เรามักเป็นตัวร้ายในเรื่องเล่าของคนอื่นเสมอ
เรามักจะเป็นตัวร้ายในเรื่องเล่าของคนอื่นเสมอ
หลายๆคนคงเคยได้ยินประโยคแบบนี้ผ่านหูหรืออ่านผ่านตามาบ้างแล้ว มันเป็นเรื่องจริงในสังคมค่ะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวัน ทุุกที่ และกับทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะได้ยินเรื่องเล่าเหล่านั้นที่มีเราเป็นตัวร้าย(ซึ่งจริงหรือไม่จริงก็ตาม)เมื่อไหร่
การอยู่ร่วมในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมเล็กหรือสังคมใหญ่ สังคมคนทั่วไปหรือสังคมชนชั้นสูง มันหนีไม้พ้นคำนินทาว่าร้าย ในแต่ละสังคมมีผู้คนมากมาย ร้อยพ่อพันแม่ มาจากต่างสถานที่ ต่างวัฒนธรรมและต่างคำอบรมสั่งสอน เมื่อมาอยู่รวมกันจึงเกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และมักจะจบลงที่เรื่องการนินทาผู้อื่น
ขึ้นชื่อว่าการนินทาแล้วคงไม่ใช่นินทาในเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน
แล้วในหัวข้อบทสนทนาว่าด้วยการนินทานั้น ก็จะมีบุคคลคนในเรื่องเล่า ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เล่ามักจะเสนอตัวเอง เป็นตัวเอกของเรื่องและตัวร้ายของเรื่องเล่านั้น จะต้องเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนา และไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคุณ
พื้นฐานนิสัยของมนุษย์เรานั้น ไม่มีใครที่จะมองว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีหรือเป็นผู้ร้ายหรอกค่ะ
ต้องมองเห็นแต่ข้อดีของตัวเอง สิ่งที่ตัวเองทำดีกับคนอื่น เคยช่วยเหลือ เคยให้ เคยแบ่งปัน
สารพัดความดีของตัวเองที่อยู่ในห้วงความคิด ในจิตสำนึก แต่ไม่เคยเห็นความดีของคนอื่นเลยว่า คนอื่นเคยทำดี เคยเสียสละอะไรบ้าง เขาเคยช่วยเหลือ เคยให้ เคยแบ่งปัน หรือหลายๆอย่างที่เคยได้รับจากเขา ไม่เคยคิดถึงเลย
ส่วนเรื่องแย่ๆที่เขาเคยทำกับใครยิ่งไม่ต้องพูดถึง นั่นเป็นสิ่งที่จิตใต้สำนึกของคนเหล่านี้จะไม่จำเลยค่ะ
เขาจะจำได้แค่ว่า คนๆนั้นเคยทำเรื่องแย่ๆกับเขาบ้าง เคยทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเจ็บช้ำน้ำใจอะไรบ้าง
คอยแต่พร่ำบอกว่าตัวเองโดนทำร้าย เสียใจ เสียความรู้สึก จนทำให้ลืมนึกไปว่า ตัวเองทำเรื่องแย่ๆและร้ายใส่คนอื่น
ทำให้คนอื่นเสียใจและเสียความสึกไปมากมายแค่ไหน
บางครั้งเรื่องร้ายๆของผู้ร้ายในเรื่องเล่า อาจจะเป็นแค่เรื่องแต่งเติมขึ้นมาจากตัวผู้เล่าเอง เพื่อต้องการยกตัวเองให้ดูเป็นผู้ถูกกระทำ และสร้างความเกลียดชังในเกิดขึ้นต่อตัวร้ายในเรื่องจากคนในวงสนทนาเดียวกัน
คนที่ไม่เคยมองเห็นความผิดพลาดหรือความไม่ดีของตัวเอง คงยากที่เราจะเข้าไปพูดคุยหรือเปลี่ยนความคิดของเขาได้
ถ้าจำเป็นเราอยู่ในสังคมกับคนแบบนี้ สิ่งที่เราต้องทำคือ ฟังและคิด พิจารณาตามว่าสิ่งที่เขาเล่ามันมีมูลความจริงอยู่มากน้อยแค่ไหน
ไม่ใช่ว่าเราจะเชื่อในทุกๆอย่าง ในทุกเรื่องเล่า อย่าเพิ่งตัดสินใครจากการได้ยินคนอื่นเล่ามา อย่าให้คนอื่นชักจูงและโน้มน้าวให้เชื่อในสิ่งที่เขาเล่า จนทำให้เรามองคนๆหนึ่งแบบผิดๆ และสร้างความเกลียดชังขึ้นในใจของเราเอง
คนประเภทนี้ถือว่าเป็น คนเห็นแก่ตัวหรือไม่?
การอยู่ในสังคมที่มีอย่างหลากหลาย เราควรอยู่ให้เป็น อยู่ตรงไหนแล้วมีความสุขก็อยู่ตรงนั้น
อยู่ที่ไหนที่มีแต่เรื่องให้เครียดหรือไม่สบายใจก็พยายามถอยออกมา การอยู่กับคนที่มีทัศนคติที่ไม่ดี ก็อาจจะทำให้เราทุกข์และร้อนใจมากกว่าการอยู่กับคนที่มีทัศนคติที่ดี การเลือกคบคน การเลือกให้ใจคน
มีความสำคัญมาก เลือกให้ใจผิดคน สักวันหนึ่งเราก็จะกลายเป็นแค่ ตัวร้าย ในเรื่องเล่าของเขาเท่านั้นเองค่ะ