วัยรุ่นชายหลายชาติทั่วโลก ปฏิเสธการมีคู่ เพราะเงินไม่พอใช้
กำลังเป็นปัญหาระดับโลก ในโลกทุนนิยม ที่ชายหนุ่มอายุต่ำกว่า 30 ปี ปฏิเสธการมีคู่ชีวิตอย่างจริงจัง ภาพนี้จะเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทยด้วย
ที่เป็นแบบนี้ เพราะว่า ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกกำลังเป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ที่หบายประเทศเจอมาหลังโควิด หลายประเทศมีค่าเงินที่ตกต่ำลงมาก พร้อมกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งค่าอาหารการกิน ค่าที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายอื่นๆทุกด้าน
ที่เห็นชัดเจนที่สุด คือ วัยรุ่นชายอเมริกัน และในยุโรป หลายประเทศ เช่น อิตาลี เยอรมัน และ อังกฤษ มีค่านิยมการอยู่คนเดียวเป็นโสดมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากในอดีต จนมีผลทำให้อัตราการเกิดต่ำมาก ในอิตาลี อัตราการเกิดตกต่ำน่าใจหาย พร้อมกับจำนวนคนสูงอายุที่พุ่งทะยานทั้งประเทศ
กลับมาที่เอเชีย วัยรุ่นชายเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ปฏิเสธการมีคู่ครอง และอยู่คนเดียวจำนวนมาก เนื่องจากค่าครองชีพที่แพงมาก อย่างในเกาหลีใต้การนัดเดทสาวครั้งหนึ่งจะมีค่าใช้จ่ายคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,000 บาท นั่นคือ ค่าใช้จ่ายมาตรฐานที่ใช้ในการเลี้ยงอาหารแค่มื้อเดียว
ในไทยเอง ผมคิดว่าภาพมันจะเป็นแบบนั้น เพราะไม่มีใครฝืนกระแสโลกได้ ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ในกรุงเทพแพงขึ้นมาก ค่าอาหารมื้อหนึ่งในการนัดเดตสาว ตกประมาณ 700 บาทต่อมื้อเข้าไปแล้ว และยังมีแนวโน้มพุ่งทะยานต่อเนื่อง
ผมอ่านกะทู้ในเวบหาคู่บ่อยมาก พบว่า วัยรุ่นสมัยนี้มีค่านิยมเปลี่ยนไปจากรุ่นผมมาก มีความเห็นจำนวนมากของวัยรุ่นชายที่ต้องการอยู่คนเดียว เพราะบอกว่า แค่อยู่คนเดียว ก็เลี้ยงตัวเองไม่รอดแล้ว ดังนั้น การมีคู่ เป็นเรื่องไกลตัวไปเสียแล้วในยุคนี้