สรรพคุณต้นอังกาบหนู
สมุนไพรต้นอังกาบหนู
ช่วยแก้อัมพาต รักษาโรคปวดตามข้อ โรครูมาติซั่ม หรือใช้ทาแก้อาการปวดหลัง
แต่ละท้องถิ่นเรียก เขี้ยวแก้ง เขี้ยวเนื้อ อังกาบ อื่นๆ
ลักษณะของอังกาบหนู
ต้นอังกาบหนู หรือต้นอังกาบเหลือง มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ย แตกกิ่งก้านเล็กเป็นจำนวนมาก มีลำต้นเกลี้ยง มีหนามยาวอยู่รอบข้อ หนามมีความประมาณ 1-2 ซม. มักนิยมปลูกไว้ริมรั้วและมีขึ้นตามป่า
ใบอังกาบหนู หรือ ใบอังกาบเหลือง ลักษณะเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรี รูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบเรียว
ดอกอังกาบหนู
ออกดอกเป็นช่อเป็นกระจุกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ใบประดับย่อยเป็นหนาม
อังกาบหนูมีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีส้มหรือเหลือง กลีบด้านบนมี 4 กลีบ มีความยาวเท่ากัน หลอดกลีบเรียงซ้อนเหลื่อมกัน
ผลอังกาบหนู
ลักษณะของผลเป็นแบบแคปซูลเล็กยาวๆ รูปไข่แกมรูปขอบขนาน
สรรพคุณของอังกาบหนู
- ดอกอังกาบนำมาตากแห้งใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพร ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
- ช่วยเจริญธาตุไฟได้ดีมาก
- รากหรือใบใช้เป็นยาลดไข้
- ช่วยแก้หวัดด้วยการนำใบมาคั้นกิน
- ช่วยขับเสมหะด้วยการใช้รากของดอกอังกาบสีเหลืองที่ตากแห้งแล้วนำมาต้มเป็นยาดื่ม
- ใบอังกาบหนูใช้เคี้ยวแก้อาการปวดฟันได้
- ใบใช้ผสมกับน้ำผึ้งช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- น้ำคั้นจากใบใช้หยอดหู แก้หูอักเสบได้
- ช่วยป้องกันและแก้อาการท้องผูก
- ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย
- ใช้แก้พิษงู
- ช่วยรักษาโรคคัน
- รากหรือใบใช้ผสมกับน้ำมะนาวช่วยรักษากลากเกลื้อน
- รากใช้เป็นยาแก้ฝี
- ทั้ง 5 ส่วนของต้นอังกาบหนูใช้เป็นยาแก้ไข้ข้ออักเสบ ช่วยแก้อัมพาต รักษาโรคปวดตามข้อ
โรครูมาติซั่ม หรือใช้ทาแก้อาการปวดหลัง
แก้ปวดบวม
- มีคนเคยใช้อังกาบเพื่อเยียวยารักษาโรคมะเร็ง เนื้องอกในสมอง และเบาหวาน แต่ไม่มีแหล่งข้อมูลไหนที่ยืนยันว่ามันสามารถช่วยหรือมีส่วนรักษาได้จริง แต่มีคนหายจากโรคมะเร็งด้วยการต้มน้ำใบอังกาบหนูกินวันละ 5 วัน กินเช้า- เย็น
วิธีต้มใบอังกาบหนู
1.ใบกลาง 4-5 ใบ
2.น้ำ 1 สะอาด 500ml
3.ต้ม 5 นาที
4.กิน1แก้วกาแฟ วันละ 2 ครั้ง เช้า- เย็น