สีของปัสสาวะบอกโรคที่กำลังมาเยือน
สีของปัสสาวะไม่ใช่เพียงอย่างเดียวที่ใช้ในการวินิจฉัยสุขภาพของระบบทางเดินปัสสาวะ แต่อาจเป็นส่วนหนึ่งของการวินิจฉัยร่วมกับข้อมูลทางคลินิกและการตรวจร่างกายอื่น ๆ ดังนั้น หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับสี่ของปัสสาวะ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสม เรามาดูกันว่าเป็นยังไง
ปัสสาวะเราบอกอะไรได้บ้างเมื่อแพทย์เอาไปตรวจ
-
การตรวจสีและลักษณะ: สี่ของปัสสาวะช่วยในการวินิจฉัยสีของปัสสาวะว่ามีความเข้มหรือจางอย่างไร และมีความหุ้มหรือไม่ นอกจากนี้ยังสำรวจลักษณะเช่น ใสหรือขุ่น เป็นต้น -
การตรวจสภาพทางเคมี: สี่ของปัสสาวะสามารถตรวจวัดสารเคมีต่าง ๆ ที่ปรากฏในปัสสาวะ เช่น โปรตีน น้ำตาล กรดอะมิโน ฯลฯ เมื่อพบค่าที่ผิดปกติ อาจช่วยในการวินิจฉัยโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคไต และอื่น ๆ
-
การตรวจการตกตะกอน: การตรวจสี่ของปัสสาวะช่วยในการวิเคราะห์ตะกอน อาจมีเม็ดเล็ก ๆ ปกปิดหรือไม่ มีเลือดหรือเซลล์เป็นตัวแทนของการตกตะกอนที่เสียหาย
-
การตรวจจับเชื้อ: สี่ของปัสสาวะอาจใช้สำหรับตรวจจับการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ อาจจับเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้ออื่น ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
-
การตรวจสองชั้น: การวิเคราะห์สี่ของปัสสาวะอาจช่วยในการตรวจสองชั้น (dipstick testing) เพื่อตรวจวัดค่า pH, โปรตีน, น้ำตาล, เลือด, นิ่ว, และสารอื่น ๆ ในปัสสาวะ
แล้วสีของปัสสาว่าสีแบบไหนบ้างที่ปกติหรือไม่ปกติ
สีของปัสสาวะสามารถแสดงความสมบูรณ์ของระบบทางเดินปัสสาวะและสภาพร่างกายได้หลากหลาย ต่อไปนี้คือการอธิบายสีของปัสสาวะที่อาจพบเจอและความหมายที่เกี่ยวข้อง:
-
สีเหลืองอ่อนถึงสีเหลืองปกติ: สีเหลืองสดใช้เป็นสีปัสสาวะปกติที่มักจะเกิดจากสารที่เรียกว่า "ยูโรครมิกแอซิด" (urochrome) ที่เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของโปรตีนในร่างกาย.
-
สีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลอ่อน: สีน้ำตาลหรือน้ำตาลอ่อนอาจเกิดจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น โมเลกุลแอลกอฮอล์ แต่สีน้ำตาลอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน หรือสภาวะที่เรียกว่า "ไกล้ปัสสาวะเบริ่ง" (dehydration).
-
สีชมพู: สีชมพูส่วนมากเกิดจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น บีทีแคโรทีน (หรือสีชมพูในน้ำผึ้ง) แต่ยังอาจเกิดจากสภาวะเสี่ยงทางสุขภาพ เช่น การใช้ยา certain medications, การติดเชื้อ หรือปัญหาของไต.
-
สีขาวหรือเหลืองอ่อนกว่าปกติ: สีขาวหรือเหลืองอ่อนกว่าปกติอาจเกิดจากความสะสมของเซลล์โพรตีนในปัสสาวะ ที่เรียกว่า "ไซติล์" (casts) หรืออาจเกิดจากปัญหาในระบบปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อหรือการตีบตัน.
-
สีแดง: สีแดงในปัสสาวะอาจมาจากเลือดที่เกิดขึ้นในทางเดินปัสสาวะ อาจเกิดจากปัญหาร้ายแรง เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเกิดจากปัญหาในไต แต่สีแดงในปัสสาวะยังสามารถเกิดจากสิ่งอื่น ๆ อีกด้วย เช่น การบริโภคอาหารที่มีสีเข้ม เช่น โคเลสโตรลและบีทีแคโรทีน
จากที่กล่าวมาบ้าต้นสี่ต่างถ้าเป็นบ่อยไม่หาย คุณควรพบแพทย์ใกล้บ้านท่านเพื่อเช็คความผิดปกติร่างกายก่อนมีปัญหาร้ายแรง ขอบคุณที่คนที่เข้ามาอ่านบทความ จะพยามหาสาระมาฝากทุกคนนะครับ