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพราะไส้ติ่งแตกเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้
การรักษาไส้ติ่งอักเสบคือการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยแพทย์จะทำการกรีดแผลบริเวณท้องน้อยด้านขวา จากนั้นจึงนำไส้ติ่งที่อักเสบออก การผ่าตัดมักทำภายใต้การดมยาสลบ
หลังจากการผ่าตัดผู้ป่วยมักต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน จากนั้นจึงสามารถกลับบ้านได้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การป้องกันไส้ติ่งอักเสบสามารถทำได้โดยการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือย่อยยาก