คราบเลือดเต็มผ้าขาวซักยังไงให้ออก

เลือดคือหนึ่งรอยเปื้อนที่แม่บ้านหลายท่านพบบ่อยไม่ว่าจะเลือดจากประจำเดือน เลือดกำเดา

โดยไม่รู้ว่ามีตั้งหลายวิธีที่สามารถกำจัดคราบเหล่านั้นได้ วันนี้จะมาบอกวิธีกำจัดคราบผ้าที่เปื้อนเลือด

ซึ่งมีให้คุณแม่บ้านได้เลือกใช้ ทั้งแบบเปื้อนใหม่ๆ และคราบฝังลึก แถมอุปกรณ์ก็มีอยู่ภายในบ้านก็ใช้ได้

-น้ำเย็น

รีบเช็ดคราบเลือดออกให้เร็วที่สุดด้วยน้ำเย็นหรือน้ำเกลืออ่อน ผสมผงซักฟอกสูตรอ่อนกับน้ำเย็น

ทาลงบนคราบเลือดแล้วทิ้งไว้ 15-30 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็นและซักผ้าตามปกติ

สำหรับคราบเลือดใหม่ๆ ที่เพิ่งเลอะ ให้เปิดน้ำก๊อกหรือใช้สายฉีด

ฉีดลงไปแรงๆ บนเนื้อผ้า แค่นี้คราบเลือดก็จะหลุดออกไปในทันที

-น้ำสบู่

การซักคราบเลือดออกด้วยน้ำสบู่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงนำผ้าจุดที่เลอะไปชุบน้ำพอหมาด

เทสบู่ลงไปบนคราบแล้วขยี้จนกว่าคราบเลือดจะหลุดออกแล้วนำไปซักด้วยผงซักฟอกต่อไป

วิธีนี้ค่อนข้างเห็นผล แต่ต้องใช้เวลานาน

ในกรณีที่เลือดยังติดอยู่จางๆ หลังจากใช้น้ำเย็นฉีดแล้ว ให้นำสบู่ละลายน้ำเล็กน้อย

จากนั้นนำไปขยี้บริเวณที่เปื้อน คราวนี้สะอาดหมดจดชัวร์   

-น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชู อีกหนึ่งเครื่องปรุงจากครัวที่มีฤทธิ์เป็นกรด ช่วยขจัดคราบต่าง ๆ

ได้เป็นอย่างดี น้ำส้มสายชูสามารถนำมาขจัดคราบเลือดบนผ้าได้เช่นกัน 

ใช้น้ำส้มสายชูกลั่นขาว ป้ายในบริเวณที่เปื้อนเลือด ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง

อาจใช้แปรงขนอ่อนช่วยซักอีกที แล้วนำไปแช่ในน้ำเย็น จากนั้นซักตามปกติ

-แป้งเด็ก

ใช้แป้งเด็กโรยบริเวณที่มีเลือด แต่ถ้าคราบเลือดนั้นแห้งสนิทจนแป้งไม่สามารถซึมเข้าไปได้

ให้ใช้น้ำหยดลงพอชุ่ม ทิ้งไว้ซักพัก คราบเลือดก็จะหายไป

แล้วนำมาซักตามปกติอีกครั้ง วิธีนี้ใช้กับผ้าที่เปื้อนมาแล้ว 1-2 สัปดาห์ได้

-น้ำมะนาว 

น้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด สามารถช่วยขจัดคราบเลือดที่ฝังลึกได้ เพียงนำผ้าเปื้อนชุบน้ำ

แล้วนำน้ำมะนาวผสมกับเกลือป้ายในบริเวณที่ต้องการ จากนั้นนำไปตากแดดสัก 2-3 ชั่วโมง

คราบก็จะซักออกง่าย ใช้ได้เฉพาะผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน ควรงดใช้กับผ้าไหม เพราะอาจทำให้เนื้อผ้าเสียได้

-น้ำยาล้างจาน

ใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำเล็กน้อย จากนั้นนำมาปาดบริเวณที่เปื้อนเลือด อาจนำแปรงขนนุ่ม

ที่ไม่ใช้แล้ว มาช่วยขยี้อีกที ก็จะช่วยให้คราบเลือดออกทันที

สิ่งสำคัญที่สุดคือคราบที่เปื้อนเลือดนั้น ต้องรีบลงมือทำให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่าให้โดนความร้อนต่างๆ

โดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้เลือดฝังลึกลงไปอีก คราวนี้จะใช้วิธีไหนก็ไม่สามารถช่วยให้คราบหายได้