คนไทยมีหนี้มากแค่ไหน?
จากข้อมูลสินเชื่อในระบบที่อยู่ในเครดิตบูโร มีคนที่มีหนี้สูงถึง 37% หรือราว 1 ใน 3 ของประชากรไทย หรือราว 25 ล้านคน และสัดส่วนคนที่มีหนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ถามว่า การแก้ปัญหาพวกนี้ รัฐบาลช่วยได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะหนี้สินส่วนนี้คือหนี้ส่วนตัว หนี้ส่วนตัว แต่ละคนต้องแก้ปัญหาเอง เพราะเป็นคนก่อหนี้ขึ้นมาเอง โดยที่ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
คนไทยยังมีหนี้ในปริมาณสูง โดยประมาณ 57% ของคนไทย ที่มีหนี้มีหนี้เกิน 100,000 บาท และกลุ่มที่มีหนี้เกิน 1 ล้านบาท มีถึง 14% โดยมูลค่าหนี้เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 520,000 บาท
หนี้ต่อคนหมายความว่า ทุกคนต้องเป็นหนี้ใช่หรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ บางคนก็ไม่มีหนี้ แต่เมื่อค่าเฉลี่ยต่อคนอยู่เกิน 5 แสนบาท มันก็หมายความว่า มีคนบางคนมีหนี้เป็นหลักล้านบาท ค่าเฉลี่ยมันถึงได้สูงขึ้นไปแบบนั้น
และหากดูสัดส่วนบัญชีหนี้ แยกตามผลิตภัณฑ์ พบว่า คนไทยมีหนี้แยกตามผลิตภัณฑ์ คนไทยมีหนี้จากสินเชื่อส่วนบุคคลมากถึง 39% รองลงมาคือหนี้จากบัตรเครดิต 29%
แสดงว่า หนี้ส่วนใหญ่นั้นเกิดจากหนี้ที่ใช้จ่ายในครัวเรือนทั่วไป บางคนเป็นหนี้จากการกดเงินสดจากสินเชื่อส่วนบุคคลออกมาใช้ก่อนนั่นเอง รวมไปถึง การรูดบัตรเครดิตใช้จ่ายผ่อนของ เป็นต้น โดย 2 ใน 3 ทั้งหมดของไทย อาจเป็นสินเชื่อที่ไม่สร้างรายได้ ประกอบด้วย สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิต ขณะที่หนี้ที่สามารถสร้างรายได้ หรือความมั่งคั่งอย่างหนี้เพื่อธุรกิจและหนี้บ้านกลับมีสัดส่วนจำนวนบัญชีเพียงอย่างละ 4% เท่านั้นจากบัญชีทั้งหมด
คนไทย 1 ใน 5 ของคนไทยเป็นหนี้เสีย โดย 20% ของคนไทยที่เป็นหนี้ในเครดิตบูโรกำลังประสบปัญหาเป็นหนี้เสีย และเมื่อเปรียบเทียบกลุ่มต่าง ๆ พบว่า เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย เป็น 2 กลุ่มผู้ที่มีสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้สูง โดยกลุ่มเกษตรมีสัดส่วนหนี้ต่อรายได้อยู่ที่ 34% และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอยู่ที่ 41% ซึ่งเป็น 2 กลุ่มสำคัญที่ปัญหาหนี้อยู่ในระดับที่น่ากังวล
การที่มีหนี้มากถึง 41% หมายความว่า รายได้ 100 บาทที่หามาได้ จะต้องใช้ในการจ่ายหนี้มากถึง 41 บาท เหลือใช้เพียง 59 บาท ทำให้ภาพหนี้สินคนไทยที่บอกน่าห่วง เนื่องจาก ยังมีค่าใช้จ่ายอีกมากที่ต้องใช้ให้พอใน 59 บาทที่เหลือ เทียบกับรายได้ 100 บาท ซึ่งปัจจุบันค่าครองชีพในแต่ละวันแพงขึ้นทั่วโลก ทำให้การหลุดพ้นจากวังวนหนี้เป็นไปได้ยากมาก ไม่ว่าจะมีรัฐบาลไหน ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะหนี้ตรงนี้คือหนี้ส่วนตัว และรัฐบาลก็ยังมีภาระหนี้ของรัฐบาลเองที่ต้องใช้จ่ายอีกมาก