ผีสปริ๊นต์ตามกลับบ้าน
เรื่องเล่านี้มาจากประสบการณ์ตรงของคนรู้จัก ผ่านมา 20-22 ปีแล้ว เชิญอ่านได้เลย...
ย้อนกลับไปประมาณปี 2545 สมัยที่ผมยังเรียนอยู่ระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนมีชื่อในจังหวัดแห่งหนึ่งของภาคเหนือ ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตัวผมเป็นนักเรียนคนหนึ่งที่เรียนระดับปานกลาง แต่ชื่นชอบการเล่นดนตรีแนวสตริง จึงตั้งวงดนตรีร่วมกับเพื่อนอีก 5 คน ตั้งแต่ประมาณมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเล่นดนตรีงานประจำโรงเรียนอยู่บ่อย ๆ โดยปกติผมและเพื่อนๆจะซ้อมดนตรีเป็นประจำหลังเลิกเรียน โดยจะซ้อมในร้านที่เปิดให้เช่าห้องซ้อมดนตรีในตัวเมือง โดยจะซ้อมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งๆละประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็จะซ้อมเสร็จประมาณ 4-5 ทุ่มแล้วก็จะแยกย้ายกันขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันหนึ่งหลังจากซ้อมดนตรีเสร็จตอนประมาณ 5 ทุ่ม ผมและเพื่อน ๆ พูดคุยกันว่าดึกแล้วจะไปนอนค้างบ้านเพื่อนในวงซึ่งเป็นมือกลองของวงอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรห่างจากร้านซ้อมดนตรีไปประมาณ 5 กิโลเมตร
โดยผมและเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์กลับ 3 คัน แต่ละคันนั่งกัน 2 คน พวกเราขี่รถเรียงกันเป็นแถว แล้วก็ร้องเพลง หยอกร้องกันตามประสาเพื่อน เมื่อผ่านมาใกล้ถึงโรงเรียน พวกเราได้ขี่รถผ่านซอยด้านข้างโรงเรียนที่พวกเราเรียนอยู่ ซึ่งเป็นซอยที่เปลี่ยวและมืดมาก โดยระหว่างทางขากลับ พวกเราจะขี่รถขนาบกำแพงรั้วโรงเรียน ซึ่งจะมีตึกเรียนเก่าแก่ดูน่ากลัว รถมอเตอร์ไซค์ที่เพื่อนของผมสองคนซึ่งเป็นมือกีต้าร์ทั้งคู่ ขี่นำผมอยู่ด้านหน้า อยู่ ๆ ก็เร่งความเร็วรถ เสียงดังแป๊นนนน ออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
พวกผมก็ตกใจบวกกับความกลัวจึงเร่งเครื่องตามไป แต่ก็ตามไม่ทัน จนพวกผมขี่ไปจนถึงบ้านของเพื่อนที่เป็นมือกลองซึ่งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร พวกผมเดินของไปในบ้านซึ่งเพื่อนผมที่เป็นมือกีต้าร์นั่งหน้าซีดอยู่ในห้องนั่งเล่น พวกผมจึงถามว่า "มึงเป็นไร มึงเจออะไรหรือ" เพื่อนผมหน้าซีดเผือด แล้วจึงเล่าให้ฟังเบา ๆ เหมือนกลัวใครจะได้ยิน ขณะที่พวกผมกำลังขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านตึกเก่าแก่นั้น เพื่อนผมที่เป็นมือกีต้าร์ได้ท้าทายในใจไปที่ตึกว่า "ได้ข่าวว่าเฮี้ยนนักไม่ใช่หรอ ออกมาให้เห็นหน่อยซิ"
พอเพื่อนมันกล่าวในใจจบมันก็หันไปมองที่ตึกเก่าแก่นั้น ปรากฎว่าอยู่ดี ๆ หน้าต่างห้องเรียนที่ปิดอยู่ก็มีบานหนึ่งในห้องชั้น 3 หน้าต่างหายไป ปรากฎร่างของเด็กผู้ชายคนหนึ่งผมทรงนักเรียน ดูคร่าว ๆ น่าจะเรียนประมาณมัธยมต้น มองมาที่เพื่อนผม ก่อนจะกระโดลงมาจากอาคารเก่าลงมาตรงที่ถนนไม่ห่างจากมันมากนักแล้ววิ่งตามมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนผมไป เพื่อนผมตกใจจึงในเพื่อนที่เป็นมือกีต้าร์ที่ขี่รถเร่งความเร็วพุ่งออกไป ระหว่างนั้นเพื่อนผมก็เหลือบมองเป็นระยะ ๆ แต่ เด็กชายคนนั้นก็วิ่งตามมาไม่ยอมหยุด เพื่อนผมเหลือบไปมองที่ขาของเด็กคนนั้นปรากฎว่าเด็กคนนั้นไม่มีขา เขาวิ่งตามรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนผมมาแบบไร้ขาทั้งสองข้าง
เพื่อนผมตกใจกลัวสุดขีดปากก็บอกให้เพื่อนที่ขี่รถเร่งความเร็วจนมาถึงหมู่บ้านที่พวกผมต้องไปนอน โดยด้านหน้าหมู่บ้านมีพระองค์ขนาดเท่าคนจริงตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อนผมขี่รถเข้าหมู่บ้านไป จึงหันกลับมามองดูเด็กชาย ปรากฎว่าเด็กชายคนดังกล่าวหยุดวิ่งบริเวณถนนหน้าองค์พระ มองหน้าที่เพื่อนของผมด้วยสายตาโกรธ วันรุ่งขึ้นพวกผมจึงพาเพื่อนคนนี้โดดเรียนตอนเช้าไปทำบุญเพื่อขอขมาและอุทิศส่วนกุศลให้เด็กชายคนนั้น โดยหลังจากนั้นเพื่อนของผมก็จะขาดเรียนหรือโดดเรียนทุกคาบที่ต้องไปเรียนที่ตึกเก่าหลังนั้นจนหมดเทอม...