อาถรรพ์ "ป่าแก่งกระจาน"
ผืนป่าแห่งนี้เป็นผืนป่าที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศ มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเมียนมาร์ ผืนป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวตำนานความอาถรรพ์ และลึกลับของสิ่งที่มองไม่เห็น
"อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" บางคนก็เรียกว่า "หุบผาอาถรรพ์" ผืนป่าลึกลับที่มีเรื่องราวเล่าขานกันมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นของกลุ่มนักรบตระเวณชายแดนที่เข้าไปติดอยู่ในป่าถึง 35 วัน หรือล่าสุดที่มีเรื่องราวเฮลิคอปเตอร์ตกในป่าแก่งกระจานติดต่อกันหลายครั้งในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน หากหลายคนมองว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ที่ผืนป่าแห่งนี้มักเต็มไปด้วยเมฆหมอกฝน และลมหมุนบริเวณหน้าผาหรือเชิงเขาต่าง ๆ ทำให้เกิดอุบัติเหตุกับอากาศยานได้ง่าย หรือถ้าใครมองว่าเป็นเรื่องลึกลับอาถรรพ์ ก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์จะตกพร้อมกันหลายลำในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน และยังไม่นับรวมอีกหลายเรื่องราวของพรานป่าที่มีเรื่องราวลึกลับอาถรรพ์ที่มาเล่าสู่พวกเราตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา
จริงๆ แล้ว ในพื้นที่บริเวณอันกว้างใหญ่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานนั้น จะมีหลายช่วงหลายแห่งที่เป็นหุบผา ที่หลายคนเรียกว่า "หุบผาอาถรรพ์" ซึ่งจะเป็นบริเวณที่มีลมกรรโชกแรงอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผู้คนหรือสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้นถูกดูดเข้าไปในกระแสลม และตกลงไปในหุบเขาด้านล่างอันมืดมิด ซึ่งดูลึกลับน่ากลัว
หลายคนที่เคยเข้าไปในป่าแก่งกระจานนั้นบอกว่า หากคุณเดินอยู่ในป่า ความสูงใหญ่ของต้นไม้และความรกทึบ จะทำให้ป่าแก่งกระจานนั้นในช่วงเวลาบ่ายสาม หรือสี่โมงเย็น หากคุณอยู่ท่ามกลางป่าจะทำให้ช่วงเวลานั้นเหมือนช่วงเวลากลางคืนไปแล้ว สำหรับคนพื้นบ้านซึ่งอยู่บริเวณนั้นมาอย่างยาวนานต่างให้คำตอบตรงกันว่า นอกจากความสวยงามที่มีอยู่อย่างเต็มที่แล้ว หากมีผู้รุกล้ำเข้าไปโดยไม่เคารพยำเกรงผู้ที่เป็นเจ้าของสถานที่ หรือที่เรียกกันว่าเจ้าป่านั้น บุคคลผู้นั้นย่อมเจอกับอาเพศ หรืออาจจะมีจุดจบที่น่าสยดสยองทุกรายไป
ความน่ากลัวของป่าอาถรรพ์แห่งนี้เป็นที่รู้จักมานานมาก จนเมื่อเดือน กค.2554 เมื่อเกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกถึง 3 ลำติดต่อกันภายในระยะเวลาเพียง 9 วัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมากถึง 17 คน และมีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นทหารกล้าที่มีประสบการณ์การเดินป่ามาอย่างโชกโชน บางคนนั้นก็เคยทำงานในป่าแถบนี้มาหลายสิบปี และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็เกิดคำถามขึ้นมากมายว่า อาถรรพ์ของป่าแก่งกระจานที่เกิดขึ้นนั้น แท้จริงแล้วมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ จะเป็นสาเหตุของความอาถรรพ์ของป่าแห่งนี้ หรือเป็นเพราะสาเหตุจากธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ที่หลายคนหาคำตอบไม่ได้ ดังคำร่ำลือที่พูดกันมากในหมู่นักท่องไพรแถบนั้นก็คือ "หุบผาลมดูด" หรือที่เรียกกันว่า "หุบผาอาถรรพ์" ซึ่งเป็นบริเวณที่มีลมกรรโชกแรงอยู่บ่อยครั้ง ว่ากันว่าหากเกิดลมกรรโชกแรง สิ่งของหรือผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นจะถูกดูดเข้าไปในกระแสลม และตกลงไปในหุบเขา ซึ่งเคยมีนักผจญภัยจำนวนมากที่ต้องเอาชีวิตมาสังเวยให้กับหุบเขาแห่งนี้
หุบผาอาถรรพ์ดังกล่าวนั้น ได้ถูกร่ำลือกันมาอย่างยาวนานว่า เป็นเสมือนกับสุสานที่อยู่กลางป่าแก่งกระจาน นั่นก็เป็นเพราะว่าตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา บรรดาศพที่เกิดจากการสู้รบของทหาร ศพของชาวบ้าน พรานป่า หรือศพที่ตายจากสาเหตุต่างกันไปจะถูกนำมาทิ้งไว้ที่หุบเขาแห่งนี้เป็นจำนวนนับร้อยนับพันศพ ทำให้วิญญาณของผู้ตาย ที่ตายอย่างไม่ปกติที่บริเวณหุบเขาแห่งนี้ รวมทั้งสัตว์ป่าจำนวนมาก ต่างก็วนเวียนอยู่ในบริเวณดังกล่าว นอกจากนั้นก็พยายามที่จะเอาชีวิตคนธรรมดาที่ผ่านไปผ่านมา รวมทั้งพรานป่า และชาวบ้านที่ใช้เส้นทางเหล่านี้ในการล่าสัตว์หรือหาของป่าอยู่เป็นประจำ ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ ๆ ควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด ไม่ควรแม้กระทั่งจะเดินผ่านหรือมองผ่านเลยทีเดียว