โรคกลัว Wifi
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ขอมาคุยกันเรื่องโรคกลัว wifi หรือ Electromagnetic Hypersensitivity (EHS) กันครับ
โรค EHS เป็นภาวะความผิดปกติที่ผู้ป่วยมีอาการทางร่างกายและจิตใจที่เชื่อว่าเกิดจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ เสาสัญญาณมือถือ ฯลฯ อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- ปวดศีรษะ
- วิงเวียน
- เวียนศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- หงุดหงิด
- นอนไม่หลับ
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- หัวใจเต้นเร็ว
- หายใจลำบาก
- ผิวหนังอักเสบ
โรค EHS เป็นโรคที่ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากทางการแพทย์ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถก่อให้เกิดอาการเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม ก็มีรายงานการวิจัยบางชิ้นที่พบว่าผู้ป่วย EHS มีอาการตอบสนองต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในลักษณะที่แตกต่างจากคนทั่วไป
สาเหตุของโรค EHS ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการร่วมกัน เช่น ปัจจัยทางพันธุกรรม ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม และปัจจัยทางจิตใจ ผู้ป่วย EHS มักมีประวัติส่วนตัวหรือประวัติครอบครัวที่มีโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคภูมิแพ้
การวินิจฉัยโรค EHS สามารถทำได้โดยการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด หากแพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยอาจเป็นโรค EHS แพทย์อาจส่งผู้ป่วยไปตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อประเมินระดับการสัมผัสกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
การรักษาโรค EHS ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาที่ชัดเจน การรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการและการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยสัมผัสกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามากเกินไป การรักษาอาจรวมถึง
- การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น ปิดการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อไม่ได้ใช้งาน หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้เสาสัญญาณมือถือ ฯลฯ
- การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้เวียนศีรษะ ยาแก้แพ้ ฯลฯ
- การทำจิตบำบัดเพื่อจัดการกับความเครียดและอาการทางจิตใจ
โรค EHS เป็นภาวะความผิดปกติที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำงานเป็นอย่างมาก หากท่านหรือบุคคลใกล้ชิดมีอาการที่สงสัยว่าอาจเป็นโรค EHS ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม
สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรค EHS สามารถเข้าไปอ่านบทความหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข หรือเว็บไซต์ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH)
ผมเข้าใจว่าโรค EHS เป็นโรคที่อาจสร้างความกังวลและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก หากท่านหรือบุคคลใกล้ชิดมีอาการที่สงสัยว่าอาจเป็นโรค EHS ผมขอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสมครับ
อ้างอิงจาก: บทความ "WiFi Phobia: A New Fear" โดย The New York Times อ้างอิงจากงานวิจัยของศาสตราจารย์ David J. Nutt จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งพบว่าคนจำนวนหนึ่งมีความรู้สึกกลัวหรือวิตกกังวลต่อสัญญาณ WiFi โดยงานวิจัยนี้ยังพบว่าคนเหล่านี้มักมีประวัติเป็นโรควิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้า
บทความ "WiFi Phobia: What You Need to Know" โดย CNN อ้างอิงจากงานวิจัยของศาสตราจารย์ Andrew Weil จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งพบว่าคนจำนวนหนึ่งมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับอันตรายของสัญญาณ WiFi เช่น เชื่อว่าสัญญาณ WiFi สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งหรือโรคสมองเสื่อม
บทความ "WiFi Phobia: A Real or Imagined Problem?" โดย BBC News อ้างอิงจากงานวิจัยของศาสตราจารย์ James Lovelock จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งพบว่าคนจำนวนหนึ่งมีปฏิกิริยาทางร่างกายต่อสัญญาณ WiFi เช่น รู้สึกปวดหัว คลื่นไส้ หรือเวียนศีรษะ แต่ปฏิกิริยาเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากสัญญาณ WiFi โดยตรง แต่เป็นปฏิกิริยาต่อความเครียดหรือวิตกกังวล