หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เปิดตำรา "ยาอายุวัฒนะ"

โพสท์โดย Gnapbio

เปิดตำรา "ยาอายุวัฒนะ"

 

           แต่คำว่า ยาอายุวัฒนะ ในที่นี้ มิได้มีความหมายให้มนุษย์ไม่ตาย แต่มีความหมายในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงร่างกายและจิตวิญญาณเข้าด้วยกัน ที่สำคัญ ยาอายุวัฒนะ กำลังจะเปิดหน้าใหม่ ของการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ที่ประชาชนดูแลสุขภาพอย่างพึ่งตนเองได้

 

 

         เมื่อพูดถึงตำรายาอายุวัฒนะนั้น อ.วิโรจน์บอกว่า ตำรายาอายุวัฒนะเป็นยาสมุนไพรที่มีการใช้มาเป็นเวลานาน มีการสืบทอดให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาเรียนรู้กันไม่ว่าจะเป็นการสืบทอดจากปู่ ย่า ตา ยาย บิดา หรือจากการบวชเรียน จากการศึกษาจากตำรา เช่น สมุดใบลาน ซึ่งส่วนใหญ่ภาษาที่ใช้จะเป็นภาษาล้านนา ดังนั้นผู้ที่จะเป็นหมอเมืองส่วนใหญ่จะเคยบวชเรียนมา และมีการศึกษาภาษาล้านนามาก่อน

          “ยาอายุวัฒนะ จึงไม่ใช่ยาที่ทำให้คนไม่ตาย แต่เป็นยาบำรุงกำลัง อยู่ได้เป็นร้อยปี ถ้าปฏิบัติตามหลัก ที่เรากำลังจะบอกว่า ชาวบ้านสามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้ ยาอายุวัฒนะเป็นยาป้องกัน และไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย อย่างนั้นเรียกว่ายากาย แต่แค่นี้ยังไม่พอ ยังต้องมียาใจด้วย เรื่องแบบนี้เรามักจะละเลยกันไป มุ่งแต่จะฆ่าเชื้อโรคในร่างกาย แต่ไม่ดูที่จิตวิญญาณ”

             ในตามตำราแพทย์แผนไทย มักจะบอกไว้เสมอว่า วัยชรา หรือปัจฉิมวัย จะเริ่มที่อายุ 32 ปี เป็นต้นไป โดยในวัยกลุ่มนี้ มักจะเริ่มมีปัญหาสุขภาพ โรคของความเสื่อมต่างๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรเริ่มต้นดูแลสุขภาพเพื่อชะลอความเสื่อมต่างๆ ไว้ นอกจากนี้ ปัจฉิมวัย ยังเป็นช่วงวัยที่มีวาตะ (ธาตุลม) เป็นเจ้าเรือน คือจะมีคุณสมบัติแห้งและเย็นของวาตะจะแสดงผลอย่างชัดเจนในปัจฉิมวัยตอนปลาย คือ น้ำหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ จะแห้ง ผิวจะแห้ง ธาตุไฟจะอ่อนแรง การย่อยอาหารจะไม่ดี ทำให้มีอาการท้องอืดท้องผูกง่าย ทั้งยังมีอาการนอนไม่หลับ ความคิดสับสน เป็นต้น


 

                ดังนั้น ยาบำรุงสำหรับผู้สูงอายุส่วนใหญ่ควรจะเป็นยาบำรุงธาตุ ซึ่งมักจะประกอบด้วยสมุนไพรที่รสเผ็ด อุ่น ฉุน หอม เพื่อช่วยย่อยอาหาร เช่น พริกไทย สมุนไพรที่มีรสขมเพื่อไปกล่อมตับทำให้ตับไม่ร้อนเกินไป สามารถทำงานในการสร้างไฟธาตุ (น้ำย่อย) ได้ปกติ เช่น ขมิ้น สมุนไพรเพื่อช่วยในการขับถ่าย เช่น สมอ สมุนไพรที่มีคุณสมบัติชุ่มชื้น เช่น มะตูม รากสามสิบ ยอ และมีสมุนไพรรสมันเพื่อไปชดเชยความแห้ง เช่น แห้วหมู ถ้าหากต้องการบำรุงสมรรถภาพทางเพศก็ควรเป็นยาบำรุงที่มีสมุนไพร อย่างกระชายรวมด้วย

 

 

ตัวอย่าง ตำรับยาอายุวัฒนะ ชะลอวัยไกลโรค

           ตำรับที่ 1 : มะตูมแห้ง 1 ส่วน กล้วยน้ำว้าดิบตากแห้ง 1 ส่วน พริกไทย 2 ส่วน ผสมกันบดเป็นผง เวลาปั้นเม็ดใช้มะตูมแห้งต้มเคี่ยว เอาน้ำมาผสมกับยาผงในครกตำให้เข้ากันดีแล้วปั้นเป็นเม็ด เม็ดละ 500 มิลลิกรัม หรือจะใช้น้ำผึ้งผสมผงยาก็ได้ รับประทานครั้งละ 3 เม็ด ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เช้า-เย็น บำรุงกำลัง ไม่อ่อนเพลีย ไม่เหนื่อยง่วง บำรุงประสาท กินประจำ จะไม่แก่เร็ว

 

          ตำรับที่ 2 : รากสามสิบ 1 ชั่ง รากโคกกระสุน 1 ตำลึง บอระเพ็ด 15 ตำลึง ตำผงเอาน้ำผึ้ง 1 ตำลึง คลุกตั้งไฟให้สุก อย่าให้ไหม้ กินครั้งละหัวแม่มือทุกวัน กินแล้วมีกำลังดังหนุมาน งามดังพรามนะละเทพ มีปัญญาดังพระมโหสถ เสียงเพราะดังนกการเวก

 

           ตำรับที่ 4 : บอระเพ็ด 18 บาท กระเทียม 9 บาท เหง้ากระชาย 6 บาท พริกไทยล่อน 3 บาท ดีปลี 3 บาท ขิงแห้งหนัก 3 บาท แห้วหมู 3 บาท ยาดำ 3 บาท ย่านาง 3 บาท ลูกยอแห้ง 39 บาท นำทั้งหมดบดผงผสมน้ำผึ้ง นำมาปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทราไทย กินครั้งละ 2 เม็ด เช้า เย็น กินแล้วไม่รู้จักเหนื่อย

 

            ตำรับที่ 5 : บัวบก 1 กระเทียม 1 ลูกยอ 1 พริกไทย 1 ตำเป็นผง ผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอน 2 เม็ด เช้า-เย็น เอามะตูมนิ่มตากแดดแห้ง 20 บาท กระชายตากแห้ง แห้วหมูตากแห้ง พริกไทยล่อน สิ่งละ 10 บาท รวมตำเป็นผงละลายน้ำผึ้ง ปั้นลูกกลอน กินแล้วไม่แก่เฒ่า ไม่มีโรค

            ตำรับที่ 6 : ให้เอาลูกยอเท่ากับอายุตัวเอง พริกไทยหนักสองบาท ดีปลีหนักสองบาท แล้วเอาน้ำตาลทรายหนักหนึ่งกิโลกรัมเทลงไปในโหลเจ็ดวัน ให้กินวันละหนึ่งลูกจนกว่าจะหมด

          ตำรับที่ 7 : บอระเพ็ด 7 ถ้วย กานพลูเท่าอายุ มะขามเปียกสด 5 ถ้วย ใบมะขามแขก 1 ถ้วย เกลือไทย 3 ถ้วย บดเป็นผงกินกับน้ำร้อน ครั้งละ 1 ช้อนชา เช้า-เย็น กินเป็นประจำร่างกายจะแข็งแรงปราศจากโรคภัยเบียดเบียน

           ตำรับที่ 8 : ท่านให้เอาต้นเหงือกปลาหมอ หนัก 3 ตำลึง พริกไทยล่อน หนัก 1 ตำลึง หัวแห้วหมู หนัก 1 ตำลึง ตากให้แห้ง ตำผงละลาย ผสมน้ำผึ้ง กินหลังอาหารเย็น ทำให้ตาแจ่มใส่ บำรุงเส้นรักษาน้ำเหลือง

           ตำรับที่ 9 : ท่านให้เอา พริกไทยล่อน แห้วหมู กระชาย บอระเพ็ด สิ่งละ 3 บาท ทำผง ละลายน้ำผึ้งกินดีนักแล

 

           ตำรับที่ 10 : ท่านให้เอาหัวแห้วหมู รากแจง สมอเทศ สมอไทย สมอพิเภก สมอดีงู กระเทียม ดีปลี ขิงแห้ง หัวข่าเล็ก บอระเพ็ด มะขามป้อม ยาขนานนี้ดีมาก ท่านให้สิ่งละเท่าๆ กัน ทำเป็นยาผง ละลายน้ำผึ้งเป็นกระสาย กินหลังอาหารเย็น ยาขนานนี้ คนอายุ 30 ปีขึ้นไป ก็กินได้ นอกจากนั้น คนที่ท้องผูกก็ดีมาก เพราะมันมีการระบายน้อยๆ

         ตำรับที่ 11 : แห้วหมู กระชาย พริกไทย หนักสิ่งละ 5 ตำลึง ต้มตากแดดตากน้ำค้างกินเช้าเย็น หรือจะปั้นเม็ดกินกับน้ำผึ้งก็ได้

        ตำรับที่ 12 : รากสามสิบหนัก 600 กรัม บอระเพ็ดหนัก 600 กรัม ใบหนาดหนัก 600 กรัม ใบมะตูมหนัก 600 กรัม ยาทั้งหมดตากแดดให้แห้งแล้วบดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งเดือนห้ากิน เป็นยาอายุวัฒนะแล

 

แอดพยามยามรวบรวมตำรายาจากแหล่งต่างๆมาให้ทุกคนที่สนใจศึกษาค่ะ ถือเป็นการศึกษาเพื่อมีความรู้ประดับตัวกันค่ะทุกคน ส่วนเพื่อนๆจะนำไปปฏิบัติแอดแนะนำให้ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ

โพสท์โดย: ezu979
อ้างอิงจาก: https://www.doctor.or.th/article/detail/6653
:https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_70517
:file:///C:/Users/ADMIN/Downloads.pdf
:https://mgronline.com/qol/detail/9480000069447
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Gnapbio's profile


โพสท์โดย: Gnapbio
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: ezu979
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เลขเด็ดคุณไก่ วุฒินันท์ สอนศรี งวด 2 พฤษภาคม 2567ไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!พ่อสุดโหด บังคับลูกวิ่งบนลู่ จนตาย...
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ศาลกัมพูชาตัดสินโทษ 3 คนไทยค้ายา " จำคุกตลอดชีวิต "ฉันขายให้ผู้ดีกิน! "เดย์ ฟรีแมน" โต้ขายขนมแพง ตอกกลับเจ็บจี๊ด มีหน้าชาทุกคอมเม้นต์งามหน้า! นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นโดนสแกมเมอร์หลอก ตลาดน้ำดำเนินสะดวกvomit: อาเจียน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
วิธีแจ้งความออนไลน์AI ยุคสมัยสังคมในปัจจุบันสวนสัตว์มนุษย์ หรือ Human Zoo หนึ่งในความน่าละอายของมนุษย์ ที่ทำกับมนุษย์ด้วยกันรีวิวหนังสือ ROBIN HOOD โรบิน ฮูด วีรบุรุษจอมโจร
ตั้งกระทู้ใหม่