สีของดิน บ่งบอกอะไรได้บ้าง
1.ดินสีคล้ำ
บ่งบอกได้ว่าดินในพื้นที่นั้นมีความอุดมสมบูรณ์สูง เนื่องจากมีอินทรียวัตถุอยู่เยอะมาก แต่ถ้าเป็นดินที่ลุ่มต่ำหน้าดินมีสีคล้ำและดินชั้นล่างมีสีเทา เนื่องจากสภาพอับอากาศ จะต้องเตรียมการระบายน้ำถ้าต้องการปลูกพืชที่ไม่ทนสภาพน้ำท่วม ในบางท้องที่ดินชั้นล่างอาจมีจุดประ เป็นสีเหลืองฟางของแร่บางชนิด ซึ่งจะสลายตัวทำให้ดินเป็นกรด ตั้งแต่กรดปานกลางถึงกรดจัด การใช้ประโยชน์ที่ดินจะต้องเริ่มด้วยการลดความเป็นกรดโดยการเพิ่มปูน และระวังไม่ลดน้ำใต้ดินลงต่ำ เพราะจะทำให้สารประกอบชนิดนี้มีความเป็นกรดสูงขึ้น
2.ดินสีเหลืองหรือแดง
ส่วนใหญ่จะเป็นสีออกไซด์ของเหล็กและอลูมิเนียม เป็นดินมีพัฒนาการสูง ผ่านกระบวนการผุพังสลายตัวมานาน เป็นดินที่มีการระบายน้ำดี แต่มักจะมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ดินสีเหลืองแสดงว่าดินมีออกไซด์ของเหล็กที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ ส่วนดินสีแดงจะเป็นดินที่ออกไซด์ของเหล็กหรืออลูมิเนียมไม่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ
3.ดินสีขาวหรือสีจาง
มักเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เนื่องจากวัตถุต้นกำเนิดเป็นหินแร่สีจาง ซึ่งมีธาตุอาหารน้อย ถ้าดินมีเนื้อเป็นดินทราย จะทำงานง่ายเพราะเป็นดินเบา แต่ต้องระวังเรื่องการซึมลึกของน้ำชลประทาน ดินสีขาวบางชนิดอาจมีเนื้อดินเป็นดินเหนียว ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ การระบายน้ำดีปานกลาง ต้องพิจารณาเรื่องการเพิ่มปุ๋ยให้พืช ดินบางชนิดสีจางเพราะมีการสะสมเกลือในหน้าตัดดิน ต้องระวังเรื่องการให้น้ำ ไม่ให้มากเกินไปจนเกลือกระจายและควรวางแผนชะละลายเกลือออกจากดินด้วย
4.ดินสีเทาหรือเทาปนน้ำเงิน
บ่งชี้ว่าดินอยู่ในสภาวะที่มีน้ำแช่ขังเป็นเวลานาน เช่น ดินนาในพื้นที่ลุ่ม หรือดินในพื้นที่ป่าชายเลนที่มีน้ำทะเลท่วมถึงอยู่เสมอ มีสภาพการระบายน้ำและการถ่ายเทอากาศไม่ดี ทำให้เกิดสารประกอบของเหล็กพวกที่มีสีเทาหรือสีน้ำเงิน แต่ถ้าดินอยู่ในสภาวะที่มีน้ำแช่ขังสลับกับแห้ง ดินจะมีสีจุดประ ซึ่งโดยทั่วไปมักปรากฏเป็นจุดประสีเหลืองหรือสีแดงบนพื้นสีเทา ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสารประกอบออกไซด์ของเหล็กที่สะสมอยู่ในดิน โดยสารเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปอยู่ในรูปที่มีสีเทาเมื่ออยู่ในสภาวะที่มีน้ำแช่ขัง ขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน ๆ และเปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่ให้สารสีแดงเมื่อได้รับออกซิเจน