ทฤษฎีจุดกำเนิดวิทยาคมสายดำ
การฝึกวิชาทางตรง (สายขาว) กับทางลัด (สายดำ) แตกต่างกันอย่างไร?
แรกเริ่มเดิมที วิทยาคมถูกสร้างขึ้นโดยบรรดาผู้ทรงศีลอันมีฤทธิ์ โดยมีจุดประสงค์ในการใช้เพื่อแก้ปัญหาสังคมและขจัดภัยเพื่อส่วนรวมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยเฉพาะ ดังนั้นวิทยาคมเหล่านี้จึงมีเพียงสายขาวเท่านั้น อีกทั้งพื้นฐานของผู้ฝึกสายขาวจะต้องเป็นคนดีมีคุณธรรมโดยเนื้อแท้ ดังนั้นจึงไม่มีการนำวิทยาคมไปใช้ในทางที่ผิดอย่างแน่นอน
แต่วิชาสายขาวเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความเพียรและความอดทนอย่างแรงกล้ามหาศาล เพราะการฝึกฝนให้สำเร็จครบถ้วนสมบูรณ์นั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานมาก เพื่อปรับพื้นฐานของสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจให้สมบูรณ์พร้อมเสียก่อน
สมมุติคร่าวๆ ให้วิทยาคมสายขาววิชาหนึ่ง แบ่งการฝึกออกเป็น ๕ ขั้น แต่ละขั้นใช้เวลาฝึก ๕ ปี รวมระยะเวลาสำเร็จวิชาทั้งหมดคือ ๒๕ ปี ผู้ที่สามารถสำเร็จสายขาวได้จริงจึงมีจำนวนน้อย แต่ก็มีความแข็งแกร่งและทรงพลังมากเช่นกัน
อนึ่ง บุคคลอัจฉริยะที่สามารถฝึกวิทยาคมสายขาวสำเร็จเร็วกว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้นั้นก็มี แต่บุคคลอัจฉริยะแบบนี้ก็ยิ่งมีจำนวนน้อยกว่าพวกสายขาวทั่วไปซะอีก
ส่วนวิทยาคมสายดำนั้น ถือกำเนิดจากบรรดาพวกหัวหมอ ทำตัวเป็นศรีธนญชัย คิดด่วนได้ด่วนเร็ว อยากฝึกให้สำเร็จไวๆ จึงพยายามคิดดัดแปลงตัดทอนบิดเบือนเนื้อหาของวิทยาคมสายขาวตามตำราเดิมให้กระชับสั้นลงเรื่อยๆ ตามความคิดใครความคิดมัน รึพวกที่ฝึกแบบผิดๆ โดยตีความเคล็ดวิชาตามความเข้าใจของตนเองจนผิดเพี้ยนคลาดเคลื่อนเพราะได้คัมภีร์มาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ผสมกับความพยายามคิดค้นสร้างแนวทางการฝึกขึ้นมาเองแบบผิดๆ เมื่อพยายามฝึกแบบผิดๆ ถูกๆ ต่อไปเรื่อยๆ จนสำเร็จจึงกำเนิดเป็นวิทยาคมสายดำอีกวิชาขึ้นมาแทน
สมมุติคร่าวๆ ว่า เดิมวิทยาคมระบุว่าการฝึกขั้นที่ ๑ ให้ผ่านได้นั้นต้องใช้เวลา ๕ ปี เมื่อฝึกผ่านตามนี้แล้ว ฝ่ามือจะร้อนและแดง พวกทางลัดก็ใช้เวลาฝึกแค่พอเห็นผลว่าฝ่ามือเริ่มอุ่นๆ ยังไม่ทันจะร้อนและแดงก็ข้ามไปฝึกขั้น ๒ ต่อเลย แล้วก็รีบฝึกแค่พอเห็นผลลางๆ แบบนั้นไปเรื่อยๆ จนสำเร็จวิชาครบทุกขั้น และผลจากการบิดเบือนดัดแปลงวิทยาคมสายขาวให้คลาดเคลื่อนผิดไปจากต้นฉบับดั้งเดิม ก็ทำให้เกิดการแตกแขนงแยกย่อยกลายเป็นสารพัดวิทยาคมสายดำอีกมากมายมหาศาล
รึอีกนัยหนึ่ง วิชาสายขาวต้องใช้วิธีประพฤติตนเป็นคนดีมีคุณธรรมให้เทพเคารพและยอมช่วยเหลือ แต่พวกที่ไม่สามารถทำตัวเองเป็นคนดีมีคุณธรรมให้เทพเคารพได้ ก็ดัดแปลงตัดแต่งวิชาสายขาวบิดเบือนคลาดเคลื่อนเปลี่ยนจากการให้เทพช่วยมาเป็นการให้พวกอมนุษย์ภูตผีชั้นต่ำช่วยแทน จนเกิดเป็นพวกวิชาสายดำขึ้นมาในที่สุด
ด้วยความที่วิทยาคมสายดำถูกสร้างโดยพวกที่ไม่ใช่คนดีโดยเนื้อแท้ตั้งแต่แรก คนที่คิดค้นรึสำเร็จวิทยาคมสายดำเหล่านี้จึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนดีโดยเนื้อแท้เช่นกัน
แม้การฝึกสายดำจะช่วยให้สำเร็จวิชาได้รวดเร็วกว่าการฝึกสายขาวหลายเท่า ทำให้จำนวนผู้สำเร็จวิทยาคมสายดำจึงมีมากกว่าสายขาว ทว่าวิทยาคมสายดำที่กำเนิดจากการดัดแปลงอย่างผิดๆ ถูกๆ ก็ไม่ได้ทรงพลังเท่าเศษเสี้ยวของวิทยาคมสายขาวดั้งเดิมเลย และยังมีผลข้างเคียงจากการฝึกตามมาอีก คือ สุขภาพของผู้ฝึกสายดำจะไม่มั่นคงทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะไม่ได้ฝึกฝนปรับพื้นฐานสุขภาพให้แน่นหนาเท่าพวกสายขาว ส่งผลให้ระบบน้ำเหลืองมีปัญหาผิดปกติเรื้อรัง ซึ่งตามการค้นพบของฝ่ายพุทธระบุชัดเจนว่า ระบบน้ำเหลืองมีความสัมพันธ์กับสติ-สัมปชัญญะ (ความระลึกได้-ความรู้ตัว) จะเรียกว่าระบบน้ำเหลืองคือส่วนของสติ-สัมปชัญญะที่เป็นรูปธรรมสามารถจับต้องได้ก็ไม่ผิด ดังนั้น เมื่อระบบน้ำเหลืองผิดปกติ ก็หมายถึงสติ-สัมปชัญญะผิดปกติตามไปด้วย
กล่าวคือ ผู้ฝึกวิทยาคมสายดำจะกลายเป็นคนฉุนเฉียว อารมณ์ร้าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงไม่แน่นอน ควบคุมตนเองไม่ค่อยได้ สติฟั่นเฟือน คุ้มดีคุ้มร้าย คลุ้มคลั่ง ยิ่งฝึกฝนรึใช้วิทยาคมสายดำมากขึ้นเท่าไหร่ อาการก็จะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ และเมื่ออาการหนักถึงที่สุดก็ต้องกินของดิบของคาวเพื่อบรรเทาอาการให้สงบลงชั่วคราวทุกครั้งที่อาการกำเริบ เพราะหากไม่ทำแบบนี้ตัวเองก็จะตาย
อาการผลข้างเคียงจากการฝึกวิทยาคมสายดำนี้ มีคำเรียกหลากหลาย เช่น ธาตุไฟเข้าแทรก/ธาตุไฟแตก/วิชากินตัว/ครูบาอาจารย์ให้โทษ/บ้าดีเดือด
*บ้าดีเดือด (ปิตฺตุมฺมตฺตโก) คือ ตกอยู่ในอำนาจของดี (ปิตฺตวสงฺคโต) เป็นคำศัพท์เฉพาะที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก หมายถึง ระบบน้ำเหลืองเสีย
"ดี" ในที่นี้คืออวัยวะในร่างกาย มีอยู่ ๒ ส่วน คือ
๑.พัทธปิตตะ-ดีในถุง (ดีที่เป็นฝัก) คือ ถุงน้ำดี เมื่อมีอาการผิดปกติกำเริบแล้ว จะกลายเป็นบ้ามีจิตวิปลาส ทิ้งหิริโอตตัปปะ ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ พูดสิ่งที่ไม่ควรพูด คิดสิ่งที่ไม่ควรคิด
๒.อพัทธปิตตะ-ดีนอกถุง (ดีที่ไม่เป็นฝัก) มีลักษณะอย่างน้ำมันที่ไหลเวียนอาบเอิบอยู่ทั่วทั้งร่างกาย เมื่อมีอาการผิดปกติกำเริบแล้ว ดวงตาจะเหลือง เวียนศีรษะ ตัวสั่นและคัน ตามสำนวนยุคปัจจุบันที่ถูกต้อง ดีนอกถุง หมายถึง ระบบน้ำเหลือง ไม่ใช่น้ำดีที่ช่วยย่อย
*อนึ่ง ระบบน้ำเหลือง รึ ดีนอกถุงนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ น้ำเหลือง ที่ทางบาลีเรียกว่า ปุพโพ เพราะ น้ำเหลืองปุพโพ หมายถึง หนอง ไม่มีที่ตั้งชัดเจนในร่างกาย แต่จะน้ำเหลืองปุพโพปรากฏขึ้นเมื่อร่างกายมีบาดแผล เช่น ถูกมีดบาด หนามตำ ไฟไหม้ ฯลฯ ในรูปแบบของฝีและหนอง ว่าง่ายๆ ปุพโพ คือ น้ำเหลืองเสียฝีหนอง
อาการบ้าดีเดือดจากการฝึกวิทยาคมสายดำ สามารถรักษาได้รึไม่?
จากการตรวจค้นเชื่อมโยงข้อมูลแล้ว สามารถทำได้ โดยใช้ ๒ วิธีควบคู่กัน ดังนี้
๑.ปรับเปลี่ยนอาหาร
ตามตำนานจีน บรรดาสัตว์ใฝ่ดีที่ฝึกวิชาบำเพ็ญตบะเป็นเวลานับร้อยนับพันปีจนกลายเป็นปิศาจสายขาวนั้นมักประพฤติตนเยี่ยงผู้ทรงศีลกินมังสวิรัติเป็นหลัก ส่วนบรรดานักไสยเวทสายขาวส่วนใหญ่นั้นก็ปฏิบัติตนในแนวทางเดียวกัน พวกสายขาวจึงมีจุดร่วมบางประการที่เหมือนกัน คือ เรื่องอาหาร
โดยทั่วไปอาจเข้าใจกันว่า การที่ผู้มีวิชาอาคมถือศีลกินมังสวิรัติ เป็นเรื่องของการชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาด ทว่าเราพบว่าเรื่องนี้มีอะไรที่มากกว่านั้น
ด้วยว่าเมล็ดธัญพืช และพืชตระกูลถั่วหลายชนิดมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบน้ำเหลืองได้ อาหารมังสวิรัติที่ผลิตจากสิ่งเหล่านี้จึงนับเป็นอาหารบำรุงอย่างดีของเหล่านักวิทยาคมสายขาว เพราะช่วยให้ระบบน้ำเหลืองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากพวกสายดำต้องการจะฟื้นฟูและรักษาตัวเองให้หายขาดจากอาการบ้าดีเดือด หลุดพ้นจากการกินของดิบของคาวเพื่อบรรเทาอาการ ก็ควรหันไปบริโภคธัญพืชและกลุ่มอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบน้ำเหลืองเป็นหลักน่าจะพอช่วยเยียวยาฟื้นฟูระบบน้ำเหลืองที่เสียหายให้กลับเป็นปกติได้ แต่คงต้องใช้เวลามากหน่อยถึงจะฟื้นฟูจนหายดีได้
๒.งดเว้นการฝึกฝนและใช้วิทยาคมสายดำ
ลำพังการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพียงอย่างเดียวนั้นยังไม่มากพอ จำเป็นต้องยุติกิจกรรมการฝึกฝนและใช้วิทยาคมสายดำด้วย เพราะหากยังคงฝึกฝนและใช้วิทยาคมสายดำต่อไปเรื่อยๆ ระบบน้ำเหลืองก็จะฟื้นฟูได้เพียงครึ่งๆ กลางๆ ไม่เต็มที่ รึอย่างน้อยก็ค่ายๆ ตัดวิทยาคมสายดำส่วนที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด เพื่อรักษาอาการให้หายขาด
สรุป คือ หากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนได้ทันเวลาก่อนที่สุขภาพจะทรุดหนัก พวกสายดำก็สามารถฟื้นฟูตนเองได้
ทว่า การรักษาอาการบ้าดีเดือดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากพื้นเพอุปนิสัยโดยสันดานของนักวิทยาคมสายดำส่วนใหญ่เป็นพวกใจร้อน ความอดทนต่ำ ไม่ชอบรอนาน จึงได้เลือกวิถีสายดำกันตั้งแต่แรก ดังนั้นการให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินรวมถึงเลิกฝึกฝนและใช้วิทยาคมสายดำที่มีจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ยกตัวอย่างเช่น การที่พวกสัตว์ปิศาจสายดำไม่ค่อยยอมกินมังสวิรัติเพื่อกลับใจมาใฝ่ดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเสียดายวิทยาคมสายดำที่พวกตนได้ร่ำเรียนมา (แบบผิดๆ ถูกๆ) เพราะถ้ารักษาอาการบ้าดีเดือดก็ต้องเลิกใช้วิชาสายดำ และหากสัตว์ปิศาจพวกนี้ไม่ได้ฝึกวิชาสายขาวติดตัวมาก่อน การเลิกใช้วิชาสายดำก็เหมือนการตัดวิทยาคมที่ตัวเองมี เช่นว่า เดิมทีพวกนี้อาจแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เพราะใช้วิทยาคมสายดำ แต่เมื่อคิดรักษาตัวเองก็ต้องละทิ้งวิทยาคมสายดำที่ตนมีทั้งหมดแล้วกลับร่างเป็นสัตว์ตามเดิมเพื่อนับ ๑ ใหม่ คือ เริ่มฝึกวิทยาคมสายขาวตั้งแต่ต้นเลย ซึ่งจะเสียเวลามาก รึต่อให้สัตว์ปิศาจสายดำพยายามฝืนใช้ร่างมนุษย์ที่ได้มาจากวิทยาคมสายดำเพื่อฝึกสายขาวใหม่ตั้งแต่ต้น ก็ยังคงใช้เวลามากอยู่ดี เผลอๆ การอยู่ในร่างมนุษย์ด้วยวิทยาคมสายดำเพื่อศึกษาสายขาวอาจเสียเวลามากกว่าด้วย เพราะระบบน้ำเหลืองจะไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์
พวกปิศาจสัตว์สายดำที่ใจไม่กล้าพอจะทิ้งวิทยาคมสายดำที่ตนมี เลยยอมทนกับอาการบ้าดีเดือด ที่ต้องใช้การกินของดิบของคาวรึกินมนุษย์เพื่อบรรเทาอาการกันต่อไป อาจมีบ้างที่สัตว์ปิศาจสายดำบางตนจะยอมเก็บตัวในที่สงัด กินแต่อาหารมังสวิรัติและงดการใช้วิทยาคมสายดำเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อประคองอาการไม่ให้ระบบน้ำเหลืองเสื่อมทรุดหนัก เมื่อระบบน้ำเหลืองเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้ระดับหนึ่งก็กลับไปใช้สายดำตามเดิม วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่หายขาด
อนึ่ง แม้พวกสายดำไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนดีโดยพื้นฐาน แต่ก็มีข้อห้ามผูกมัดมากมายเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกวิทยาคมสายดำที่ฝึกมาอย่างผิดๆ ถูกๆ ทำลายสุขภาพตัวเองจนตาย
อีกอย่าง หากในสังคมนั้นเต็มไปด้วยวิทยาคมจำนวนมากจนแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนสายขาวอันไหนสายดำ การฝึกสายขาวนั้นก็คงแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะไม่รู้ว่าวิชาไหนขาววิชาไหนดำ
หากจะมีสงครามไสยเวทย์ สงครามนี้จะไม่สามารถเกิดในยุคที่วิชาสายขาวกำลังเจริญรุ่งเรืองได้เด็ดขาด แม้ผู้สำเร็จวิชาสายขาวจะมีจำนวนน้อย แต่วิทยาคมของผู้สำเร็จสายขาวนั้นจะแข็งแกร่งและทรงพลังมาก อีกทั้งพื้นฐานของผู้ฝึกสายขาวจะต้องเป็นคนดีมีคุณธรรม ดังนั้นจึงไม่มีทางเกิดสงครามไสยเวทย์ขึ้นแน่นอน
สงครามไสยเวทย์น่าจะเกิดในยุคที่ไม่เหลือผู้ฝึกสายขาวอยู่แล้ว มีแต่พวกที่คิดตัดแต่งดัดแปลงวิชาสายขาวให้กลายเป็นหลักสูตรเร่งรัดสามารถฝึกสำเร็จได้ภายในเวลาอันสั้นจนเกิดเป็นวิชาสายดำ ที่จำนวนผู้ฝึกสำเร็จมีมากกว่าสายขาว วิทยาคมสายขาวที่ถูกบิดเบือน ตัดแต่ง ดัดแปลง ก็แตกแขนงแยกย่อยจนเกิดเป็นสารพัดวิชาสายดำมากมายและหลายสำนัก บ้างก็เจตนาดัดแปลงวิชาเพื่อให้ตนเองได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์เจ้าสำนัก อวดอ้างตนว่าเป็นเจ้าของวิชาผู้คิดค้นวิทยาคมต่างๆ นานา ให้ผู้คนมาเคารพนับถือกราบไหว้บูชา แต่พวกสายดำก็มาพร้อมผลข้างเคียงจากอาการบ้าดีเดือด อย่างที่กล่าวไว้
วิชากินตัว คือ พวกฝึกวิทยาคมสายดำที่เกิดจากการดัดแปลงตัดแต่งวิชาให้สั้นลงตามความมักง่ายของแต่ละสำนักเองจนเกิดบ้าเป็นอาการดีเดือดทำลายสุขภาพของตัวผู้ฝึกเอง
ครูบาอาจารย์ให้โทษ ก็คือการให้โทษกันมาตั้งแต่รุ่นครูบาเจ้าสำนักสายดำที่คิดอวดรู้ดัดแปลงตัดแต่งวิชาโบราณกันเองตามใจชอบจนบิดเบี้ยว เกิดเป็นอาการบ้าดีเดือดติดตัว
ทั้งวิชากินตัว และ ครูบาอาจารย์ให้โทษ พบได้แค่ในพวกวิทยาคมสายดำเท่านั้น วิทยาคมสายขาวของจริงจะไม่มีเรื่องพวกนี้เลย
อนึ่ง วิทยาคมสายดำสามารถใช้ทำเรื่องดีได้ แต่ผลจากการฝึกและใช้สายดำก็ยังคงบั่นทอนสุขภาพของตัวผู้ฝึกผู้ใช้ได้อยู่ เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนที่ต้องแบกรับกันไป
วิธีป้องกันตะขาบในบ้าน ลดเสี่ยงโดนกัด
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
มาลี โสเจียตา แถลงการณ์ พบทหารไทยพกอาวุธ ขนาดเล็ก และมีการยิงใส่กองกำลังของกัมพูชา กองกำลังกัมพูชา ก็ได้เรียกร้องให้ไทยยุติการยิงทันที
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
Unseen ภูผาเหล็ก สกลนคร ย้อนรอยประวัติศาสตร์ "ลายเซ็น 3,600 ปี"
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ตร.นัดเก็บหลักฐานบ้าน "นัทปง" 11 ธ.ค. 68 หลังญาติแจ้งเพิ่งเสร็จพิธีศพ พร้อมเรียกสอบพยานครบ 5 ปาก
แนวหน้า! ปะทะเดือด “ภูผาเหล็ก” ทหารเจ็บ แต่คำสั่งมาให้ “หยุดยิง”รอเจรจา
เลขาฯ นายกฯ โพสต์แจ้งคน อ.กันทรลักษ์ อพยพออกจากพื้นที่ด่วน
แนวหน้า! ปะทะเดือด “ภูผาเหล็ก” ทหารเจ็บ แต่คำสั่งมาให้ “หยุดยิง”รอเจรจา
‘เขมร’ ปากสั่น! จะมี 5G ใช้แล้ว ไม่ง้อไทย
Unseen ภูผาเหล็ก สกลนคร ย้อนรอยประวัติศาสตร์ "ลายเซ็น 3,600 ปี"
ฮุนเซน หน้าแตก หลังไทยเปิดหลักฐาน เซอร์ไพรส์กลาง เวทีโลก
ปอศ. เร่งสอบเส้นเงิน "นานา ไรบีนา" นัดประชุมชุดคลี่คลายคดี ลุ้นสัปดาห์หน้าชัดเจนปม "เวย์ ไทยเทเนี่ยม"
ตร. จ่อขอหมายค้นบ้าน "นัทปง" หลังเพื่อนสนิทปฏิเสธไม่มีกุญแจ อ้างส่งคืนครอบครัวแล้ว

