ตายโหง
ที่หมู่บ้านของฉัน มีเรื่องที่เกิดขึ้นกับรุ่นพี่คนหนึ่งกับครอบครัวของเขา รุ่นพี่คนนี้นามสมมุติ พี่สินนะค่ะ พี่สินอายุช่วงนั้น25ปี เป็นหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง สาวๆมาที่บ้านไม่ขาดสาย พี่สินเขาโสดเพราะว่าไม่อยากจะผูกมัดกับใคร แกยังอยากอิสระ มีสาวๆล้อมรอบแกก็มีความสุขแล้ว และจุดเริ่มต้นที่จะทำให้พี่สินประสบเหตุร้ายก็เริ่มขึ้นเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง สมมุติชื่อเธอว่าฝน ฝนเป็นผู้หญิงไม่สวยเลยในสายตาพี่สิน แต่พี่ฝนเขามาตามตื้อพี่สินอยู่ตลอด เอาดอกไม้ ขนมต่างๆมาให้ถึงหน้าบ้าน พอพี่สินรับมาก็เอาไปให้คนอื่นต่อหน้าพี่ฝน จะทำให้พี่ฝนเลิกยุ่งกับตัวเอง แต่ทำยังไงก็ไม่ทำให้พี่ฝนลดความพยายามเลยจริงๆ ถึงจะ้นสะกดรอยตามพี่สินไปทุกที่ ยกเว้นในห้องน้ำ กับในบ้าน ที่ไม่ตามเข้าไป พี่สินแกรู้สึกเหมือนโดนคุกคาม แกเลยบ่นกับคนที่บ้านว่า มันเยอะเกินไปแล้วนะ เขาเป็นโรคจิตหรือเปล่าแบบนี้ แม่พี่สินก็เลยเสนอไปว่า บอกกับเขาตรงๆไปเลยสิ ว่าอย่ามายุ่งกับเราๆไม่ได้ชอบเธอ เป็นเพื่อนกันดีกว่า แม่บอกพี่สินไป สินะพี่สินบอกว่า บอกเป็นร้อยรอบแล้วแม่เขาไม่ฟังเลย แล้วก็ถอนหายใจแรงๆ มีอยู่วันหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งนัดพี่สินไปกินข้าวข้างนอก ก็มีเพื่อนๆไปด้วยกัน แล้วพี่ฝนก็แอบตามไปและมองอย่างเคียดแค้น พอสาวเดินออกมาข้างนอกเพื่อคุยโทรศัพท์ พี่ฝนเดินเข้าไปตบหน้าทันทีไม่ได้พูดจากันเลย กลุ่มเพื่อนของพี่สินได้กินเสียงพากันวิ่งออกมาดู จึงช่วยกันแยก2คนออก พี่สินรู้ว่าพี่ฝนตามมาก็ได้เข้าไปต่อว่าอย่างแรง ส่วนพี่ฝนร้องไห้แล้วก็วิ่งหายออกไป พี่ฝนรักพี่สินมากเป็นรักข้างเดียว เขาเคยประกาศไว้ว่าใครยุ่งกับพี่สินโดนดีแน่ เริ่มน่ากลัวเข้าไปทุกทีแล้วสิ แม่พี่สินเริ่มกังวลกับผู้หญิงคนนี้เป็นห่วงลูกจะเป็นอันตราย เรื่องพี่ฝนเงียบไปสักพัก ประจวบเหมาะพี่สินได้ปิ๊งรักสาวสวยคนหนึ่งต่างหมู่บ้านกัน มาบ้านพี่สินบ่อยมากขึ้น พี่ฝนได้ยินข่าวว่ามีสาวมาพัวพันพี่สินก็รู้สึกโมโห ช่วงเย็นวันหนึ่งพี่ฝนได้มาลักรออยู่ข้างทางเพื่อจะทำอะไรบางอย่าง มีรถเก๋งคันหนึ่งขับออกมาจากบ้านพี่สินมันคือรถของแฟนพี่สินนั่นเอง พี่ฝนขับตามไปอย่างกระชั้นชิด ในรถซึ่งเป็นกระจกมืดมองไม่เห็นคนข้างใน มีพี่สินเป็นคนขับแฟนพี่พี่นั่งข้างคนขับ ขับตามออกมาได้สักพัก พี่สินเริ่มรู้ตัวว่ามีคนขี่ตามหลังมาซึ่งเขาไม่แซงไม่อะไรเลย ตามรถเขาอย่างเดียว เห็นเช่นนั้นก็ขับรถเร็วขึ้น พี่ฝนก็เร่งเครื่องเช่นกัน ยิ่งเร่งก็ยิ่งตามที่นี้ก็เร่งขึ้นอีก จนมาถึงทางโค้งหักศอกมันอันตรายมากทางเส้นนั้น พี่สินรถเสียหลักข้ามไปฝั่งเลนโน้นประจันหน้ารถพ่วงอย่างจัง เบรกไม่ทันแล้ว รถพ่วงชนเข้าเต็มๆ ด้วยความเร็วของรถเก๋งบวกกับรถพ่วงพุ่งชนอย่างจัง รถเก๋งเหวี่ยงไปชนต้นไม้ใหญ่ร่างของ2คนทะลุกระจกไปอยู่บนกิ่งไม้ ด้วยความแรงของรถทำให้ร่างนั้นเละไส้ไหลอยู่กับพื้น สมงสมองเกลื่อนอยู่ข้างร่าง พี่สินขาขาด แฟนพี่เขาสมองเลาะ มันสยองมากในตอนนั้น เจอแบบนี้เป็นใครก็สยอง ออ ส่วนพี่ฝนรถชนกะรถพ่วงอีกทีก็ขาพิการเดินไม่ได้ตลอดชีวิต จากที่พี่ทั้ง2เสียชีวิตเส้นทางแห่งนั้นก็ไม่เคยเงียบอีกเลย ต่างมีเรื่องมาเล่าขานกัน คนในหมู่บ้านเจอนั่งห้อยขาบนกิ่งไม้ ขย่มกิ่งไม้หลอกผู้คนอีกด้วย กลางค่ำกลางคืนถ้าเลี่ยงได้เขาก็ไม่ไปทางเส้นนั้นกัน ส่วนเรื่องที่บ้านพี่สินนั้นแม่เขานั่งร้องไห้อยู่โต๊ะหน้าบ้านเพราะคิดถึงลูกชายจู่ๆ ก็มีเสียงเปิดประตูรั้วบ้านซึ่งมันเป็นประตูรั้วไม้ เวลาเปิดมันจะเสียงดังแอ๊ดๆ แม่ก็มองไปที่ประตูก็ไม่มีอะไร แม่แกคิดว่าน่าจะเป็นลมพัด พอสักพักหลังจากเสียงเปิดประตูหน้าบ้านแล้ว แสงไฟในห้องพี่สินเปิดขึ้นครั้งนี้แม่สดุ้งรีบเดินไปดูมีใครมาเปิดหรือเปล่า พอไปถึงไฟก็เปิดอยู่จริงๆแต่ไม่มีใคร แม่พี่สินจึงตะโกนถามคนที่บ้านมีใครมาเปิดไฟของสินหรือเปล่าก็ไม่มีใครมาเปิด แม่ถึงกับปล่อยโฮออกมา สินใช่ไหมลูกกลับบ้านแล้วหรอ พูดจบของโต๊ะเครื่องแป้งร่วงลงพื้น แม่จึงแน่ใจว่าวิญญาณลูกแน่ๆ แล้วก็เสียงปิดประตูห้องน้ำปัง แม่พี่สินจนสดุ้ง แม่คิดถึงลูกใจจะขาด ทำไมถึงจากแม่ไปเร็วขนาดนี้ เสียงแม่พี่สินสะอื้น เพราะคิดถึงลูกชายเขาไม่กลัว มาหาแม่ทุกวันนะ แม่อยากกอดลูกๆเป็นยังไงบ้างทุกข์ทรมานไหม แม่พี่สินจะทำแบบนี้ประจำทุกวันจนป่วยซึมเศร้า ครอบครัวพี่สินจึงตัดสินใจย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น ขืนอยู่บ้านหลังนี้ต่อแม่จะได้ตายตามลูกไปแน่ๆ บ้านจึงปล่อยให้เช่า แม่พี่สินเขารู้ว่าลูกแกรักบ้านหลังนี้มากแกจะไม่ยอมไป จนคนในครอบครัวพูดโน้มน้าวแกสารพัดแกต้องยอมไป
เวลาผ่านไป1เดิอน มีครอบครัวหนึ่งมาเช่าบ้านหลังนี้ คืนแรกผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยู่ได้ประมาณ2อาทิตย์เรื่องก็เกิดขึ้น ช่วงค่ำของวันหนึ่ง พี่เลี้ยงของน้องคนหนึ่งอายุขวบครึ่ง ซึ่งมาเป็นพี่เลี้ยงให้ครอบครัวนี้ พี่เลี้ยงสมมุติให้ชื่อ เอมนะค่ะ เอมเข้าครัวอยู่ เอาใส่คอกเด็กไว้แล้วก็เข้าครัวไปหาข้าวกิน ขณะกำลังชุลมุนในครัวจู่ น้องก็หัวเราะเหมือนมีใครมาเล่นด้วย เอมได้ยินน้องพูดว่าเอาอีก เอมก็หยุดฟังไม่แน่ใจหูฝาดไปหรือเปล่า สักพักได้ยินอีก จะเอาๆ เอมเลยวิ่งมาหาน้องจะดูว่าน้องเป็นอะไรหรือเปล่า พอมาถึงตัวน้องก็ปกตินี่ แต่กำลังหัวเราะอยู่ เอมถามน้องไป เล่นกับใครเอ่ย พี่ชายคนนั้น เอมมองไปตามนิ้วที่น้องชี้ไปที่ห้องๆหนึ่ง ซึ่งมันน่าจะไม่ได้ใช้งาน ห้องล็อคไว้ เอมก็บอกน้องว่าไม่มีใครอยู่ในนั้นหรอก คงตาฝาดนะ น้องก็ส่ายหัวบอกว่า พี่มาแล้วๆ มองตามน้องไป มีลมพัดวูบหนึ่งแล้วก็หายไป สักพักของในห้องที่ปิดตายไว้น่าจะหล่นลงพื้นดังโครม เอมก็มองด้วยความตกใจ บ่นกับตัวเองว่าหนูละมั้ง เอมเริ่มจะไม่ชอบบรรยาการแบบนี้ซะแล้วสิ จึงอุ้มน้องขึ้นข้างบนไป คงจะอิ่มข้าวไปเลยทีเดียว หลังจากนั้นข้างล่างก็ไม่ปกติอีกแล้วกุกกั๊กๆประจำ 😱😱 เอมนี่ถึงกับผวาเพราะเป็นคนกลัวผี และจิตอ่อนด้วย ประมาณ2ทุ่ม นายจ้างทั้ง2เขากลับมา จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังนายหญิงบอกเขาไปว่าห้องนี้อาจจะมีหนูมั้ง เพราะเจ้าของบ้านสั่งไว้ห้องนี้เปิดไม่ได้เป็นที่เก็บของเจ้าของบ้านเขา พี่ค่ะมีผ้ายันต์โผล่ออกมาจากห้องด้วยค่ะ นายผู้ชายหยิบมาดูคงร่วงจากในห้องแหละไม่มีอะไรหรอกแยกย้ายกันกลับห้องได้ละ ตกดึกเอมได้ยินเสียงเหมือนเท้ากำลังก้าวเดินอยู่ กำลังจะขึ้นมาข้างบน เอมเอาหูแนบกับพื้นฟังได้ยินชัดมากเข้าอยู่ใกล้ห้องเธอนี่เอง ด้วยความตกใจเอมจึงเอาหูแนบประตู ก๊อกๆ โอ้ แม่เจ้าใครเคาะ เอมๆเสียงนานหญิงนี่ โล่งอกไปที 555 คืนนี้เอมหลับสบายใจโล่งอกเรื่องผีไป อยู่ๆคืนต่อมาเอมได้ยินเสียงเดินเหมือนเดิม รอบนี้มาหยุดหน้าห้องเอม แต่ไม่มีเสียงเคาะประตูเลย เอมหูแอบประตูห้อง ทันใดนั้นเองก็มีเสียงร้องไกระซิกไปมาแว่วๆ เสียงเยือกเย็นจับใจ ฟังแล้วเศร้า หดหู่น่าดู เสียงร้องไห้สักพักก็เงียบ เอมอยากรู้ว่ามีใครอยู่หน้าห้องไหม จึงแง้มประตูออกที่ละนิดๆเอาสายตาสอดส่องไปทั่วหน้าห้อง ขณะนั้นเองสายตาก็ไปประทะกับเงาหนึ่งนั่งเอาหลังอิงผนังไว้แล้วก้มหน้า ใครอ่ะอยู่ตรงนั้น นายหรือเปล่าค่ะ ไม่มีเสียงตอบรับ แต่กลับเป็นหันหน้ามาหาแทนเสียงตอบ ทันใดนั้นเองเอมจ้องมองหน้าเขาตาเขม็งด้วยความอยากรู้คนหรือผี หน้าขาวซีดเผือดตรงหน้าผากมีเลือดไหลออกมา เงานั้นค่อยๆคลืบคลานมาทางเออยู่ ค่อยๆเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ยิ่งเข้ามาใกล้ดวงตานั้นมันน่ากลัวมาก ด้วยความตกใจเอมเรียกคุณหญิงค่ะผีหลอกค่ะ ช่วยด้วยหนูด้วย มันก้าวไม่ออกวิ่งก็ไม่ไป ตกใจจนสั้นไปทั้งตัว เจ้านายเอมจนเข้ามาเขย่าตัว เอมๆๆเป็นอะไรฉันเองๆ พอเอมได้สติจึงชี้ไปทางเงาที่เอมเห็นตะกี้ เจ้านายหันตามทางที่เอมชี้ ไม่มีอะไรนี่เอมๆดูสิ ไม่เห็นมีอะไรจริงๆ สักพักเอมค่อยๆมองไปทางเงานั้น มันได้หายไปแล้ว มันน่ากลัวจริงๆนะค่ะคุณ เอมพูดเสร็จพลางขอตัวเข้าห้องไป ตั้งแต่เจอคืนนั้นเอมจึงขอลาออกแต่นายจ้างไม่ให้ออกแต่จะย้ายไปอยู่ที่ใหม่ เจ้านายเขาก็เจอเหมือนกันแต่ไม่เล่าให้เอมฟัง กลัวว่าเอมจะอยู่ไม่ได้ คิดว่าวิญญาณที่อยู่บ้านหลังนี้คงไม่มีอะไรมากจึงอยู่กันต่อ จนเอมมาเจอเรื่องนี้จึงตัดสินใจออกกัน ปัจจุบันก็ปล่อยบ้านทิ้งร้าง น่าเสียดายมาก บ้านหลังใหญ่และสวยมาก แต่ตอนนี้ดูไม่ได้แล้ว