เซ็กส์ในมหาวิทยาลัย
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว มันตั้งแต่ยุคสมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน และในยุคนั้นยังเป็นโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกดอยู่ เป็นยุคสมัยที่ผมเพิ่งจะเข้าเรียนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยได้ไม่นานนัก
เรื่องราวมีอยู่ว่า ในครั้งนั้น เป็นการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ ของนักศึกษาชั้นปืที่ 1 ซึ่งแน่นอนว่าในการจัดกิจกรรมจะต้องมีการจัดทำฐานผจญภัยต่าง ๆ มากมาย คล้าย ๆ กับฐานแบบลูกเสือ คือมีการเปื้อนดินเปื้อนโคลนนั่นแหล่ะ อีกทั้งในกิจกรรมรับน้องในครั้งนี้ รุ่นพี่ยังให้รุ่นน้องอย่างพวกผมไปนอนค้างแรมที่มหาวิทยาลัยอีก ซึ่งในการนอนค้างแรมนั้น จะแยกรุ่นน้องชาย หญิง ให้นอนแยกตึกกัน เป็นตึกเรียนที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกัน โดยมีแค่ถนนขึ้น ถ้าจะเล่ารวบรัดเข้าประเด็นเลยก็คือ ในวันแรก หลังจากทำกิจกรรมมาทั้งวัน หลังจากที่ผมกับเพื่อน ๆ ทุกคนไปลุยฐานของรุ่นพี่จนเละเทะ มาแล้ว ทุกคนก็กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มารับประทานข้าวเย็นร่วมกันที่โรงอาหาร จากนั้นจึงกลับขึ้นมาบนอาคารเรียนเพื่อนอนหลับพักผ่อน
ในห้องเรียนที่ถูกปรับให้เป็นห้องนอนนั้น มีรุ่นน้องชายและรุ่นพี่ชายนอนร่วมกัน โดยผมได้ปูผ้านอนข้าง ๆ เพื่อนชายคนสนิทคนหนึ่ง ประมาณว่าถ้าได้นอนหอพัก จะมักอยู่ห้องพักเดียวกันกับผมเสมออะไรทำนอนนั้น แน่นอนว่าผู้ชายส่วนใหญ่มักจะนอนกรน แต่พอดึก ๆ ผมกลับรุ้สึกว่ามันแปลก ๆ ทำไมเสียงกรนมันเบาลง ลงจึงลุกขึ้นมานั่งมองดูไปในห้องท่ามกลางความมืด ผมก็พบว่า เพื่อนชายและรุ่นพี่ชายที่นอนในห้องหายตัวไปประมาณน่าจะเกือบ ๆ ครึ่งห้อง ส่วนเพื่อนสนิทของผมก็ยังนอนหลับอยู่ข้าง ๆ ครั้นจะปลุกมันขึ้นมาถามไถ่ ผมก็กลัวว่าจะโดนมันด่าผมเอา ผมจึงคิดในใจว่า พวกเขาคงจะพากันไปเข้าห้องน้ำ หรือไม่ก็พากันแอบไปหลบซ่อนดื่มเหล้าสุบบุหรี่กันมั้ง ผมก็เลยล้มตัวลงนอน
พอเช้าวันต่อมาผมตื่นนอนขึ้นมาตั้งแต่เช้า เพื่อนของผมมันก็ลุกไปเข้าห้องน้ำพื้นอาบน้ำล้างตาพร้อมๆ กับเพื่อนคนอื่น ๆ แต่ผมก็ยังคาใจเรื่องเมื่อคืน จึงแอบเดินไปรอบ ๆ ตึกเรียนดูว่ามีหลักฐานอะไรตกหล่นอยู่หรือไม่ ก็คืออยากรู้เพื่อไม่ให้คาใจก็เท่านั้น ไม่ได้อยากจะหาเรื่องเพื่อไปฟ้องอาจารย์ให้ตนเองเดือดร้อนแต่อย่างใด แต่ผมดันเดินข้ามไปยังตึกนอนของผู้หญิงแล้วบังเอิญว่าเดินผ่านถังขยะหน้าของน้ำของตึกนั้นพอดี แล้วก็เป็นจังหว่ะที่ ป้าแม่บ้านคนหนึ่ง ซึ่งกำลังทำหน้าที่ทำความสะอาด กำลังกวาดพื้นอยู่ ป้าแกกวักมือเรียกผมมาใกล้ ๆ แล้วก็ชี้นิ้วไปที่พื้นใกล้ ๆ กับถังขยะให้ผมก้มมองดูอะไรบางอย่าง และสิ่งที่ผมเห็นก็ถึงกับทำให้ผมตกใจมาก เพราะไอ้ที่กองอยู่ที่พื้นหลายชั้นมันก็คือ "ถุงยางอนามัยที่มีการใช้แล้ว"
ผมรีบโบกมือปฏิเสธพร้อมกับส่ายหน้าเลยว่า "ป้า ๆ ไม่ใช่ผมนะ ใน ม.ผมไม่ทำแน่ ๆ" ผมไม่รู้ว่าป้าคนทำความสะอาดแกจะเชื่อหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ผมรีบเดินออกมาจากจุดนั้นกลับไปตึกอาคารเรียนนอนฝั่งผมในทันที ผมรียเข้าห้องน้ำห้องท่า อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็รีบไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่โรงอาหารของมหาวัทยาลัย ในใจของผมคิดและผมก็ชำเลืองมองดูหน้าสาว ๆ ทั้งรุ่นเพื่อนและรุ่นพี่แล้ว และชักจะเริ่มระแวงแล้วว่า "นี่มันจริงหรือเปล่า เซ็กส์หมู่ช่วงกลางดึกที่มหาวิทยาลัย ของรุ่นพี่และรุ่นน้องนี่นะ ที่พวกเธอกล้าทำขนาดนี้เลยเหรอ" ผมคิดในใจว่าไม่รู้สาว ๆ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ใครไปโดนเมื่อคืนนี้บ้าง ซึ่งในตอนนั้นยอมรับว่าผมค่อนข้างจะแอนตี้เรื่องแบบนี้มากโดยเฉพาะในวัยกำลังเรียนกำลังศึกษา
กลับมาเข้าเรื่อง หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จก็ไปทำกิจกรรมต่อ ในวันนี้ไม่ได้เข้าฐานลุยแหลกอีกแล้ว แต่จะเป็นการเข้าห้องประชุมคุยกันซะมากกว่า จนพักเที่ยง ตอนบ่ายมาก็ประชุมต่อ จากนั้นช่วงเย็นก็เข้านอนคืนที่สอง และเช้าวันต่อมาจะเป็นพิธีปิด แล้วก็เดินทางกลับบ้านใครบ้านมัน แต่ในคืนนี้สิที่ผมมาคิดแผลง ๆ ว่า อยากรู้ว่าที่ป้าแม่บ้านให้ผมดูนั้นมันจริงใหม พวกเขากล้าทำกันจริงหรือ จะสะกดรอยตามไปแอบดูดีหรือไม่ แต่เหมือนเพื่อนชายที่นอนข้าง ๆ ผมมันก็จะสังเกตุเหมือนกับผมนั่นแหล่ะ มันก็ตอบมาสั้น ๆ ว่า "ช่างเขา ไม่เกี่ยวกับเรา นอนเถอะ" แต่ผมอดสงสัยไม่ได้ ดึก ๆ มา จึงลุกขึ้นมา ก็เห็นผู้ชายบางส่วนหายไป แต่ก็หายไปน้อยกกว่าเมื่อวาน ผมจึงถือโอกาส เดินสะกดรอยลงไปแอบข้ามไปดูตึกของฝ่ายที่ผู้หญิงนอน ผมก็เห็นร่างเงาดำ ๆ ในความมืดของชายหญิงหลายคู่เดินลงมาหากันแล้วแยกย้ายจุงกันไปตามห้องต่าง ๆ ของตึกเป็นคู่ ๆ ผมเห็นแค่นั้นแล้วจึงไม่ตามต่อ กลับขึ้นมานอนเพราะคิดว่าเดาได้แน่ชัดแล้ว หลังจากทิ้งตัวลงนอน เพื่อนชายคนสนิทของผมมันก็ถามเบา ๆ ว่า "เห็นหรือยังหล่ะ" ผมก็ตอบไปว่าเห็นไกล ๆ เพื่อนของผมมันก็ไม่ตอบอะไร
ตั้งแต่รับน้องครั้งนั้น พอผมขึ้นชั้นปีสอง ผมกลายเป็นรุ่นพี่บ้าง ก็ไม่มีการจัดการให้มีการนอนค้างในมหาวิทยาลัยอีกเลย มีแต่การฝ่านด่านฐานเละเทะ ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด แล้วก็ให้เดินทางกลับ ผมจึงไม่แน่ใจว่าคุณป้าแม่บ้าน ผู้ที่ทำความสะอาดในวันนั้นได้นำเรื่องไปฟ้องอาจารย์หรือเปล่า หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ผมก็เคยถามเพื่อนชายคนสนิทของผมเหมือนกันว่า ทำไมตอนนั้นแกไม่ไปเอากับเขาด้วย มันก็ตอบผมแบบกวน ๆ ว่า "ไม่รู้สินะ ยังไม่มีหญิงที่ชอบและยังไม่อยากจะมีเมียตั้งแต่เริ่มเข้าปีหนึ่ง" ดังนั้นมันจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมไม่กล้าจะจีบสาว ๆ คนใหนเลยเป็นต้นมาจนกระทั้งเรียนจบ รับปริญญาตรีนั่นเอง