คนนี้โกหก
คนเราเวลาที่คิดอะไรรู้สึกอะไรกับคุณเนี่ยบางทีเขาเก็บซ่อนไว้ในใจไม่ได้แสดงออกผ่านคำพูดหรอกครับแต่ยังไงก็ตามเขาจะปิดบังไม่มิดเพราะมันจะแสดงออกผ่านอากาศเดี๋ยวผมจะให้คุณได้ฟังว่าอาการแต่ละแบบมันบอกนิสัยใจคออะไรได้บ้างมีอยู่ 5 อย่าง
1 คนที่ทุ่มเทให้กับแฟนมากเกินความพอดี ปกติแล้วมีคนแบบไหนขีดเส้นใต้คำนี้ครับคำว่าเกินพอดีคนที่ยอมสละตัวเองและทุ่มเทให้กับคู่ของตัวเองอย่างที่สุดและแท้ที่จริงแล้วเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองฟังเหตุผลก่อนนะครับคือภายในจิตใจของคนกลุ่มนี้มักจะซ่อนความคิดว่าตัวเราไม่มีความมั่นใจเลยพยายามผูกยึดติดกับความรู้สึกของอีกฝ่ายไว้ด้วยสาเหตุนี้เองเลยทำให้ติดอยู่ในสภาวะที่ต้องอุทิศตัวเองและก็ปล่อยเขาไปไม่ได้คุณคิดตามนะครับคนที่ทุ่มเทให้กับใครสักคนเกินความพอดีของตัวเองได้ มันหมายความว่าต้องรักมากขาดไม่ได้ โอเคแหละถ้าคนนึงทุ่มเทให้สุดกำลังส่วนอีกฝ่ายชอบที่จะเป็นผู้รับอยู่แล้วอ่ะทั้งคู่ก็มีความสุขได้ก็นับว่าโชคดีนะครับแต่ในความเป็นจริงแล้วอ่ะยิ่งทุ่มเทก็ยิ่งรักมากขึ้นยิ่งทุ่มเทมากเข้าไปอีกจนในที่สุดดัดจะตกอยู่ในสภาพที่ต้องพึ่งพาและไม่สามารถขาดจากอีกฝ่ายได้เลยอันนี้จากความคิดและประสบการณ์ส่วนตัวนครับ
2 รอบตัวของคุณน่ะมีใครที่ชอบส่องกระจกอยู่บ่อยๆบ้างไหม จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่คนที่ชอบหลงตัวเอง มันหมายความว่าเขาเป็นคนที่แคร์สายตาคนอื่นว่าจะมองตัวเองยังไงคนลักษณะนี้จะสนใจภาพลักษณ์อ่อนไหวกับแฟชั่นและคิดเรื่องการแต่งกายเยอะเป็นคนที่แต่งตัวเก่งต้องแต่งตัวให้เข้ากับกาลเทศะ เขาจะไม่ค่อยทำตัวแปลกประหลาดและรู้จักปรับตัวเองเข้ากับสังคมได้ดี แต่ในอีกด้าน หนึ่ง ก็มีหลายคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองแล้วมีปมปัญหาในเรื่องภาพลักษณ์ แม้คนรอบข้างอาจจะมองว่าเขาเป็นคนสวยดูดีดูหล่อแต่เจ้าตัวเนี่ยกลับมองเห็นแต่ข้อด้อยหรือไม่พอใจในตัวเอง เช่นอยากจะให้ตัวเองจมูกโด่งกว่านี้ผิวขาวกว่านี้ ไม่พอใจในตัวเองมากเกินไปจนกระทั่งตัวเองเป็นทุกข์มันก็อยู่ที่คนนะครับว่าจะหนักเบาแค่ไหนอันนี้ก็ไม่ได้เหมารวมว่าจะเป็นเหมือนกันทุกคน
3 ให้ดูรูปส่วนตัว คุณเคยเจอคนที่กล้าเอารูปส่วนตัวของตัวเองเนี่ยมาให้คุณดูป่ะมันอาจจะเป็นภาพถ่ายที่เขาเก็บไว้ในโทรศัพท์ภาพในอดีตของเขาภาพมาภาพแมวที่เขาเลี้ยงไว้เป็นการส่วนตัวการที่เขาเอารูปที่เป็นส่วนตัวมาให้ดูอ่ะมันเป็นเพราะเขามีความรู้สึกดีๆด้วยครับ จะรู้สึกดีเข้มข้นแค่ไหนรู้ว่าเขาคิดแบบเพื่อนหรือคิดเกินกว่าเพื่อนก็ให้ดูระดับของภาพที่มันมีความไพรเวทมากๆไพเวทก็คือเป็นส่วนตัวสูงสูง อันนี้ผมก็เห็นในช่วงที่คบกับเพื่อนแรกเหมือนกันแรกๆเนี่ยเพื่อนไม่ค่อยให้ดูรูปภาพบัตรประชาชนหรอกยกเว้นเจ้าหน้าที่รัฐอ่ะคือถ้าไปสนามบินก็ต้องโชว์บัตรประชาชนอยู่แล้วใช่ป่ะแต่นางก็จะไม่ให้คนที่แบบมารู้จักกันนะได้เห็นเค้าก็อายเป็นภาพแบบสมัยถ่ายเมื่อ 5 ปี 6 7 ปีที่แล้ว เอาง่ายๆคุณพอจะเดาออกไหมครับเวลาที่คุณไปทำบัตรประชาชนอ่ะการที่เราจะได้เจอช่างภาพมืออาชีพได้เนี่ยมันเป็นเรื่องที่ยากมากเลยนะ รูปแบบประชาชนที่ออกมามันก็ดูมีความสมจริงเกินไปไม่แปลกที่สาวๆหลายๆคนอาจจะเคยอายไม่อยากให้เห็นบัตรประชาชนอะไรจริงจังมากแต่ถ้าคุณเริ่มสนิทกันเขาเริ่มเปิดใจให้กับคุณอาแน่นอนว่าเธออาจจะเปิดพื้นที่ให้คุณเห็นภาพส่วนตัวหลายรูปครับไม่ได้หมายถึงรูปในโซเชียลที่เขาลงนะครับไม่ได้หมายถึงรูปในอินสตาแกรมที่เขาลงด้วย ถ้ามันส่วนตัวจริงๆอะเค้าอาจจะส่งให้คุณในแชทหรือว่าในไลน์ให้คุณได้เห็นเป็นการส่วนตัวนั่นก็เป็นสัญญาณบอกได้ว่าคุณเริ่มได้รับความไว้วางใจระดับหนึ่ง
5 คุณเคยเห็นคนที่เป็นนักสะสมไหมครับ ไม่ว่าจะสะสมการ์ดสะสมหุ้นหรือว่าสะสมหนังการ์ตูนวัตถุโบราณต่างๆ ในทางจิตวิทยาบอกไว้ว่าไงครับคนที่มีความชอบสะสมอะไรบางอย่างพวกเขาจะมีความคล้ายกันอยู่อย่าง หนึ่ง ก็คือ เพราะเขามีความอยากได้รับการยอมรับในสังคมแต่ความยากนั้นอ่ะมันไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอเลยต้องหาอะไรมาสะสมเพื่อเป็นการทดแทน ลองฟังเหตุผลที่เขาว่าไว้ก่อนนะครับเขาบอกว่าคนที่ชอบสะสมของเนี่ยเพื่อช่วยเติมเต็มความรู้สึกที่ตัวเองคิดว่าขาดหายไป อาจจะมาจากความสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่ไม่ราบรื่นหรือมีความไม่พอใจในสภาพความเป็นจริงอาจจะเป็นแค่จุดเดียวที่ขาดหายไปแต่เจ้าตัวกลับรู้สึกว่ายังไม่สมบูรณ์หรือรับไม่ได้ นอกจากนี้การได้พูดคุยควรกันไปมาในกลุ่มนักสะสมเนี่ยมันเป็นการเติมเต็มความอยากได้รับการยอมรับในรูปแบบ หนึ่ง เช่นกันครับแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นนักสสสจะมีฐานะทางสังคมด้อยกว่าหรือไม่มีเพื่อนแต่อย่างใด คนที่เรียนสูงชีวิตสบายไม่เดือดร้อนอะไรแต่กลับสะสมพวกคุณแกนดำจำลองหรือว่าหุ้นการ์ตูนต่างๆแฮร์รี่จริงๆแล้วในใจพวกเขาอาจมีภาวะจิตใจที่ยังไม่ถูกเติมเต็มที่คนอื่นอาจจะไม่รู้อยู่อันนี้ไม่ได้ตอบว่านักสะสมได้นะครับผมตอนอ่านข้อมูลนี้ก็รู้สึกว่าเฮ้ยมันก็มีจริงและก็ไม่จริงอยู่บ้าง ลองเอาไปคิดแยกแยะดูนะครับ อ๋ออันนี้สำคัญมากมันจะทำให้คุณอ่านใจคนที่กำลังโกหกคุณได้อย่างง่ายดาย เพราะอย่างนี้ครับเวลาที่ใครสักคนนึงกำลังโกหก อยู่ถ้าคุณไปถามเขาตรงๆเขาจะไม่ตอบคำถามแต่เขาจะย้อนถามกลับเวลาที่ถูกถาม เช่นบอกเธอแอบนอกใจฉันอยู่ใช่มั้ยว่าไงแล้วถ้าเขาตอบกลับประมาณว่าอ่านแล้วเทอนอกใจใช่รึเปล่าอ่าอันนี้เบี่ยงเบนแล้วนะอาจจะแปลได้ว่าถูกจับได้อย่างชัดเจนเพราะไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่กำลังทำอยู่ เวลาคนเราพูดโกหกเนี่ยเค้าจะมีความเครียดเกิดขึ้นในใจครับเลยทำให้แสดงท่าทางบางอย่างหลุดออกไปโดยที่ไม่รู้ตัวโดยเฉพาะเวลาที่ถูกไล่ถามหาความเป็นจริงว่านอกใจใช่มั้ยอะไรเงี้ยคนเราก็มักจะย้อนถามกลับทันควันเลยครับแทนที่จะตอบแบบไม่โกหกหรือตอบแบบปฏิเสธว่าเฮ้ย ไม่นอกใจนะสาบานเลยเนี่ยคนที่พูดความจริงคำพูดเขาจะเต็มปากเต็มคำแล้วมันชัดเจนเสียงเค้าจะออกมาด้วยความมั่นใจว่าไม่ได้ทำและบางทีเค้าพูดออกมาโดยที่ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำไม่ต้องหยุดเพื่อพิจารณาตอบได้เลย นอกจากนี้ยังมีอย่างอื่นอีกก็อาจจะเป็นการทวนคำถามซ้ำเราฮันอกใจเหรอหรืออาจจะไม่ได้ตอบคำถามตรงๆเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นหรือในการโกหก สำหรับบางคนเนี่ยเขาก็จะใช้คำพูดประมาณว่าผมไม่ขอตอบตรงนี้นะครับ มันก็อาจจะแปลได้ว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธมันไงสิ่งที่คุณทำอาจจะเป็นความจริงแต่ส่วนใหญ่แล้วก็มีนะครับที่เซียนแล้วจับไม่ได้เลยโกหกเนียนมากดูไม่ออกมันก็อยู่ที่ว่าเค้าอ่ะตั้งตัวได้เร็วแค่ไหนถ้าถามตอนนี้เขาไม่ได้ตั้งตัวก็มีโอกาสที่เขาจะหลุดพูดออกมาได้ คนโกหก บางทีเขาจะตอบคำถามช้าครับเพราะมัวแต่คิดอยู่หรือในบางคนก็เล่ารายละเอียดมากเกินไปเพื่อให้การแต่งเรื่องมันดูสมจริงลองไปจับสังเกตดูนะครับ มันมีเทคนิคทางจิตวิทยาที่สามารถใช้จับโกหกอีกหลายวิธีมากเลยครับถ้าคนส่วนใหญ่สนใจจริงๆพิมพ์ด้านล่างก็ได้ครับว่าอยากรู้เผื่อว่าจะได้จัดทำเฉพาะเรื่องนี้ขึ้นมา