ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น "ผีพราย" หรือ "เงือกฉุด" ความน่าสะพรึงกลัวใต้น้ำ ของคนโบราณ!!
“เงือกฉุด” ความน่าสะพรึงกลัวใต้น้ำ ของคนโบราณ
สมัยก่อนในช่วงฤดูน้ำท่วมหลาก เด็กหลายคนต้องมาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน บางคนรอดชีวิตมาก็จะมาเล่าว่า ว่ายน้ำอยู่ดี ๆ ก็เหมือนมีอะไรมาที่อยู่ใต้น้ำ มาจับขา (โดยเฉพาะส่วนแข้งหรือข้อเท้า) เมื่อมาดูก็จะเห็นเป็นรอยจ้ำ ๆ คล้ายรอยบีบของมือ ชาวบ้านในยุคก่อนก็มักจะพูดกันว่า เนี่ยต้องโดน “เงือกฉุด” เข้าให้แล้ว บ้างก็ว่า โดนผีพรายฉุด ผีน้ำฉุด แตกต่างกันไปตามท้องถิ่นต่าง ๆ แต่ก็เป็นสิ่งลี้ลับอันน่ากลัวที่อยู่ในน้ำ ที่มาจับขาดึงลงไปใต้น้ำเหมือนกัน
แท้จริงแล้ว เงือกฉุดก็คือ “งูงวงช้าง” (Elephant Trunk Snake /Acrochordus javanicus) ครับ เป็นงูน้ำชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ มักจะพบเจอเค้าในช่วงฤดูน้ำหลาก เป็นงูในตระกูลเดียวกับงูผ้าขี้ริ้ว หนังจะสากย่นเป็นปุ่มเล็ก ๆ หัวแหลมเล็ก ว่องไวเมื่ออยู่ในน้ำ เมื่อจับมาไว้บนบกจะนิ่งเหมือนตายไม่เลื้อยไปไหน ตอนอยู่ในน้ำจะดูเป็นสีน้ำตาล แต่หากมีโอกาสขึ้นมาบนเลนผิวแห้งหมาด ๆ ดูคล้ายสีเหลืองซีด ๆ เป็นงูไม่ดุไม่มีพิษ ชอบกินปลา เผลอ ๆ ก็จับเป็ด นก ที่กำลังเล่นน้ำเพลินจนลืมตัว
*** บางครั้ง ก็ถูกเรียกว่า “งูประเป๋า” เพราะหนังที่มีลวดลายสวยงามเป็นปุ่มเสมอกัน จึงเคยมีคนเอาไปทำหนังประดับกระเป๋าครับ
ปกติงูชนิดอื่นจะมีเกล็ดใต้ท้อง แต่งูชนิดนี้ไม่มีครับ แถมยังออกลูกเป็นตัวแบบงู “อนาคอนด้า (Anacondas) ในอเมริกาใต้ ออกลูกครอกหนึ่งก็ราว ๆ 25 ถึง 30 ตัว (ตามสภาพความอุดามสมบูรณ์) เป็นงูน้ำขนาดใหญ่ที่มีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย ตัวโตสุดมีขนาดถึงสามเมตรกว่า นิสัยชอบลอยตัวนิ่ง ๆ โผล่เฉพาะส่วนหัวขึ้นมาปริ่มกับน้ำ ตอนตกใจจะรัดตัวจนแน่น
ก็ด้วยเพราะมีน้ำหนักมากและตัวใหญ่ จึงสามารถทำให้เด็กอายุขนาด 7- 8 ขวบจมน้ำเสียชีวิตได้ การรัดแน่นของงูงวงช้างบางครั้งทำให้ส่วนของเด็กที่โดนรัดจะเป็นรอยกดเหมือนโดนจับขา แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็อาจถึงกับช๊อคตาย บางคนรอดขึ้นมาก็มักจะเล่าว่าโดนเงือกฉุดขา ผีฉุดขา ผีพรายน้ำทำร้าย ก็ว่ากันไปครับ
เขาจะชอบขุดรูตามชายตลิ่ง บางตัวอ้วนป้อม เท่าที่เห็น ๆ กันไม่ยาวมาก น่าจะชักหนึ่งเมตร แต่หากที่ใดระบบนิเวศน์สมบูรณ์มันยาวเหมือนงวงช้าง
หากใครเคยไปดูการแสดงเรียกงูของพวกอับดุล ก็น้อนงวงช้างนี่แหละที่เป็นพระเอก
*** มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งรอดมา เล่าว่า
“...เคยโดนเมื่อตอนเป็นเด็กและมีรอยช้ำที่ข้อเท้าด้านซ้ายคุณยายและคนเฒ่าบอกว่าโดนผีพรายฉุดและผมก็โดนลากดิ่งลงไปจริง ๆ ถ้าไม่กินน้ำคลองตายแน่นอนเพราะกินน้ำตอนที่จมน้ำจะทำให้มี oxygen เพียงพอที่จะเอาตัวรอด แต่งวงมันสากจริง ๆ เหมือนฝ่ามือคนทำงานหนัก แต่ที่มีรอยโดนงับเพราะงูงวงช้างมันจะเอาปากงับข้อเท้า เราก็ตกใจต้องการสะบัดและมันเป็นธรรมชาติของการต่อสู้และดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด ถ้าผมไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพวกรุ่นใหญ่ ป่านนี้พวกคุณกำลังคุยกับวิญญาณของผมอยู่แน่นอน ...เหอ ๆ ๆ..."
ตามปกติแล้ว เป็นงูขี้กลัว ไม่กัดไม่รัด หนีลูกเดียว แต่อาจเป็นเพราะกะทันหัน โดนเหยียบใต้น้ำ หรือกำลังท้องกำลังไส้เลยห่วงถิ่นที่อยู่ ก็เลยพาลตกใจ เผลอรัดเผลอกัด น้อนตัวหนักมาก เลยดึงขาคนดวงซวยลงไปในน้ำ กลายเป็นเงือกฉุดไป
และคงเพราะมันไม่มีความน่ารักเอาเสียเลย แถมยังหายไปจากธรรมชาติ ก็เลยไม่ค่อยมีใครจะทำการศึกษาวิจัย ในที่สุด งูงวงช้างก็ได้กลายเป็น ”สัตว์ประหลาดใต้น้ำ” ไปโดยปริยาย
แต่ก่อนคูคลองในกรุงเทพฯ จะเจอเขาเยอะมาก โดยเฉพาะชานเมือง เด็ก ๆ ลงไปงมปลาแล้วไปเจอ ก็มักจะแกล้งโยนขึ้นบก เขาก็ขี้เกียจจึงไม่เลื้อยไม่หนี แต่ในปัจจุบันเริ่มหายไปจากธรรมชาติแล้ว คงเหตุเพราะมลภาวะเป็นพิษ สารเคมีในน้ำ และคงโดนผู้คนยุคใหม่ที่ไม่รู้จักแต่เกลียดกลัวงู ทุบตีตายกันไปเยอะ
*** ช่วงหน้าฝนน้ำหลาก อาจตามน้ำออกมาจากดินแดนลึกลับใต้ท่อระบายน้ำ คูคลอง ถ้าเจอน้อนงวงช้าง ก็อย่าไปทำร้ายเขานะครับ เขาไม่ได้มีพิษมีภัย
อ้างอิงจาก: https://m.facebook.com/groups/766069734254921/permalink/1342636913264864/