ถังเขียวเก็บน้ำสู้ภัยแล้ง โครงการน้ำบาดาลเพื่อชาวบ้าน
จากสถิติประเทศไทยมีฝนตกทั่วประเทศ ประมาณ ปีละ 730,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้ำฝนจะซึมลงชั้นผิวใต้ดิน 10% และสามารถสูบขึ้นมาใช้ได้ โดยไม่ทำลายชั้นดินประมาณ 45,645 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อปี2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทย มีการใช้งานน้ำบาดาลไปแล้วราว 15,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังคงเหลือน้ำบาดาลที่ยังสามารถนำมาใช้ได้อีก 30,645 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น และในปีนี้จากสภาวะอากาศแปรปวน ฝนฟ้าตกไม่ตรงตามฤดูกาลประจวบกับอากาศที่ร้อนจัดมากจนมีหลายหน่วยงานได้ออกมาเตือนเรื่องภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 นี้
โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ที่ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยทางด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา ได้จัดทำขึ้นในหลายๆจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยสถานที่แรกคือจังหวัดสุพรรณบุรี และล่าสุดคือโครงการส่งมอบโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ช่วยแก้ปัญหาน้ำกินน้ำใช้ ชาวบ้านตำบลหนองโสน อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) จัดพิธีลงนามบันทึกส่งมอบและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล ว่าด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบประปาบาดาลขนาดใหญ่พร้อมระบบกระจายน้ำ และระบบเติมน้ำใต้ดินผ่านสระเติมน้ำ โครงการศึกษารูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลในพื้นที่หาน้ำยากเพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาน้ำบาดาลให้ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับโครงการน้ำบาดาลขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยบ่อน้ำบาดาล 4 ประเภทได้แก่
1.ขนาดใหญ่สุดที่กาญจนบุรี
2 .การทำการเกษตรต่าง ๆ
3.การอุปโภคบริโภค ในพื้นที่
4.จุดจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและลดค่าใช้จ่ายหรือไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย
โดยตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่องและโครงการสามารถเจาะได้ลึกเกิน 1,000 เมตร และได้ดำเนินการเจาะบ่อบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศแล้ว กว่า 1 หมื่นบ่อทั่วไประเทศต่อไป โดยยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะปัญหาภัยแล้งนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกปี และทุกพื้นที่ของประเทศไทย ดังนั้นถ้าเห็นถังหรือแท็งค์เขียวใหญ่ๆ ไม่ว่าพื้นที่ใดก็ตาม ให้ประชาชนได้ทราบไว้ได้เลยว่าพื้นที่นั้นจะไม่มีวันแห้งแล้ง เพราะเราจะมีน้ำบาดาลมาให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ตลอดไป