เรื่องเล่าหลอน : ป่าอ้อย

เรื่องเป็นเรื่องเล่าจากเพื่อนของผมคนหนึ่งนะครับ เนื่องจากว่าเหตุการณ์นี้ผมไม่ได้ไปด้วย เป็นเรื่องการไปลองของของกลุ่มผมอีกแล้ว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่อำเภอชนบทแห่งหนึ่ง ของจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเหตุการณ์นี้ได้มีเพื่อนกลุ่มหนึ่งเข้ามาเล่าให้ฟังว่า แถว ๆ บ้านของมันปลูกอ้อยกันเยอะมาก ชาวบ้านแถวนั้นปลูกอ้อยกันเป็นอาชีพหลัก มันก็เลยมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นคือตอนกลางคืนเวลาชาวบ้านขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมากได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังทำบางอย่างในป่าอ้อย บางครั้งได้ยินเสียงคนร้องไห้ดังออกมา ทั้งที่มืดมาก เคยมีคนตะโกนเข้าไปถามว่ามีใครอยู่ในนั้นมั้ยก็ไม่มีใครตอบกลับ แต่ซักพักจะมีเสียงหมาหอนขึ้น จึงเป็นที่โจษจันกันมากว่ากลางคืนห้ามไป คราวนี้กลุ่มพื้นของผมพอได้ยินก็นัดรวมตัวหาวันว่างกันไป ซึ่งตอนนั้นผมติดธุระต่างจังหวัดจึงไม่ได้ไปด้วย ในรอบนี้เพื่อน ๆ ของผมไปกันหลายสิบคน โดยเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ไปกันหลายคัน ขณะนั้นเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า ก็ไปถึงจุดหมาย ป่าอ้อยที่เดินทางไปถึงต้นอ้อยมีความสูงค่อนข้างมาก มีช่องทางเล็ก ๆ ให้เดินเข้าไปได้ พวกเพื่อน ๆ ของผมเดินเข้าไปในป่าอ้อย 3-4 คน ส่วนคนที่เหลือกำลังนั่งคุยกันบริเวณถนนข้างทาง เพื่อจะไปเที่ยวกันต่อ ขณะนั้นเองคนที่รอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของกลุ่มเพื่อนที่เข้าไปวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อนกลุ่มที่เข้าไปวิ่งหน้าตาตื่นออกมาไม่พูดจาใดๆ แต่ใบหน้าซีดเผือด เพื่อนกลุ่มที่รอเห็นใบหน้าก็ไม่พูดอะไรขึ้นคร่อมรถแล้วสตาร์ทรถรอเพื่อนที่วิ่งออกมา ทีนี้ในกลุ่มคนที่รออยู่มีเพื่อนผู้หญิงหนึ่งคนมีรูปร่างอ้วนมาก ตัวใหญ่ หนักประมาณ 120-130 กิโลกรัม คร่อมมอเตอร์ไซค์รออยู่ก็ตกใจหันตัวเตรียมจะสตาร์ทรถแล้วให้เพื่อนที่วิ่งออกมาขึ้นซ้อน ทันใดนั้นอยู่ดี ๆ รถมอเตอร์ไซค์ที่มีผู้หญิงน้ำหนักเกือบ 130 กิโลกรัมนั่งอยู่ล้อหน้ารถก็ยกขึ้นสูงเกือบตั้งฉากทั้งที่รถยนต์ยังไม่ได้สตาร์ท ทำให้เพื่อนผู้หญิงร่างอ้วนและเพื่อนที่ซ้อนรถตกจากรถหลังกระแทกพื้นทั้งคู่ รถมอเตอร์ไซค์คว่ำจนกระจกข้างแตก เพื่อนคนที่เหลือตกใจจึงวิ่งเข้าไปพยุงเพื่อนผู้หญิงทั้งสองและดึงรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นมา เพื่อนผู้หญิงร่างอ้วน จึงขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์อีกครั้งแล้วสตาร์ทเครื่อง แต่คราวนี้มอเตอร์ไซค์สตาร์ทไม่ติด มันพยายามจะสตาร์ทอยู่ 6-7 ครั้งก็ไม่ติด จู่ ๆ หมาก็หอนเสียงดังลั่น เพื่อน ๆ ทุกคนหน้าซีดเผือด ทันใดนั้นเพื่อนผู้หญิงอ้วนจึงพนมมือขึ้นยกมือท่วมหัวพูดพึมพำบางอย่างก่อนที่จะสตาร์ทรถอีกครั้ง คราวนี้รถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทติดในครั้งเดียว พอได้สติก็พากันขี่รถออกไปด้วยความเร็วสุดขีด แต่ก็มีเพื่อนที่รถอีกคันหนึ่งขณะวิ่งออกไปอยู่ดี ๆ รถก็เสียหลักล้มบนถนน เพื่อน ๆ ที่เหลือตกใจหันไปมอง คนที่รถล้มหน้าตื่นตระหนก รีบลุกพร้อมดันรถขึ้นก่อนจะรีบขี่รถออกไปทันที ขณะที่ขี่รถออกไปก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ออกมาจากป่าอ้อย... พวกคุณว่ามันแปลกมั้ยครับ...ที่คนน้ำหนักเกือบ 130 กิโลกรัมขี่มอเตอร์ไซค์แถมมีคนซ้อนท้ายด้วย น้ำหนักรวมกันเกือบ 200 กิโลกรัม แต่ล้อรถดันยกขึ้นเองได้เกือบตั้งฉากทั้งที่รถยังไม่ได้สตาร์ท...