NASA ตะลึง..พบถ้ำบนดวงจันทร์
องค์การบริหารการบิน และอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ นาซ่า (NASA) ได้ค้นพบข้อมูลใหม่บนดวงจันทร์ จากการถ่ายภาพของยานสำรวจแอลอาร์โอ (LRO) ได้ไปค้นพบภาพถ่ายหลักฐานบางอย่าง ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งของความก้าวหน้า และเตรียมขยายผลตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์ นั่นก็คือ การไปพบถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งอยู่แถว ๆ ขั้วใต้ของดวงจันทร์ ซึ่งถ้ำแห่งนี้มีลักษณะสภาพแวดล้อม และอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ได้ ซึ่งอุณหภูมิถ้าเทียบกับจุดอื่น ๆ บนดวงจันทร์ด้วยแล้ว ยังถือว่าไม่สูงมาก และยังสามารถที่จะป้องกันภัยคุกคามที่มาจากจุดอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบบนดวงจันทร์ได้ดีอีกด้วย ซึ่งตรงนี้เองสามารถที่จะนำไปใช้สำหรับการอยู่อาศัยแบบระยะยาวบนดวงจันทร์ได้ดีเลยทีเดียว แต่ว่านี่เป็นเพียงข้อมูลที่ค้นพบแค่ในเวลานี้ หลังจากนี้คงต้องไปหาหลักฐาน และก็ไปสำรวจในพื้นที่อย่างละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง
โดยเป็นผลมาจาก การที่ยานสำรวจดวงจันทร์ LRO ของ องค์การบริหารการบิน และอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ นาซ่า (NASA) ได้สามารถไปถ่ายภาพปากทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บนดวงจันทร์ และนำไปสู่การวิเคราะห์ของทีมนักวิทยาศาสตร์ จนได้ข้อสรุปว่า ถ้ำที่มนุษย์สามารถถ่ายภาพพบได้ในครั้งนี้ น่าจะเป็นผลมาจากการเคลื่อนตัวของภูเขาไฟ ตั้งแต่ในยุคโบราณ และก็คงสภาพเป็นถ้ำแบบนี้มานานหลายล้านปีแล้ว แต่ว่าสิ่งที่น่าสนใจก็ คือ โครงสร้างของถ้ำบนดวงจันทร์ ประกอบไปด้วยสิ่งที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในระยะยาว เพราะว่าสามารถที่จะป้องกันกัมมันตภาพรังสีที่มีความเสี่ยงได้ ,สามารถที่จะป้องกันอุณหภูมิที่แปรปรวนแบบสุดขั้วบนดวงจันทร์ รวมไปถึงยังสามารถที่จะป้องกันอุกกาบาตขนาดเล็กถ้าหากว่าพุ่งชนบนดวงจันทร์ได้
โดยภายในถ้ำแห่งนี้อุณหภูมิค่อนข้างจะคงที่ อยู่ที่ประมาณเฉลี่ย -20 องศาเซลเซียส ซึ่งจริง ๆ ถ้าเทียบกับอากาศบนโลกแล้วอาจจะหนาว แต่ว่าถือว่าเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ ถ้าเทียบกับสภาพแวดล้อมสภาพอากาศโดยรวมบนจุดอื่น ๆ บนดวงจันทร์ โดยถ้ำแห่งนี้อยู่แถว ๆ ขั้วใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ ๆ เต็มไปด้วยน้ำแข็ง และทรัพยากรบางอย่างที่มีคุณค่า และสามารถเปลี่ยนนำมาใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงได้ด้วย
การค้นพบในครั้งนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถจะนำไปใช้ต่อยอด ในการตั้งถิ่นฐานแบบระยะยาวของมนุษย์ เพื่อที่จะใช้ในการสำรวจดวงจันทร์ในจุดอื่น ๆ ,การวิจัย ,การทดลองทางวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่กระทั่งการท่องเที่ยวอวกาศในอนาคตอีกด้วย เพราะว่าเป้าหมายใหญ่ของมนูษย์ ก็คือ การทำให้ดวงจันทร์เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ของมนุษย์ ซึ่งตรงนี้อาจจะมีความเป็นไปได้เร็วขึ้น ที่ชีวิตนี้เราอาจจะได้เห็นโครงการนี้ประสบความสำเร็จ และเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้