ตะเกียงรถไฟโบราณ
ในสมัยโบราณยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทุกบ้านต้องใช้ตะเกียงแทน การติดต่อสื่อสารกันในการเดินรถไฟ ตะเกียงจึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นเครื่องส่งสัญญาณสื่อสารกันระหว่างนายสถานีกับพนักงานรถจักร หรือพนักงานประจำขบวนรถไฟ
ในตอนกลางวันจะใช้สัญญาณธงเขียว ธงแดง ส่วนเวลากลางคืนจะใช้แสงจากตะเกียง ข้างในเป็นไส้ตะเกียงที่ต้องจุดไฟโดยใช้น้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิง ข้างในมีกลไกมือหมุนที่สามารถสลับสีกระจกแก้วสีเขียวและแดงที่ติดตั้งอยู่ด้านในตะเกียงได้
เมื่อไฟส่องกระทบกับกระจกแก้วสีเขียวสีแดงแล้ว จะทำหน้าที่เหมือนเป็นไฟฉายให้สัญญาณมือกับพนักงานขบวนรถไฟ ซึ่งในเวลาต่อมา ตะเกียงเหล่านี้ก็ถูกแทนที่ด้วยไฟฉายที่มีการดัดแปลงปรับสีได้แทน หรือบางสถานี นายสถานีก็จะนำตะเกียงเก่ามาดัดแปลงใส่หลอดไฟแล้วต่อระบบไฟฟ้านำมาใช้งาน
สัญญาณรถไฟเหล่านี้มีความหมายเพียง ให้ "หยุด" หรือ "ไป" ได้เท่านั้น หรือ "อนุญาต" และ "ห้าม" นั่นเอง