แม่ผัวลูกสะไภ้ยิ่งกว่าละคร
กะทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นข้อคิดเตือนผู้หญิงที่กำลังจะมีครอบครัว
ก่อนวันแต่งงานแม่สามีก็ทำการไปบอกเล่าญาติพี่น้องให้มาร่วมงานพร้อมทั้งเล่าว่าเงินในการจัดงานนี้ก็ได้มาเอาจากป้า(พี่สาวว่ามี)
ซึ่งฝ่ายเจ้าสาวไม่ได้รู้เรื่องหรือไม่ได้ไปขอหยิบยืมเงินจากฝ่ายชายเลย จนชาวบ้านมาถามว่าไปเอาเงินเขามาจัดงานหรอ ฝ่ายเจ้าสาวงงในงงทั้งๆที่ไม่เคยไปพูดอะไรกับฝ่ายเจ้าบ่าวเลยประเด็นนั้นเจ้าสาวก็ทำใจไม่อะไรเฉยๆไป
พอถึงวันแต่งงานได้แต่งย้ายเข้าไปอยู่บ้านสามีกูไม่คิดอะไรเอาเงินใส่ไว้ในกระเป๋า พับแยกไว้ไปจ่ายค่าเนื้อหมูจำนวน 5000 บาท แล้ววันที่เข้าหอก็ได้มีการกินเลี้ยงเล็กๆกับญาติฝ่ายชายพี่น้องมาประมาณ7-8คน เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็เอาเครื่องดื่มเก็บไว้ในห้องหอ ญาติบางคนก็มาหยิบเครื่องดื่มเจ้าสาวก็ไม่ได้เอะใจอะไร งานเลี้ยงเลิกลาเจ้าสาวเข้าห้องเปิดเอาของในกระเป๋าที่เก็บเงินไว้ปรากฎว่าเงินในกระเป๋าไม่อยู่แล้ว ถามเจ้าบ่าวเจ้าย่าวก็ไม่รู้เรื่องถามแม่สามีก็ไม่รู้ไม่เห็น
เจ้าสาวก็ได้แต่ทำใจแล้วเงียบเพราะไม่มีหลักฐานกล่าวหาใครไม่ได้
อยู่มาเรื่อยๆแม่สามีเริ่มถามมีเงินในบัญชีเท่าไร มีเงินเก็บเท่าไร เขียนบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยนะ
ต้องบอกก่อนนะว่าฝ่ายภรรยาขายบ้านที่อยู่ระยองเพื่อมาอยู่กับฝ่ายชาย
แล้วก็นำเงินก้อนนั้นมาใช้จุนเจือครอบครัวจ่ายงวดรถจ่ายค่าข้าวของเครื่องใช้ค่าเดินทางไปที่ต่างๆพาครอบครัวไปเที่ยวซึ่งในขณะนั้น2สามีภรรยายังไม่มีรายได้ที่แน่นอนเพราะพึ่งย้ายมาจากระยองขนข้าวของมาจากระยองรถ6ล้อเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างแถมมาติดแอร์ให้แม่สามีอีก2ตัว
ในวันว่างแม่สามีก็ไปพบประเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องก็ได้ซุบซิบถึงลูกสะไภ้ว่า มันอะนะไม่เคยได้ใช้เงินตัวเองเลยทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่ป้าเป็นคนซื้อคนจ่ายของกินของใช้ในบ้านมันอะสบายเข้ามาอยู่ก็มีครบทุกอย่างเงินมันนะมีแต่เก็บไม่เคยได้ใช้เลย เสื้อผ้าก็มีแต่ป้าซักให้กับข้าวก็มีแต่ป้าทำ เสื้อตัวเดียวมันก็ไม่ซัก
ชาวบ้านได้ยินก็มาถามฝ่ายหญิงว่ามันจริงหรอ ฝ่ายลูกสะไภ้ได้ยินก็ยิ่งเก็บความรู้สึกไว้ไม่กล้าที่จะตอบโต้เพราะอยู่ในบ้านเขาทั้งๆที่ในใจรู้ว่าตัวเองทำงานบ้านทุกอย่างซื้อของใช้ทุกเดือนกับข้าวจ่ายทุกวัน
นึ่งข้าวเหนียวล้างจานก็จะมีพ่อสามีกับป้ามาคอยยืนคุมยืนดูว่าลูกสะไภ้ทำอะไรคอยดูคอยเช็คคอยมาตำนิทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ แล้วไปบอกแม่สามีแล้วแม่สามีก็เอาไปเล่าในวงนินทาอีกต่อ
เป็นแบบนี้เรื่อยๆฝ่ายลูกสะไภ้ก็ได้แต่ทนเข้าเดือนที่6-7เริ่มชวนสามีแยกบ้านสามีก็ตอบว่าไม่แยก จะอยู่กับพ่อแม่จนกว่าท่านจะเสียภรรยาก็เงียบไป
เข้าเดือนที่8-9ชวนแยกอีกพร้อมบอกเหตุผลว่าอึดอัดทำไรไม่ค่อยสะดวกการเงินแม่ก็คอยมาถามมาซักตลอดเหมือนขอท่านใช้จะซื้อครีมซื้อเสื้อซักตัวต้องขออนุญาต ท่านบอกว่าเราไม่ช่วยซื้อข้าวของเครื่องใช้ทั้งๆที่เราก็ซื้อตลอดแต่ท่านไม่เคยสนใจดูเลยสามีก็ไม่ยอมแยกอีกบอกภรรยาคิดมากเอง อดทนเอาสามีบอกภรรยาให้อดทน
แม่สามีบอกลูกสะไภ้วันนี้ไปกรอกทรายใส่กระสอบที่นานะ ทราย1รถดั้มบอกไห้ลูกสะไภ้ไปกรอก รดน้ำต้นไม้ที่นาด้วยนะทุกวันอย่าไห้บอก ให้อาหารปลาด้วยนะไม่ต้องให้บอกหลายครั้งให้ทำทุกวัน
ลูกสะไภ้ต้องตื่นไปกรีดยางคนเดียวตั้งแต่ตี2ขับมอไซออกไปสวนคนเดียวมืดๆทุกวันสวนทั้งมืดทั้งกลัวทั้งงูตะขาบในสวนยางพาราลูกสะไภ้ก็จำทนเพื่อค่านมลูกเพื่อค่าใช้จ่ายในครอบครัวทนคำเดียว
สามีก็ไปขับรถที่ต่างจังหวัดไปทีเป็นเดือนๆปล่อยให้ลูกสะไภ้อยู่กับแม่สามี ป้า พ่อสามี
และลูกน้อยวัย 1 ขวบ
จนวัน1ลูกน้อยป่วยมีขี้ตา แม่สามีบ่นลูกสะไภ้เป็นเพราะแม่มันเอาโทรศัพให้ลูกดูลูเลยเป็นแบบนี้ ลูกสะไภ้ก็ได้แต่เงียบ ไม่ตอบโต้
ซึ่งทุกๆวันป้า และแม่สามีก็เอาไอแพทให้หลานดูทุกวัน ลูกสะไภ้ก็คิดว่าดูได้มั้งไม่ได้คิดไรจนมาโดนบ่นว่าให้ดูโทรศัพท์
ลูกสะไภ้งงมากทำไมแม่กับป้าให้ดูไอแพทได้แล้วไปบอกคนอื่นว่าลูกสะไภ้ให้ดูโทรศัพท์
บ่อยๆๆเข้าหลายเดือนผ่านไปลูกสะไภ้ทนไม่ไหว พูดออกมาว่าแล้วทำไมแม่ให้ดูไอแพทได้แล้วทำำไมมาบ่นว่าหลานดูโทรศัพท์ถ้าจะไม่ไห้ดูก็ต้องไม่ให้ดูทั้งหมดงดจอไปเลย
แม่สามีได้ยินโมโหว่าลูกสะไภ้เถียงไปป่าวประกาศให้ชาวบ้านฟังว่ามันเถียงเกิดมาไม่เคยพบเคยเจอลูกสะไภ้จะมาเถียงแม่แบบนี้
ไปด่าลูกสะไภ้อีกนะแล้วไล่ให้ย้ายออกไปไม่ให้อยู่บ้านหลังนี้
ภรรยาโทรติดต่อสามีสามีบอกไม่ต้องออกไปทนอยู่ แล้วก็ติดต่อสามีไม่ได้อีกเลย
จนวันย้ายออกก็ติดต่อสามีไม่ได้
ภรรยาหอบลูกหอบข้าวของย้ายออกไปเช่าห้องอยู่ไกล้ๆตัวอำเภอ ไม่วายแม่สามีโทรถามเงิน6-7หมื่นไปไหนหมด
ลูกสะไภ้ตอบนี่มันเงินหนู หนูจะใช้ยังไงก็ได้
กระเป๋าเงินใครมันนะแล้วแม่เกี่ยวอะไรด้วย
ขนาดย้ายมาอยู่กับลูกเล็กๆ2คนยังไม่วายตามจิกเงินทอง
อยากเป็นกำลังใจให้สาวๆที่คิดจะมีครอบครัว ความรักไม่ใช่เรื่องของคน2คนอีกต่อไป มือที่3มาในรูปแบบแม่สามีแล้วลูกสะไภ้จะจัดการยังไง ในเมื่อสามีฟังแม่ตัวเองหมด