“ ว่าด้วยเรื่องของ กะเพรา”
"กะเพรา"สมุนไพรไทย
เมนูยอดนิยมของคนไทย คงหนีไม่พ้นเมนูสิ้นคิดอย่าง "ผัดกะเพรา" แต่ใบกะเพราไม่ใช่เพียงแค่ทำแต่เมนูผัดกะเพราเพียงเท่านั้น ใบกะเพรายังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูตามความชอบของแต่ละคน ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ส่วนสรรพคุณนั้นล้นหลามเลยทีเดียว
กะเพรามี 2 ชนิด คือ กะเพราแดงและกะเพราขาว กะเพราแดงจะมีฤทธิ์แรงกว่ากะเพราขาว ในสรรพคุณทางยาจึงนิยมใช้กะเพราแดง กะเพราเป็นไม้ล้มลุกมีความสูงประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร กะเพราแดงจะมีลำต้นสีแดงอมเขียว ส่วนกะเพราขาวจะมีลำต้นสีเขียวอมขาว
ประโยชน์ทางยาของกะเพรา
ใบและยอดทั้งสดและแห้ง มีรสเผ็ดร้อนฉุนใช้แก้จุกเสียดแน่นท้อง โรคกระเพาะ ลดน้ำตาลในเลือด ใบแห้งบดเป็นยานัตถุ์แก้คัดจมูก
สรรพคุณของกะเพรา
➡️ มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยขับลม ลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง
➡️ ป้องกันอาการเจ็บป่วยจากอาการหวัดได้
➡️ ช่วยลดระดับของไขมันและปริมาณคอเลสโตรอลในร่างกาย ทำให้ระดับของน้ำตาลลดลง
➡️ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ลดการเกิดกรด
➡️ ช่วยขยายหลอดเลือด สามารถลดความดันเลือดได้
➡️ มีประโยชน์ต่อตับ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษของตับได้เป็นอย่างดี
วิธีการปลูกกะเพรา
กะเพราปลูกได้ทั้งแบบวิธีเพาะเมล็ดและวิธีปักชำกิ่ง แต่จะแนะนำวิธีปักชำกิ่งเพราะจะโตเร็วกว่า ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
- ให้เลือกกิ่งกลางแก่กลางอ่อน ที่ยังไม่เคยออกดอกตัดกิ่งยาวประมาณ 4 - 5 นิ้ว มาปักชำในกระถาง รดน้ำให้ชุ่มไม่กี่วันกะเพราก็แตกรากแตกใบ
- จากนั้นนำไปปลูกลงดิน โดยปลูกให้ต้นห่างกัน 20 - 30 เซนติเมตร
- รดน้ำให้พอ ใส่ปุ๋ยบ้างและคอยตัดยอดตัดดอกทิ้ง