ขอลูกพูดบ้าง
ขอลูกพูดบ้าง
เคสผู้ป่วยหญิงอายุ 29 ปี มาขอต่ออายุใบส่งตัว เรื่องเส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ ที่ต้องทำรองเท้าใส่เฉพาะ ก็ต้องส่งต่อไปทั้งแผนกกระดูกและกายภาพ
พอเข้ามาถึง เธอก็นั่งลง แต่คนที่เล่าอาการและพูดตลอดคือคุณแม่ "คือคุณหมอค่ะ มาขอใบส่งตัวให้ลูก เคยรักษากับหมอกระดูก" ได้ใบตรวจมา แล้วก็ยื่นให้หมอ หมอรับมาอ่าน แล้วก็บอกว่าหมอต้องส่งไปที่แผนกกระดูกต่อนะครับ จะได้ทำรองเท้าคู่ใหม่
"ใช่คะ ต้องเขียนด้วยนะคะ ว่าทำรองเท้าคู่ใหม่ ... ต้องเขียนด้วยนะคะ ว่าส่งหมอกายภาพ ...ต้องเขียนด้วยนะคะว่าต้องมีเอกซเรย์ และส่งหมอกระดูกด้วย ต้อง...."
"เอ่อ คุณแม่ครับ สักครู่นะครับ หมอถามน้องก่อน ว่ามีอาการอะไรไหม" ลูกสาวจะพูดสักคำ แต่คุณแม่แทรกสวนมาอีก "จะปรึกษาอีกเรื่องคะ พอดีคิดว่าลูกหูอื้อ สังเกตได้จาก ได้ยินลดลง เปิดเสียงเพลงดังขึ้น" อันนี้หมอก็ไม่แน่ใจหรอกนะ ว่าลูกเปิดเสียงดัง เพราะรำคาญเสียงแม่ไหม 555 แต่หมอก็ตรวจหูให้ ปรากฎว่าขี้หูอุดตัน จะให้ยาไปหยอด ก็ถามต่อว่า "แล้วข้างขวาเป็นมากกว่าข้างซ้าย ต้องดูข้างซ้ายด้วยไหมค่ะ" คือเอาเข้าจริงต้องตรวจทั้งหมดสองข้างนั่นแหละ ถึงแม้จะให้ยาหยอดละลายขี้หู แต่ก็วุ่นวายเพราะต้องเขียนใบส่งตัวให้จบ เลยบอกว่า "อาการเหมือนกัน หยอดเหมือนกันได้ครับ"
"ว่าแต่คุณแม่ รู้สึกกังวลใจเรื่องคุณลูกเยอะจังนะครับ คุณแม่ ไปพบคุณหมอที่รพ.หน่อยไหม จะได้สบายใจขึ้น หมอจะได้เขียนใบให้ด้วย" คือใจจริงอยากให้ไปพบจิตแพทย์นั่นแหละ
"อ๋อ ๆ มีใบนัดแล้วคะ" รีบบอกปัด แล้วหยุดพูดไปทันที
จากนั้น พอส่งเคสไปที่ห้องปฎิบัติการพยาบาล พี่พยาบาล ก็เข้ามาเล่าว่า เคสนี้มาตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว แต่เขาก็แนะนำให้มาเวลาราชการจะได้ซักถามลงประวัติเพิ่ม และตั้งแต่ตอนนั้นคุณแม่ก็บงการ พูดโน่น นี่ นั่น จนลูกนั่งนิ่ง ไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลยค่ะ
นึกว่าเรารู้สึกคนเดียว มีคนคิดเหมือนเราด้วย ดังนั้น จริงๆเคสนี้น่าจะรักษาแม่ด้วยนะครับ ว่าไหม