ผลไม้แปลกทึ่ใครหลายคนอาจไม่เคยเห็น
น้อยหน่าแปลก ๆ ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกับน้อยหน่า 2 สายพันธ์
1. น้อยหน้าส้ม
น้อยหน่าส้ม (Annona squamosa) เป็นผลไม้ตระกูล Annonaceae มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ต้นน้อยหน่าส้มเป็นไม้ยืนต้นที่สูงประมาณ 10-15 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม รูปไข่ ดอกมีขนาดเล็ก สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ผลมีรูปไข่หรือรูปหัวใจ เปลือกสีเหลือง เนื้อสีขาว รสหวาน น้อยหน่าส้มมีวิตามินซีสูง นิยมรับประทานสด นำไปทำแยม เยลลี่ น้ำผลไม้ และแยม น้อยหน่าส้มยังนิยมนำไปทำเป็นส่วนผสมในขนมหวานต่างๆ เช่น เค้ก พาย และไอศกรีม
น้อยหน่าส้มมีลักษณะคล้ายกับผลไม้หลายชนิด เช่น
- น้อยหน่า
- มะละกอ
- กีวี
- ขนุน
- สาเก
- มะม่วงหิมพานต์
น้อยหน่าส้มมีรูปร่างคล้ายกับน้อยหน่า แต่มีขนาดเล็กกว่า เนื้อของน้อยหน่าส้มมีสีขาว รสหวานอมเปรี้ยว คล้ายกับมะละกอ แต่เนื้อของน้อยหน่าส้มจะนุ่มกว่า น้อยหน่าส้มยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับกีวี
ประโยชน์ของน้อยหน่าส้ม
- น้อยหน่าส้มมีวิตามินซีสูง วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ
- น้อยหน่าส้มมีวิตามินเอสูง วิตามินเอเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุขภาพดวงตา ช่วยให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้นและป้องกันการเกิดโรคตาเสื่อมตามวัย
- น้อยหน่าส้มมีโพแทสเซียมสูง โพแทสเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการทำงานของหัวใจและระบบประสาท
- น้อยหน่าส้มมีไฟเบอร์สูง ไฟเบอร์ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูก
- น้อยหน่าส้มมีสารต้านมะเร็ง น้อยหน่าส้มมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายจากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอนุมูลอิสระเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
วิธีรับประทานน้อยหน่าส้ม
น้อยหน่าส้มสามารถรับประทานสดได้ น้อยหน่าส้มยังสามารถนำไปทำแยม เยลลี่ น้ำผลไม้ และแยม น้อยหน่าส้มยังนิยมนำไปทำเป็นส่วนผสมในขนมหวานต่างๆ เช่น เค้ก พาย และไอศกรีม และอีกอย่างคือสามารถทานได้ทั้งเปลือก
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่แพ้ผลไม้ตระกูล Annonaceae เช่น น้อยหน่า ขนุน สาเก มะม่วงหิมพานต์ ไม่ควรรับประทานน้อยหน่าส้ม
- น้อยหน่าส้มมีน้ำตาลสูง ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรรับประทานน้อยหน่าส้มในปริมาณที่พอเหมาะ
2. น้อยหน่าทุเรียน
ชื่อวิทยาศาสตร์: Annona squamosa L.
ชื่อสามัญ: Custard Apple, Sugar Apple, Sweetsop, Soursop
ชื่อท้องถิ่น: น้อยหน่า
ถิ่นกำเนิด: อเมริกาใต้
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
- ต้นน้อยหน่าทุเรียนเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-10 เมตร
- ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่หรือรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ ใบมีสีเขียวเข้ม
- ดอกมีขนาดเล็ก สีขาวหรือเหลืองอ่อน ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง
- ผลมีรูปไข่หรือรูปหัวใจ เปลือกมีสีเขียวอมเหลืองหรือสีเหลืองทอง เปลือกมีหนามอ่อนๆ ผลมีเนื้อสีขาว ฉ่ำน้ำ รสหวานอมเปรี้ยว
น้อยหน่าทุเรียนมีลักษณะคล้ายกับผลไม้หลายชนิด เช่น
- น้อยหน่าทั่วไป
- ทุเรียน
- สาเก
- ขนุน
- มะม่วงหิมพานต์
น้อยหน่าทุเรียนมีรูปร่างคล้ายกับน้อยหน่าทั่วไป แต่มีขนาดเล็กกว่า เปลือกมีสีเขียวอมเหลืองหรือสีเหลืองทอง เปลือกมีหนามอ่อนๆ ผลมีเนื้อสีขาว ฉ่ำน้ำ รสหวานอมเปรี้ยว คล้ายกับทุเรียน สาเก ขนุน มะม่วงหิมพานต์
ประโยชน์ของน้อยหน่าทุเรียน:
- น้อยหน่าทุเรียนมีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัดและไข้หวัดใหญ่
- น้อยหน่าทุเรียนมีวิตามินเอสูง บำรุงสายตา ป้องกันโรคตาเสื่อมตามวัย
- น้อยหน่าทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ควบคุมความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ
- น้อยหน่าทุเรียนมีไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
- น้อยหน่าทุเรียนมีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง
วิธีรับประทานน้อยหน่าทุเรียน:
- น้อยหน่าทุเรียนสามารถรับประทานสดได้ รสชาติหวานอมเปรี้ยว
- น้อยหน่าทุเรียนยังสามารถนำไปทำแยม เยลลี่ น้ำผลไม้ และไอศกรีมได้
- น้อยหน่าทุเรียนยังนิยมนำไปทำเป็นส่วนผสมในขนมหวานต่างๆ เช่น เค้ก พาย และไอศกรีม
ข้อควรระวัง:
- ผู้ที่แพ้ผลไม้ตระกูล Annonaceae เช่น น้อยหน่า ขนุน สาเก มะม่วงหิมพานต์ ไม่ควรรับประทานน้อยหน่าทุเรียน
- น้อยหน่าทุเรียนมีน้ำตาลสูง ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรรับประทานน้อยหน่าทุเรียนในปริมาณที่พอเหมาะ
อ้างอิงจาก: หนังสือ "สมุนไพรไทย 100 ชนิด" โดย ดร.ปฐม โพธิ์ศรีพิทักษ์
เว็บไซต์ "วิกิพีเดีย" หัวข้อ "น้อยหน่า"
เว็บไซต์ "หมอชาวบ้าน" หัวข้อ "สรรพคุณน้อยหน่า"
เว็บไซต์ "พรรณไม้ไทย" หัวข้อ "น้อยหน่า"