วิญญาณเจ้าที่ !
วิญญาณเจ้าที่
ดิฉันไม่ใช่คนกลัวผีเพราะไม่เชื่อว่าผีมีจริง จนกระทั่งโดนดีเข้ากับตัวเองอย่างจังๆ ไม่หัวใจวายตายก็ถือว่าโชคดีแล้วค่ะ
สาเหตุมาจากญาติชื่อนกเพิ่งแต่งงาน และดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เรือนหอหลังงามย่านพุทธมณฑล แต่พูดแล้วแทบไม่น่าเชื่อนะคะ เพราะวิมานของคู่บ่าวสาวถึงกาลล่มสลายเมื่อเวลาผ่านไปเพียง 3 วัน!
คืนนั้นดิฉันจำได้ กลางดึกของคืนวันเสาร์ กำลังดูทีวีเพลินๆ ก็มีเสียงบีบแตรลั่น...เสียงรถของนกแน่ๆ บ้านพ่อแม่นก หรือนัยหนึ่งคือคุณลุงคุณป้าของดิฉันที่อยู่บ้านติดๆ กัน เสียงพูดจาเอะอะทำให้ดิฉันลงไปดู
ปรากฏว่านกกับสามีกำลังเล่าเรื่องอะไรสักอย่างให้พ่อแม่เธอฟัง...นกตื่นเต้น ตกใจ หน้าซีดปากสั่น บอกว่าโดนผีหลอกมาน่ะ!
ดิฉันหัวเราะเพราะไม่เชื่อเรื่องผี...สรุปว่านกเป็นห่วงบ้านแต่ไม่กล้าไปอยู่ ดิฉันรับอาสาไปนอนเฝ้าบ้านให้! ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ยังอยู่ที่นั่นครบครัน
สายๆ วันอาทิตย์ นกกับสามีก็ขับรถนำหน้ารถดิฉันไปที่บ้านนั้นเพื่อขนเสื้อผ้าออกมา เธอเป็นห่วงว่าดิฉันจะอยู่คนเดียวได้หรือ? ดิฉันตอบว่าได้สิ...ผีจะไม่หลอกคนที่ไม่กลัวผี จริงมั้ย?
เมื่อทั้งคู่กลับไป ดิฉันรู้สึกสบายๆ ยามบ่ายนั้นแสงแดดเจิดจ้า ดิฉันเปิดแอร์และเอาเครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาดบ้าน
คู่แต่งงานคู่ใหม่นี้ จ้างคนมาทำความสะอาดแบบเช้ามาเย็นกลับ เฉพาะวันจันทร์, พุธ, ศุกร์เท่านั้น ดิฉันจึงครองบ้านอย่างเสรี ดูดฝุ่นไปก็เปิดเครื่องเสียงซะลั่นบ้าน
ขณะดูดฝุ่นเพลินๆ ไฟก็ดับ เครื่องเสียงและเครื่องดูดฝุ่น รวมทั้งแอร์หยุดทำงานไปชั่วขณะ สรรพสิ่งเงียบกริบลงฉับพลัน ดิฉันชะงักงันไม่ถึงอึดใจไฟก็มา...เครื่องไฟฟ้าทุกอย่างกระตุกเล็กน้อยเพื่อเดินเครื่อง ก่อนทำงานของมันต่อไป
ตกใจนิดๆ แต่ไม่คิดอะไรมาก...นี่หรือเปล่านะ ปรากฏการณ์ผีหลอกที่นกกลัว? ไฟอาจจะดับๆ ติดๆ ทำให้เธอขวัญอ่อนผวา แต่ไม่ใช่เราแน่!
ค่ำนั้นดิฉันจัดการทำอาหารฝรั่งกินเอง...สเต๊กเนื้อสันกับสลัดผัก แต่เอ๊ะ! ไม่ได้ทอดปลาเค็มสักหน่อย ทำไมมีกลิ่นเหมือนปลาเค็มไหม้ๆ เหม็นอบอวล...มันคลุ้งอยู่ในบ้านจนต้องเปิดหน้าต่างประตูโล่งโจ้ง แถมเปิดพัดลมไล่กลิ่น
เมื่อมาดูทีวี จังหวะหนึ่งที่หันไปขยับหมอนอิง มีเงาดำๆ ผ่านจากด้านซ้ายไปด้านขวา เหมือนมีใครเดินผ่านดวงไฟที่เปิดอยู่ทำให้เกิดเงาขึ้น
ดิฉันหันขวับ ไม่ได้คิดว่าเป็นผีหรอกค่ะ แต่เมื่อหันไปแล้วก็ไม่เห็นใคร ในที่สุดก็เดินดูรอบบ้านรวมทั้งชั้นบน ว่าเราอยู่ลำพังจริงๆ เมื่อแน่ใจแล้วก็ล็อกกลอนประตูทุกด้าน บ้านนี้มีหลายห้องซะด้วย...นึกว่าถ้าเลี้ยงหมาเล็กๆ ไว้เป็นเพื่อนก็คงจะดี
ไฟดับอีกแล้วค่ะ!!
ดิฉันกำลังยืนคว้างอยู่กลางห้อง ตามืดบอดไป 2-3 วินาทีก็ชินกับความมืด และแล้วไฟก็ติด สว่างจ้า...มันกะพริบๆ ทุกดวงในบ้าน ทำให้บรรยากาศน่าสะพรึงกลัว...หลังจากกะพริบวูบๆ วาบๆ อยู่พักหนึ่งมันก็เปล่งแสงสว่างจ้า...
...จ้าขึ้น จ้าขึ้นจนน่ากลัวว่าหลอดจะระเบิด แต่แล้วก็หรี่ลงสู่ระดับปกติ
เสียงน้ำในครัวเปิดซ่า! เดินไปดูก็เห็นมันเปิดอยู่จริงๆ ค่ะ สงสัยก๊อกหลวม แต่พอทดลองเปิดมันก็ดีนี่คะ ดิฉันเปิดปิด ลองใหม่อีกที มันก็ปกติดีทุกอย่างเลย...
ไฟดับวูบขณะที่ยังจับก๊อกอยู่ ดิฉันกลั้นใจรอ...เดี๋ยวมันก็คงติด! แต่ไม่ติดค่ะ ไฟดับคราวนี้นานเหมือนกัน ดิฉันเช็ดมือกับผ้าขนหนูที่แขวนไว้ข้างๆ น้ำจากก๊อกทำเอาเปียกไปหมด...ทันใดนั้น ดิฉันรู้สึกว่ามีอะไรแกว่งอยู่ใกล้ๆ หัวไหล่ พอหันไปดูก็เห็นภาพนั้นเต็มตา...ภาพที่ทำให้หวิดช็อกคาที่!
สิ่งที่เขี่ยอยู่แถวไหล่ มันเป็นเท้าคนค่ะ! เท้าที่ลอยอยู่ในอากาศทั้งสองข้าง ดูซีดขาวจนน่ากลัว...มองไล่ขึ้นไปเป็นขา มันกำลังแกว่งไปมาน่าสยดสยองสิ้นดี
นี่มันขาคนผูกคอตายชัดๆ นี่นา!!
ไม่ต้องรออะไรแล้ว ดิฉันเผ่นออกจากบ้านได้ยังไงไม่รู้ วิ่งไปบ้านข้างๆ ร้องเรียกให้เขาช่วย ผู้คนตกอกตกใจกันใหญ่แต่ก็รีบมาช่วยเหลือ เป็นเพื่อนไปหยิบกุญแจรถในบ้าน และปลอบขวัญให้หายตกใจอยู่ตั้งนาน กว่าดิฉันจะขับรถกลับบ้านตัวเองได้
ว่ากันว่าเป็นวิญญาณเจ้าที่...เดี๋ยวนี้ดิฉันเชื่อเรื่องผีเต็มร้อยแล้วละค่ะ!