หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทฤษฎีจุดกำเนิดวิทยาคมสายดำ

โพสท์โดย นาคเฝ้าคัมภีร์

การฝึกวิชาทางตรง (สายขาว) กับทางลัด (สายดำ) แตกต่างกันอย่างไร?

แรกเริ่มเดิมที วิทยาคมถูกสร้างขึ้นโดยบรรดาผู้ทรงศีลอันมีฤทธิ์ โดยมีจุดประสงค์ในการใช้เพื่อแก้ปัญหาสังคมและขจัดภัยเพื่อส่วนรวมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยเฉพาะ ดังนั้นวิทยาคมเหล่านี้จึงมีเพียงสายขาวเท่านั้น อีกทั้งพื้นฐานของผู้ฝึกสายขาวจะต้องเป็นคนดีมีคุณธรรมโดยเนื้อแท้ ดังนั้นจึงไม่มีการนำวิทยาคมไปใช้ในทางที่ผิดอย่างแน่นอน

แต่วิชาสายขาวเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความเพียรและความอดทนอย่างแรงกล้ามหาศาล เพราะการฝึกฝนให้สำเร็จครบถ้วนสมบูรณ์นั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานมาก เพื่อปรับพื้นฐานของสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจให้สมบูรณ์พร้อมเสียก่อน

สมมุติคร่าวๆ ให้วิทยาคมสายขาววิชาหนึ่ง แบ่งการฝึกออกเป็น ๕ ขั้น แต่ละขั้นใช้เวลาฝึก ๕ ปี รวมระยะเวลาสำเร็จวิชาทั้งหมดคือ ๒๕ ปี ผู้ที่สามารถสำเร็จสายขาวได้จริงจึงมีจำนวนน้อย แต่ก็มีความแข็งแกร่งและทรงพลังมากเช่นกัน

อนึ่ง บุคคลอัจฉริยะที่สามารถฝึกวิทยาคมสายขาวสำเร็จเร็วกว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้นั้นก็มี แต่บุคคลอัจฉริยะแบบนี้ก็ยิ่งมีจำนวนน้อยกว่าพวกสายขาวทั่วไปซะอีก

ส่วนวิทยาคมสายดำนั้น ถือกำเนิดจากบรรดาพวกหัวหมอ ทำตัวเป็นศรีธนญชัย คิดด่วนได้ด่วนเร็ว อยากฝึกให้สำเร็จไวๆ จึงพยายามคิดดัดแปลงตัดทอนบิดเบือนเนื้อหาของวิทยาคมสายขาวตามตำราเดิมให้กระชับสั้นลงเรื่อยๆ ตามความคิดใครความคิดมัน รึพวกที่ฝึกแบบผิดๆ โดยตีความเคล็ดวิชาตามความเข้าใจของตนเองจนผิดเพี้ยนคลาดเคลื่อนเพราะได้คัมภีร์มาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ผสมกับความพยายามคิดค้นสร้างแนวทางการฝึกขึ้นมาเองแบบผิดๆ เมื่อพยายามฝึกแบบผิดๆ ถูกๆ ต่อไปเรื่อยๆ จนสำเร็จจึงกำเนิดเป็นวิทยาคมสายดำอีกวิชาขึ้นมาแทน

สมมุติคร่าวๆ ว่า เดิมวิทยาคมระบุว่าการฝึกขั้นที่ ๑ ให้ผ่านได้นั้นต้องใช้เวลา ๕ ปี เมื่อฝึกผ่านตามนี้แล้ว ฝ่ามือจะร้อนและแดง พวกทางลัดก็ใช้เวลาฝึกแค่พอเห็นผลว่าฝ่ามือเริ่มอุ่นๆ ยังไม่ทันจะร้อนและแดงก็ข้ามไปฝึกขั้น ๒ ต่อเลย แล้วก็รีบฝึกแค่พอเห็นผลลางๆ แบบนั้นไปเรื่อยๆ จนสำเร็จวิชาครบทุกขั้น และผลจากการบิดเบือนดัดแปลงวิทยาคมสายขาวให้คลาดเคลื่อนผิดไปจากต้นฉบับดั้งเดิม ก็ทำให้เกิดการแตกแขนงแยกย่อยกลายเป็นสารพัดวิทยาคมสายดำอีกมากมายมหาศาล

รึอีกนัยหนึ่ง วิชาสายขาวต้องใช้วิธีประพฤติตนเป็นคนดีมีคุณธรรมให้เทพเคารพและยอมช่วยเหลือ แต่พวกที่ไม่สามารถทำตัวเองเป็นคนดีมีคุณธรรมให้เทพเคารพได้ ก็ดัดแปลงตัดแต่งวิชาสายขาวบิดเบือนคลาดเคลื่อนเปลี่ยนจากการให้เทพช่วยมาเป็นการให้พวกอมนุษย์ภูตผีชั้นต่ำช่วยแทน จนเกิดเป็นพวกวิชาสายดำขึ้นมาในที่สุด

ด้วยความที่วิทยาคมสายดำถูกสร้างโดยพวกที่ไม่ใช่คนดีโดยเนื้อแท้ตั้งแต่แรก คนที่คิดค้นรึสำเร็จวิทยาคมสายดำเหล่านี้จึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนดีโดยเนื้อแท้เช่นกัน

แม้การฝึกสายดำจะช่วยให้สำเร็จวิชาได้รวดเร็วกว่าการฝึกสายขาวหลายเท่า ทำให้จำนวนผู้สำเร็จวิทยาคมสายดำจึงมีมากกว่าสายขาว ทว่าวิทยาคมสายดำที่กำเนิดจากการดัดแปลงอย่างผิดๆ ถูกๆ ก็ไม่ได้ทรงพลังเท่าเศษเสี้ยวของวิทยาคมสายขาวดั้งเดิมเลย และยังมีผลข้างเคียงจากการฝึกตามมาอีก คือ สุขภาพของผู้ฝึกสายดำจะไม่มั่นคงทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะไม่ได้ฝึกฝนปรับพื้นฐานสุขภาพให้แน่นหนาเท่าพวกสายขาว ส่งผลให้ระบบน้ำเหลืองมีปัญหาผิดปกติเรื้อรัง ซึ่งตามการค้นพบของฝ่ายพุทธระบุชัดเจนว่า ระบบน้ำเหลืองมีความสัมพันธ์กับสติ-สัมปชัญญะ (ความระลึกได้-ความรู้ตัว) จะเรียกว่าระบบน้ำเหลืองคือส่วนของสติ-สัมปชัญญะที่เป็นรูปธรรมสามารถจับต้องได้ก็ไม่ผิด ดังนั้น เมื่อระบบน้ำเหลืองผิดปกติ ก็หมายถึงสติ-สัมปชัญญะผิดปกติตามไปด้วย

กล่าวคือ ผู้ฝึกวิทยาคมสายดำจะกลายเป็นคนฉุนเฉียว อารมณ์ร้าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงไม่แน่นอน ควบคุมตนเองไม่ค่อยได้ สติฟั่นเฟือน คุ้มดีคุ้มร้าย คลุ้มคลั่ง ยิ่งฝึกฝนรึใช้วิทยาคมสายดำมากขึ้นเท่าไหร่ อาการก็จะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ และเมื่ออาการหนักถึงที่สุดก็ต้องกินของดิบของคาวเพื่อบรรเทาอาการให้สงบลงชั่วคราวทุกครั้งที่อาการกำเริบ เพราะหากไม่ทำแบบนี้ตัวเองก็จะตาย

อาการผลข้างเคียงจากการฝึกวิทยาคมสายดำนี้ มีคำเรียกหลากหลาย เช่น ธาตุไฟเข้าแทรก/ธาตุไฟแตก/วิชากินตัว/ครูบาอาจารย์ให้โทษ/บ้าดีเดือด

*บ้าดีเดือด (ปิตฺตุมฺมตฺตโก) คือ ตกอยู่ในอำนาจของดี (ปิตฺตวสงฺคโต) เป็นคำศัพท์เฉพาะที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก หมายถึง ระบบน้ำเหลืองเสีย

"ดี" ในที่นี้คืออวัยวะในร่างกาย มีอยู่ ๒ ส่วน คือ

๑.พัทธปิตตะ-ดีในถุง (ดีที่เป็นฝัก) คือ ถุงน้ำดี เมื่อมีอาการผิดปกติกำเริบแล้ว จะกลายเป็นบ้ามีจิตวิปลาส ทิ้งหิริโอตตัปปะ ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ พูดสิ่งที่ไม่ควรพูด คิดสิ่งที่ไม่ควรคิด

๒.อพัทธปิตตะ-ดีนอกถุง (ดีที่ไม่เป็นฝัก) มีลักษณะอย่างน้ำมันที่ไหลเวียนอาบเอิบอยู่ทั่วทั้งร่างกาย เมื่อมีอาการผิดปกติกำเริบแล้ว ดวงตาจะเหลือง เวียนศีรษะ ตัวสั่นและคัน ตามสำนวนยุคปัจจุบันที่ถูกต้อง ดีนอกถุง หมายถึง ระบบน้ำเหลือง ไม่ใช่น้ำดีที่ช่วยย่อย

*อนึ่ง ระบบน้ำเหลือง รึ ดีนอกถุงนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ น้ำเหลือง ที่ทางบาลีเรียกว่า ปุพโพ เพราะ น้ำเหลืองปุพโพ หมายถึง หนอง ไม่มีที่ตั้งชัดเจนในร่างกาย แต่จะน้ำเหลืองปุพโพปรากฏขึ้นเมื่อร่างกายมีบาดแผล เช่น ถูกมีดบาด หนามตำ ไฟไหม้ ฯลฯ ในรูปแบบของฝีและหนอง ว่าง่ายๆ ปุพโพ คือ น้ำเหลืองเสียฝีหนอง

อาการบ้าดีเดือดจากการฝึกวิทยาคมสายดำ สามารถรักษาได้รึไม่?

จากการตรวจค้นเชื่อมโยงข้อมูลแล้ว สามารถทำได้ โดยใช้ ๒ วิธีควบคู่กัน ดังนี้

๑.ปรับเปลี่ยนอาหาร

ตามตำนานจีน บรรดาสัตว์ใฝ่ดีที่ฝึกวิชาบำเพ็ญตบะเป็นเวลานับร้อยนับพันปีจนกลายเป็นปิศาจสายขาวนั้นมักประพฤติตนเยี่ยงผู้ทรงศีลกินมังสวิรัติเป็นหลัก ส่วนบรรดานักไสยเวทสายขาวส่วนใหญ่นั้นก็ปฏิบัติตนในแนวทางเดียวกัน พวกสายขาวจึงมีจุดร่วมบางประการที่เหมือนกัน คือ เรื่องอาหาร

โดยทั่วไปอาจเข้าใจกันว่า การที่ผู้มีวิชาอาคมถือศีลกินมังสวิรัติ เป็นเรื่องของการชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาด ทว่าเราพบว่าเรื่องนี้มีอะไรที่มากกว่านั้น

ด้วยว่าเมล็ดธัญพืช และพืชตระกูลถั่วหลายชนิดมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบน้ำเหลืองได้ อาหารมังสวิรัติที่ผลิตจากสิ่งเหล่านี้จึงนับเป็นอาหารบำรุงอย่างดีของเหล่านักวิทยาคมสายขาว เพราะช่วยให้ระบบน้ำเหลืองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากพวกสายดำต้องการจะฟื้นฟูและรักษาตัวเองให้หายขาดจากอาการบ้าดีเดือด หลุดพ้นจากการกินของดิบของคาวเพื่อบรรเทาอาการ ก็ควรหันไปบริโภคธัญพืชและกลุ่มอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบน้ำเหลืองเป็นหลักน่าจะพอช่วยเยียวยาฟื้นฟูระบบน้ำเหลืองที่เสียหายให้กลับเป็นปกติได้ แต่คงต้องใช้เวลามากหน่อยถึงจะฟื้นฟูจนหายดีได้

๒.งดเว้นการฝึกฝนและใช้วิทยาคมสายดำ

ลำพังการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพียงอย่างเดียวนั้นยังไม่มากพอ จำเป็นต้องยุติกิจกรรมการฝึกฝนและใช้วิทยาคมสายดำด้วย เพราะหากยังคงฝึกฝนและใช้วิทยาคมสายดำต่อไปเรื่อยๆ ระบบน้ำเหลืองก็จะฟื้นฟูได้เพียงครึ่งๆ กลางๆ ไม่เต็มที่ รึอย่างน้อยก็ค่ายๆ ตัดวิทยาคมสายดำส่วนที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด เพื่อรักษาอาการให้หายขาด

สรุป คือ หากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนได้ทันเวลาก่อนที่สุขภาพจะทรุดหนัก พวกสายดำก็สามารถฟื้นฟูตนเองได้

ทว่า การรักษาอาการบ้าดีเดือดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากพื้นเพอุปนิสัยโดยสันดานของนักวิทยาคมสายดำส่วนใหญ่เป็นพวกใจร้อน ความอดทนต่ำ ไม่ชอบรอนาน จึงได้เลือกวิถีสายดำกันตั้งแต่แรก ดังนั้นการให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินรวมถึงเลิกฝึกฝนและใช้วิทยาคมสายดำที่มีจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

ยกตัวอย่างเช่น การที่พวกสัตว์ปิศาจสายดำไม่ค่อยยอมกินมังสวิรัติเพื่อกลับใจมาใฝ่ดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเสียดายวิทยาคมสายดำที่พวกตนได้ร่ำเรียนมา (แบบผิดๆ ถูกๆ) เพราะถ้ารักษาอาการบ้าดีเดือดก็ต้องเลิกใช้วิชาสายดำ และหากสัตว์ปิศาจพวกนี้ไม่ได้ฝึกวิชาสายขาวติดตัวมาก่อน การเลิกใช้วิชาสายดำก็เหมือนการตัดวิทยาคมที่ตัวเองมี เช่นว่า เดิมทีพวกนี้อาจแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เพราะใช้วิทยาคมสายดำ แต่เมื่อคิดรักษาตัวเองก็ต้องละทิ้งวิทยาคมสายดำที่ตนมีทั้งหมดแล้วกลับร่างเป็นสัตว์ตามเดิมเพื่อนับ ๑ ใหม่ คือ เริ่มฝึกวิทยาคมสายขาวตั้งแต่ต้นเลย ซึ่งจะเสียเวลามาก รึต่อให้สัตว์ปิศาจสายดำพยายามฝืนใช้ร่างมนุษย์ที่ได้มาจากวิทยาคมสายดำเพื่อฝึกสายขาวใหม่ตั้งแต่ต้น ก็ยังคงใช้เวลามากอยู่ดี เผลอๆ การอยู่ในร่างมนุษย์ด้วยวิทยาคมสายดำเพื่อศึกษาสายขาวอาจเสียเวลามากกว่าด้วย เพราะระบบน้ำเหลืองจะไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์

พวกปิศาจสัตว์สายดำที่ใจไม่กล้าพอจะทิ้งวิทยาคมสายดำที่ตนมี เลยยอมทนกับอาการบ้าดีเดือด ที่ต้องใช้การกินของดิบของคาวรึกินมนุษย์เพื่อบรรเทาอาการกันต่อไป อาจมีบ้างที่สัตว์ปิศาจสายดำบางตนจะยอมเก็บตัวในที่สงัด กินแต่อาหารมังสวิรัติและงดการใช้วิทยาคมสายดำเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อประคองอาการไม่ให้ระบบน้ำเหลืองเสื่อมทรุดหนัก เมื่อระบบน้ำเหลืองเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้ระดับหนึ่งก็กลับไปใช้สายดำตามเดิม วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่หายขาด

อนึ่ง แม้พวกสายดำไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนดีโดยพื้นฐาน แต่ก็มีข้อห้ามผูกมัดมากมายเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกวิทยาคมสายดำที่ฝึกมาอย่างผิดๆ ถูกๆ ทำลายสุขภาพตัวเองจนตาย

อีกอย่าง หากในสังคมนั้นเต็มไปด้วยวิทยาคมจำนวนมากจนแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนสายขาวอันไหนสายดำ การฝึกสายขาวนั้นก็คงแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะไม่รู้ว่าวิชาไหนขาววิชาไหนดำ

หากจะมีสงครามไสยเวทย์ สงครามนี้จะไม่สามารถเกิดในยุคที่วิชาสายขาวกำลังเจริญรุ่งเรืองได้เด็ดขาด แม้ผู้สำเร็จวิชาสายขาวจะมีจำนวนน้อย แต่วิทยาคมของผู้สำเร็จสายขาวนั้นจะแข็งแกร่งและทรงพลังมาก อีกทั้งพื้นฐานของผู้ฝึกสายขาวจะต้องเป็นคนดีมีคุณธรรม ดังนั้นจึงไม่มีทางเกิดสงครามไสยเวทย์ขึ้นแน่นอน

สงครามไสยเวทย์น่าจะเกิดในยุคที่ไม่เหลือผู้ฝึกสายขาวอยู่แล้ว มีแต่พวกที่คิดตัดแต่งดัดแปลงวิชาสายขาวให้กลายเป็นหลักสูตรเร่งรัดสามารถฝึกสำเร็จได้ภายในเวลาอันสั้นจนเกิดเป็นวิชาสายดำ ที่จำนวนผู้ฝึกสำเร็จมีมากกว่าสายขาว วิทยาคมสายขาวที่ถูกบิดเบือน ตัดแต่ง ดัดแปลง ก็แตกแขนงแยกย่อยจนเกิดเป็นสารพัดวิชาสายดำมากมายและหลายสำนัก บ้างก็เจตนาดัดแปลงวิชาเพื่อให้ตนเองได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์เจ้าสำนัก อวดอ้างตนว่าเป็นเจ้าของวิชาผู้คิดค้นวิทยาคมต่างๆ นานา ให้ผู้คนมาเคารพนับถือกราบไหว้บูชา แต่พวกสายดำก็มาพร้อมผลข้างเคียงจากอาการบ้าดีเดือด อย่างที่กล่าวไว้

วิชากินตัว คือ พวกฝึกวิทยาคมสายดำที่เกิดจากการดัดแปลงตัดแต่งวิชาให้สั้นลงตามความมักง่ายของแต่ละสำนักเองจนเกิดบ้าเป็นอาการดีเดือดทำลายสุขภาพของตัวผู้ฝึกเอง

ครูบาอาจารย์ให้โทษ ก็คือการให้โทษกันมาตั้งแต่รุ่นครูบาเจ้าสำนักสายดำที่คิดอวดรู้ดัดแปลงตัดแต่งวิชาโบราณกันเองตามใจชอบจนบิดเบี้ยว เกิดเป็นอาการบ้าดีเดือดติดตัว

ทั้งวิชากินตัว และ ครูบาอาจารย์ให้โทษ พบได้แค่ในพวกวิทยาคมสายดำเท่านั้น วิทยาคมสายขาวของจริงจะไม่มีเรื่องพวกนี้เลย

อนึ่ง วิทยาคมสายดำสามารถใช้ทำเรื่องดีได้ แต่ผลจากการฝึกและใช้สายดำก็ยังคงบั่นทอนสุขภาพของตัวผู้ฝึกผู้ใช้ได้อยู่ เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนที่ต้องแบกรับกันไป

เนื้อหาโดย: นาคเฝ้าคัมภีร์
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ครูไพบูลย์ หรือกงยูเมืองไทย อวดลุคใหม่โดนใจสาวแห่กรี๊ดด!เขมรหัวใส! แอบอ้างฝีมือคนไทยด้วยการเอาภาพไปแปะธงเพื่ออวดชาวเขมรด้วยกันเอง?มิตรภาพต่างศาสนา..เมื่อสาวมุสลิมมางานบวชเพื่อนสนิทพลิกชีวิตเด็กโดนบูลลี่..รวยเป็นเศรษฐีเพราะขนมถังแตกช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆนักท่องเที่ยวขับรถลงหาดอีกแล้ว!เขมรเอาจริงเผยท่า "หมัดตั๊กแตนพิฆาต" ใช้ฉกเข่า-ตัดเอ็นขา มวยไทยพิการเป็นแถวๆ..อ.รับรองตำรวจญี่ปุ่น รวบแก๊งโจรเขมร ตระเวนลักสายไฟทั่วญี่ปุ่น!เขมรโป๊ะแตก! สั่งออนใลน์เอาผ้าปูโต๊ะจากไทยมาทำเป็นสะไบ คิดได้ไงเนี่ย?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ครูไพบูลย์ หรือกงยูเมืองไทย อวดลุคใหม่โดนใจสาวแห่กรี๊ดด!ตื้อสุดชีวิต นุดเอาเราไปอยู่ด้วยอันตราย 4 โรคต้องห้ามกินทุเรียน..!เมืองเคียฟ ประเทศยูเครน ถ่ายโดยนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน เมื่อปี 1974
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิทานพื้นบ้าน-วรรณคดี
รูปแบบจำลอง งาช้างฉัททันต์พระเจ้าอุเทนถูกจับกินนร ๓ เผ่าพันธุ์จากพระไตรปิฎกรัศมีรอบศีรษะนาค
ตั้งกระทู้ใหม่