ทำยังไงถึงลดน้ำหนักได้กว่า 25 กิโลจาก 76 เหลือ 51
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การลดน้ำหนักกว่า 25 กิโลกรัมว่าทำอย่างไรค่ะ อยากรู้ไปอ่านกันเลยจ้า
เราตอนเด็กๆนั้นเป็นคนที่ผอมมากจึงไม่เคยกังวลเรื่องน้ำหนัก แต่พอเข้าช่วงวัยมัธยมก็กินมากขึ้นแต่น้ำหนักก็ไม่ได้ขึ้นมากมายนักด้วยความที่ไม่ได้กินเยอะมากขนาดนั้น แต่พอเข้าช่วงปิดเทอมม.6 ช่วงนั้นอยู่บ้านรอไปเรียนมหาวิทยาลัย เราได้กินมากขึ้นกินข้าวเยอะและก็กินขนมเยอะมาก กินข้าวเสร็จเราก็จะกินขนม ของหวานปิดท้ายอย่างน้อย 2-3 อย่าง และด้วยความที่อยู่บ้านไม่ได้ไปเรียนจึงไม่ค่อยได้ขยับตัว เอาแต่กินและดูมือถือ นอนบ้าง นั่งบ้างไปตามประสา พอมารู้ตัวอีกทีน้ำหนักก็ขึ้นไปมาก พอไปเรียนมหาวิทยาลัยก็ยังกินเยอะเหมือนเดิม จำได้ว่าเรากินน้ำหวานพวกชาเย็น กาแฟเย็น โกโก้บ่อยมากเพราะชอบกินมาก เราก็กินอย่างนี้มาเรื่อยๆจนจบมหาวิทยาลัย ปรากฏว่าน้ำหนักไต่ไปถึง 76 กิโลกรัม เราจึงได้ตัดสินใจลดน้ำหนัก แล้วเราก็ทำสำเร็จลดน้ำหนักลงมาได้ถึง 25 กิโลกรัม เหลือ 51 กิโลกรัม ถ้าอยากรู้ว่าเราทำอย่างไร ไปอ่านกันเลยค่ะ
เริ่มจากการกินเป็นอันดับแรกเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยเราได้ทำ IF ค่ะ เราเริ่มทำ IF 16/8 หรือก็คือกิน 8 ชั่วโมง อดอาหาร 16 ชั่วโมง เราจะเริ่มกินมื้อแรกตอน 10 โมงเช้า และกินมื้อที่ 2 ให้จบก่อน 6 โมงเย็น เราทำแบบนี้ประมาณ 1-2 เดือน น้ำหนักก็ลดลงมาเรื่อยๆ โดยเราได้ทำ IF ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายโดยการเดินวันละ 1-2 ชั่วโมง เราเลือกการเดินเพราะเหมาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะจะได้ไม่กระแทก หรือกระทบข้อเข่า ต่อมาเราได้เปลี่ยนจากการทำ IF แบบ 16/8 เป็น 18/6 คือ กิน 6 ชั่วโมง อดอาหาร 18 ชั่วโมง เราเริ่มกินตอนเที่ยงและกินมื้อสุดท้ายก่อน 6 โมงเย็น ช่วงนี้เราได้เดินออกกำลังกายเหมือนเดิมและเพิ่มการออกกำลังกายตามคลิปวิดีโอในยูทูป โดยเราเลือกของเบเบ้ค่ะเพราะสนุก เราเริ่มจากออกวันละ 10 นาที ต่อมาก็เพิ่มเวลามาเรื่อยๆเป็น 20-30 นาที สุดท้ายเราออกได้ถึง 60 นาทีเกือบทุกวันค่ะ และยังเดินเหมือนเดิมค่ะ ช่วงหลังๆก็ได้ทำ IF แบบ 20/4 คือกินมื้อแรกตอนบ่าย 2 โมง จบที่ 6 โมงเย็นค่ะ
การออกกำลังกายของเรานั้นเราจะออกสลับกันทั้งเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอค่ะ โดยเราจะเน้นออกเวทเทรนนิ่งเพราะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ เป็นการเพิ่มระบบเผาผลาญ ทำให้กลับมาอ้วนยาก ส่วนการออกคาร์ดิโอก็ออกเพื่อเผาไขมัน โดยคลิปเวทเทรนิ่งของเบเบ้ส่วนใหญ่จะใช้น้ำหนักไม่มากประมาณ 1-3 กิโลกรัม เราไม่มีดัมเบลจึงใช้ขวดน้ำแทนค่ะ เราอยากแนะนำให้ออกกำลังกายตามคลิปเบเบ้ค่ะ เพราะสนุกไม่น่าเบื่อ
ส่วนการกินนั้นถึงแม้เราจะกินอาหารแค่สองมื้อแต่เราจะพยายามกินสารอาหารให้ครบ แต่ก็มีการหลุดกินขนมบ้าง เราแนะนำว่าไม่ควรงดขนมหรือของที่ชอบไปเลย เราควรกินบ้างเพื่อไม่ให้เราเครียดจนเกินไป บางทีเรางดขนมระหว่างวัน แต่ไปโหยตอนกลางคืนกลายมาเป็นกินมื้อดึกแทนก็ไม่ดีค่ะ นอกจากนี้การงดขนมอาจทำให้ตบะแตกได้ด้วยค่ะ
สุดท้ายนี้อยากบอกเพื่อนๆว่าถึงแม้การลดน้ำหนักจะไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากถ้าเราพยายาม เราเชื่อว่าถ้าเราทำได้ทุกคนก็สามารถทำได้แน่นอน เป็นกำลังใจให้ค่ะ