สาเหตุของปัญหาตาไม่เท่ากัน คืออะไร? แก้ไขอย่างไรดีถึงได้ผล
ตาไม่เท่ากัน เป็นปัญหาที่สร้างความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันของใครหลายคน นั่นก็เพราะดวงตาเป็นด่านแรกของ first impression อีกทั้งยังเป็นอุปสรรคในการแต่งหน้า หรือเลือกมุมถ่ายภาพให้ออกมาสวยได้ยากขึ้น บทความวันนี้ จะมาไขข้อสงสัยว่า ตาไม่เท่ากัน เกิดจากอะไรกันแน่ วิธีแก้มีกี่แบบ และปัญหาที่แต่ละคนเป็นอยู่ เหมาะกับการแก้ไขแบบไหน ถึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด
สาเหตุที่ทำให้ตาไม่เท่ากัน
ปัญหาของตาไม่เท่ากัน โดยพื้นฐานแล้วสามารถเกิดได้จากกรรมพันธุ์ หรือเป็นมาตั้งแต่กำเนิด แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย ที่กระตุ้นให้บริเวณผิวหนังตาทั้งสองข้างไม่เท่ากันได้ดังนี้
อายุที่มากขึ้น
เมื่อมีอายุมากขึ้น หรือในผู้ที่อายุ 35 ปีเป็นต้นไป ผิวหนังจะเริ่มสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง จึงทำให้ผิวที่เคยเต่งตึงกลับกลายเป็นห้อยและหย่อนคล้อยลง เช่นเดียวกับผิวบริเวณเปลือกตา ที่เคยชั้นตาสองชั้น ก็ค่อยๆ ตกลงมา เกิดเป็นปัญหาตาไม่เท่ากัน
เคยศัลยกรรมตาสองชั้นมาก่อน
การทำศัลยกรรมตาสองชั้น ไม่ได้หมายความว่าผลลัพธ์จะอยู่ได้ถาวร ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป ผิวหนังหย่อนคล้อย ก็อาจจะทำให้เกิดชั้นตาเส้นใหม่เพิ่มขึ้นมา หรือที่เรียกว่าริ้วรอยเหี่ยวย่นนั่นเอง จนทำให้มีลักษณะชั้นตาเพิ่มเป็น 3 ชั้น หรือมากกว่านั้น ทำให้เกิดปัญหาตาไม่เท่ากันได้นั่นเอง
โรคทางดวงตา
ปัญหาที่ทำให้ตาไม่เท่ากัน สามารถเกิดได้จากสุขภาพกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เปลี่ยนตำแหน่งยึดเกาะ จึงทำให้ไม่มีแรงยกเปลือกตา ซึ่งสามารถเป็นแค่ข้างใดข้างหนึ่ง จนทำให้ลักษณะตาข้างนั้นเล็กกว่าปกติ
อุบัติเหตุร้ายแรง
หากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาท หรือสารสื่อประสาทบริเวณเปลือกตา ก็จะทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ไม่มีแรงยกเปลือกตาขึ้น ลืมตาได้ยากกว่าเดิม เป็นผลให้ตาไม่เท่ากัน
ระดับคิ้วไม่เท่ากัน
หากตำแหน่งคิ้วทั้งซ้ายและขวา สูง-ต่ำไม่เท่ากัน จนทำให้ดูเหมือนตาไม่เท่ากัน เกิดได้จากกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากมีแรงดึงน้อยลง หรือเสื่อมสภาพลงตามอายุที่มากขึ้น
ลักษณะของตาไม่เท่ากัน เป็นอย่างไร
- เปลือกตาไม่เท่ากัน
ลักษณะเนื้อเปลือกตามีปริมาณมาก-น้อยไม่เท่ากัน หรืออาจจะหนา หรือบางไม่เท่ากัน - ชั้นตาสูง
ปกติแล้วชั้นตาของคนเอเชีย จะไม่สูงมาก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เป็นได้แค่ข้างใดข้างหนึ่งที่ทำให้ดูโดยรวมแล้วทำให้ตาไม่เท่ากัน - มีชั้นตาเยอะ หรือตาสามชั้น
ปกติรอยพับ 1 พับ จะสร้างชั้นตาได้ 2 ชั้น ซึ่งเป็นชั้นตาที่ได้มาตรฐานความสวย และให้มิติกับใบหน้า แต่หากมีรอยพับของเปลือกตามากกว่า 1 รอยพับ ก็จะเกิดเป็นชั้นตา 3 ชั้น ซึ่งจะทำให้ตาไม่เท่ากัน และยังทำให้ดูแก่กว่าวัยด้วย - คิ้วไม่เท่ากัน
ระดับคิ้วที่ไม่เท่ากันทั้งสองข้าง มีผลทำให้รูปตาทั้งสองข้างไม่เท่ากันได้ โดยเฉพาะให้ผู้ที่มีคิ้วข้างใดข้างหนึ่งตกลงมามากกว่าปกติ
หนังตาตก
เป็นลักษณะของผิวหนังบริเวณเปลือกตา เหี่ยวย่น และตกลงมาจนทำให้ตาข้างใดข้างหนึ่งเล็กกว่าอีกข้าง - เบ้าตาลึกมากกว่าปกติ
ตาไม่เท่ากัน สามารถเกิดขึ้นจากกระดูกเบ้าตาที่ข้างหนึ่งลึกกว่าปกติ
วิธีรักษาปัญหาตาไม่เท่ากัน
ปัจจุบันเทคโนโลยีการแพทย์ที่ช่วยปรับแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน มีหลายเทคนิค โดยแบ่งได้ 2 เทคนิคใหญ่ๆ คือ แบบไม่ต้องผ่าตัด และแบบผ่าตัด
วิธีแก้ตาไม่เท่ากัน โดยไม่ต้องผ่าตัด
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
เป็นวิธีแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ลงไปปรับชั้นผิวเปลือกตา ที่อาจมีปัญหาหนังตาตก เหี่ยวย่น ทำให้ตาข้างใดข้างหนึ่งดูเล็ก และหางตาดูสั้น
ฉีดโบท็อก (Botox)
เป็นการฉีดสารฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน เข้าไปที่บริเวณกล้ามเนื้อหน้าผากมีการหดตัว เพื่อแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน อันเกิดจากปัญหาไม่มีแรงยกคิ้วว้ายขวาไม่เท่ากัน
ร้อยไหมยกหางตา (Foxy Eye)
เป็นการแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน อันเกิดจากหางตาตก ซึ่งแก้ได้ด้วยการเส้นไหมละลายเป็นไหมเงี่ยง (barb) สอดลงในชั้นผิวหนังบริเวณหางตาที่ตกและดึงขึ้น จะเป็นวิธียกกระชับหางตา ทำให้ดวงตากลับมาเท่ากัน แบบเห็นผลทันทีหลังทำเสร็จ
ยกกระชับยกหางตา ด้วยนวัตกรรม Hifu Ultra และ Thermage
เป็นการส่งพลังงานความร้อนลงไปกระตุ้นเซลล์ผิวบริเวณดวงตาให้หดตัว ช่วยปรับชั้นผิวตาที่หย่อนคล้อยมากกว่าปกติให้กลับมาเรียบเนียน ซึ่งใช้ได้ผลดีในผู้ที่มีตาไม่เท่ากัน อันเกิดจากผิวหนังเหี่ยวย่น
ข้อดี-ข้อเสีย ของการแก้ตาไม่เท่ากัน โดยไม่ผ่าตัด
ข้อดี
- ไม่เจ็บตัว โดยเฉพาะคนที่กลัวการผ่าตัด
- เห็นผลไว เพราะเริ่มเห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ
- ค่าบริการไม่สูง เมื่อเทียบกับวิธีผ่าตัด
- ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ทันที
- ไม่เสี่ยงเกิดรอยแผลเป็น ที่เป็นผลจากการทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ
- ไม่เสี่ยงเจอปัญหาตาเบิกกว้าง หลับตาไม่สนิท อันเกิดจากวิธีผ่าตัด เช่น แพทย์ตัดหนังเปลือกตา หรือปรับกล้ามเนื้อตามากเกินไป
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร หากต้องการให้ผลลัพธ์ต่อเนื่องจะต้องกลับไปทำเรื่อยๆ
- เสี่ยงผิวหนังแพ้ หรืออักเสบติดเชื้อ หากแพทย์เลือกใช้สารเติมเต็มของปลอม ไม่ได้มาตรฐาน
- เสี่ยงตาบอด หากแพทย์ไม่เชี่ยวชาญในการฉีดสารเติมเต็มลงบริเวณผิวเปลือกตา
วิธีแก้ตาไม่เท่ากัน ด้วยการผ่าตัด
ผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา
เป็นการผ่าตัดเปิดหนังตาและปรับกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรง ให้แข็งแรงขึ้น เพื่อให้มีแรงยกเปลือกตาได้มากขึ้น จนเห็นเนื้อตาดำในระดับที่เหมาะสม เท่ากันทั้งสองข้าง
เติมไขมันเปลือกตา
เป็นการปรับไขมันใต้เปลือกตา ด้วยการนำเนื้อเยื่อไขมันบริเวณหน้าท้อง หรือส่วนอื่นที่มีไขมันส่วนเกินเยอะมาจัดเรียงใหม่บริเวณใต้เปลือกตา เพื่อแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ชั้นตาสูง อันเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตาไม่เท่ากัน
เย็บหนังตาตกเก็บใต้ท้องคิ้ว (Subbrow lift)
เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมแก้ปัญหาหนังตาตก ตาดูเล็ก รูปตาดูสั้นเพื่อให้เห็นชั้นตาที่ชัดขึ้น เรียวยาวเป็นธรรมชาติขึ้น ซึ่งสามารถทำให้ดวงตาทั้งสองข้างเท่ากัน และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับสัดส่วนของใบหน้า
ผ่าตัดเอนโดไทน์ ยกกระชับหน้าผาก
เป็นการผ่าตัดดึงผิวหนังที่เหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าส่วนบน ด้วยการ Endotine Forehead เปิดปากแผลเล็กๆ ประมาณ 2 เซนติเมตร และสอดกล้องเอนโดสโคปลงไป และใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อความแม่นยำสูง หลังจากนั้นจะดึงและยกกระชับผิวหนังด้วยวัสดุ Endotine จนได้ผลลัพธ์ตามที่ออกแบบไว้ แล้วจึงเย็บปิดปากแผลซ่อนเก็บไว้บริเวณไรผม
ข้อดี-ข้อเสีย ของการแก้ตาไม่เท่ากัน ด้วยการผ่าตัด
ข้อดี
- ให้ผลลัพธ์นานกว่าการแก้ไขแบบไม่ผ่าตัด
- ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าแบบไม่ผ่าตัด โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาระดับรุนแรง
- ไม่เสียเวลากลับไปพบแพทย์ ในการฉีด/ เติม/แต่ง เพื่อให้ผลลัพธ์ต่อเนื่อง
- แก้ปัญหาสุขภาพดวงตาที่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจนไม่สามารถยกเปลือกตาขึ้นสูงได้
- แก้ปัญหาได้เป็นวงกว้าง และมากกว่า 1 ปัญหา เช่นการผ่าตัดเอนโดไทน์ ยกกระชับหน้าผาก ที่นอกจากจะแก้ปัญหาหนังตาตก ตาไม่เท่ากัน ยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยที่หน้าผากได้ดีอีกด้วย
ข้อเสีย
- ฟื้นตัวนาน ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
- เสี่ยงแผลอักเสบ ติดเชื้อ จากอุปกรณ์ผ่าตัดไม่สะอาด หรือดูแลแผลผ่าตัดไม่ถูกวิธี
- เสี่ยงเกิดแผลคีลอยด์ ให้ผู้ที่มีประวัติเป็นได้ง่าย
- เสี่ยงตาเบิกกว้างมากเกินไป หากทำโดยศัลยแพทย์ไม่เชี่ยวชาญ
- หากตัดแต่งผิดพลาด จะแก้ไขไม่ได้
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับปัญหาตาไม่เท่ากัน
Q : หากปล่อยให้ตาไม่เท่ากัน นานวันเข้าจะเกิดอะไรขึ้น?
A : เมื่อเกิดปัญหาหนังตาตกจนทำให้ชั้นตาหายไป กล้ามเนื้อตาเสื่อมสภาพจนไม่มีแรงยกเปลือกตา ทำให้ตาดูเล็กลง ตาสองข้างไม่เท่ากัน แล้วไม่รีบแก้ไข จะยิ่งทำให้เกิดริ้วรอยถาวร และเกิดอันตรายจากปัญหามองเห็นได้ไม่เต็มที่ เพราะถูกเปลือกตาบดบังลูกตาดำ
Q : โดยปกติแล้ว ตาทุกคนเท่ากันไหม?
A : โดยธรรมชาติแล้ว เปลือกตาทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ของคนเราไม่เท่ากัน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะขึ้นอยู่กับสัดส่วนอื่นบนใบหน้าด้วย เช่น คิ้ว โหนกแก้ม ซึ่งมีทั้งมองเห็นไม่ชัด และมองเห็นได้ชัดมทันทีว่า ตาไม่เท่ากัน
Q : ทำไมตื่นมาตาไม่เท่ากัน?
A : ปัจจัยที่ทำให้อยู่ๆ ก็พบว่าตาไม่เท่ากัน โดยเฉพาะหลังตื่นนอน นั่นเกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวหนัง การสร้างคอลลเจนที่น้อยลง ที่พบได้ในผู้ที่อายุมากขึ้น หรือมีพฤติกรรมชอบขยี้ตา ทำงานหรือกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆ จนผิวรอบดวงตาเหี่ยวย่น
Q : คนเรามีเปลือกตากี่ชั้น?
A : ปกติแล้วเปลือกตาของคนเราจะมีทั้งเปลือกตาบน และเปลือกตาล่าง ซึ่งเปลือกตาบนจะมีชั้นเดียว หรือ 2 ชั้นก็ได้ แต่ค่านิยมความสวยมักจะเป็นตา 2 ชั้น เพราะทำให้เห็นตากลมโต เห็นชั้นตาชัด ดูแบ๊วอ่อนหวาน ถึงอย่างนั้นไม่ว่าจะมีชั้นตากี่ชั้น เปลือกตาบนทั้ง 2 ข้าง ควรอยู่ในระดับที่เท่ากัน
Q : ทำยังไงให้ตาสวย?
A : เพื่อถนอมผิวเปลือกตา ไม่ให้เกิดริ้วรอย หรือเกิดรอยพับตกหย่อนมากกว่าปกติจนเป็นปัญหา ตาไม่เท่ากัน สามารถป้องกันได้ เช่น ดื่มน้ำเยอะๆ สวมใส่แว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกกลางแจ้ง ไม่ขยี้ตา ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ตอนนอน และเลือกใช้อายครีมบำรุงรอบดวงตาอยู่ตลอด
สรุป
สาเหตุที่ทำให้ตาไม่เท่ากัน เกิดได้หลายปัจจัย คือ กรรมพันธุ์,พันธุกรรม อายุที่มากขึ้น พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน โรคเสื่อมสภาพของผิวตา-กล้ามเนื้อตา และอุบัติเหตุรุนแรง ส่วนวิธีรักษามีทั้งแบบใช้หัตถการแบบไม่ต้องผ่าตัด และวิธีผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งผิวตา หากใครที่กำลังเผชิญปัญหาตาไม่เท่ากัน ควรเข้าพบศัลยแพทย์ หรือจักษุแพทย์ เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงเสียก่อน เพื่อเลือกวิธีแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด
ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.suiplasticsurgery.com/content/eye-surgery/uneven-eyes/