ไม่ไหวก็ต้องไหวโรงรับจำนำที่พึ่งยามยากของคนหมุนเงินไม่ทัน
เศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้คนชักหน้าไม่ถึงหลังกันมาก ๆ หาเงินได้น้อยลง แต่รายจ่าย หนี้สินเท่าเดิม ไหนจะต้องกินต้องใช้รายวันอีก คิดแล้วปวดหัวจริง ๆ จะไปกู้ยืมที่ไหนก็ดูจะยากลำบากไปหมด หลายคนใช้วิธีนำของมีค่า ทรัพย์สินที่ตัวเองเก็บสะสมมานานหลายปีออกไปจำนำที่โรงรับจำนำ พอได้เงินมาประทังชีวิตให้ไปต่อได้ในช่วงนี้
จะพามาส่องเงื่อนไขของสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพ ฯ สำหรับใครที่จะเอาของมีค่าไปจำนำ ดูรายละเอียดดังนี้ครับ
-ใครจำนำได้บ้าง
คำตอบ คือ คนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน ไม่เป็นภิกษุ สามเณร
-ของมีค่าอะไรจำนำได้บ้าง
คำตอบ คือ ทรัพย์ประเภทสังหาริมทรัพย์ คือ เป็นทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายได้ และไม่ต้องมีทะเบียน เช่น
ทอง เพชร นาก เงิน นาฬิกา แว่นตา เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือช่าง ของใช้เบ็ดเตล็ด
-การคิดดอกเบี้ยเป็นอย่างไร
คำตอบ คือ จำนำภายในระยะเวลา 15 วัน จะคิดดอกเบี้ยครึ่งเดือน ถ้าเกิน 15 วัน จะคิดดอกเบี้ย 1 เดือน (นับตั้งแต่วันที่ที่จำนำเป็นวันที่ 1) ซึ่งผู้ที่มาส่งดอกเบี้ยหรือไถ่ถอนคืนต้องมาให้ตรงตามวันที่แจ้ง ในตั๋วจำนำ ในกรณีที่มาภายหลังวันที่กำหนดในตั๋วจำนำอาจเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปอีก
-หากผ่อนเพิ่มตั๋วต้องทำไง
คำตอบ คือ ทั้งนี้สามารถผ่อน-เพิ่มเงินต้นได้ โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่วันจำนำจนถึงวันที่มาขอทำการผ่อน-เพิ่ม (ผ่อน หรือ เพิ่ม + ดอกเบี้ย)
-อายุตั๋วรับจำนำ เป็นอย่างไร
คำตอบ ตั๋วรับจำนำมีอายุ 4 เดือน 30 วัน กรณีตั๋วรับจำนำครบตรงกับวันหยุดทำการถ้าตั๋วรับจำนำครบกำหนดวันที่ที่จะส่งดอกเบี้ย หรือ ไถ่ถอน ตรงกับวันเสาร์ - อาทิตย์ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้มาในวันที่ที่เปิดทำการวันแรกโดยไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่ม ทั้งนี้ผู้จำนำทรัพย์โปรดไถ่ถอนหรือส่งดอกเบี้ยภายใน 4 เดือน 30 วัน นับจากวันรับจำนำหากเลยกำหนด ทรัพย์นั้นจะหลุดเป็นสิทธิ์ของสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร
-จำนำได้ที่ไหน
อ้างอิงจาก: สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร