เมืองที่ร้อน...ที่สุดในโลก
อันดับ 1 ได้แก่ “จีน” ในแต่ละปีมีชาวจีนเสียชีวิต 1.5 ล้านคน โดยเป็นการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการปล่อยคาร์บอน และยังมีอีกราว 100 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้
อันดับ 2 “อินเดีย” ในปี 2553 ต้นทุนภาวะโลกร้อนของอินเดียอยู่ที่ 1.28 แสนล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนความสูญเสีย 3.2% ของจีดีพีของประเทศ แต่ในอีก 18 ปีข้างหน้า เฉพาะสภาพอากาศแปรปรวนอย่างเดียวจะคิดเป็นต้นทุนปีละราว 6.80 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนต้นทุนจากการปล่อยมลภาวะจะอยู่ที่ 1.29 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี
อันดับ 3 “ไนจีเรีย” ซึ่งมีประชากรกว่า 158 ล้านคน ในปี 2553 สังเวยชีวิตผู้คนจากเหตุผลเหล่านี้ปีละประมาณ 200,000 คน และมีแนวโน้มจะสูญเสียชีวิตในจำนวนใกล้เคียงกันนี้ในอีก 18 ปีข้างหน้า
อันดับ 4 “ปากีสถาน” เมื่อ 2 ปีก่อน ปากีสถานสูญเสียชีวิตผู้คน 150,000 คน จากภาวะโลกร้อน และส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนอีกราว 20 ล้านคน แต่พอถึงในปี 2573 จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 250,000 คน โดยสาเหตุหลักๆ มาจากมลภาวะทางอากาศ น้ำท่วม ดินถล่ม รวมถึงภาวะทุพภิกขภัยที่ทำให้ผู้คนอดตายมากถึง 10,000 คนในปี 2553 และจะเพิ่มเป็น 25,000 คน ที่จะตายเพราะความหิวโหยในปี 2573
อันดับ 5 “อินโดนีเซีย” ในปี 2553 มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากภาวะโลกร้อน 150,000 คน และกระทบชีวิตผู้คนอีก 30 ล้านคน แต่เมื่อถึงปี 2573 คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มเป็น 200,000 ราย
อันดับ 6 “คองโก” หรือชื่อเต็ม สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ในปี 2553 ประชาชนในดินแดนแห่งนี้สังเวยชีวิตให้ภาวะโลกร้อน 100,000 คน แบ่งเป็น 17,000 คน ที่เสียชีวิตจากสาเหตุการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอีก 84,000 คน ลาโลกเพราะมลภาวะ ขณะที่ราว 15 ล้านคนอันดับ 7 “บังกลาเทศ” การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลภาวะ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในประเทศนี้ 100,000 คน ในปี 2553 และอีก 55 ล้านคน ได้รับผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาก
อันดับ 8 “เอธิโอเปีย” เมื่อ 2 ปีก่อน จำนวนผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศและมลภาวะอยู่ที่ 100,000 คน และกระทบชีวิตของผู้คนประมาณ 10 ล้านราย
อันดับ 9 “รัสเซีย” ในปี 2553 ชาวรัสเซียที่สังเวยชีวิตให้กับภาวะโลกร้อนอยู่ที่ 100,000 คน ซึ่ง 98,000 คน ตายจากสาเหตุของมลภาวะจากคาร์บอน ส่วนอีก 8 ล้านคน ได้รับผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
อันดับ 10 “อัฟกานิสถาน” การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลภาวะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ชาวอัฟกันเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยในปี 2553 มีประชาชนสังเวยชีวิตไปราว 90,000 คน และมีอีก 10 ล้านคน