วราวุธ ศิลปอาชา สู้เพื่อคนใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ได้มาเพื่อสิทธิและโอกาสของผู้พิทักษ์ผืนป่าไทย
แม้กระแสข่าวการเลือกตั้งจะเป็นประเด็นร้อน และกำลังฮิตอยู่ตอนนี้สำหรับรัฐบาลใหม่ แต่ 4 ปีที่ผ่านมามิอาจปฏิเสธได้ว่า วราวุธ ศิลปอาชา ที่ในขณะนี้เป็นตำแหน่งรักษาการณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะไม่เคยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้พิทักษ์ผืนป่าไทย
ที่ล่าสุด มีข่าวอนุมัติการขึ้นเงินเดือนให้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่จากเดิมฐานเงินเดือนอยู่ที่ 9,000 บาท ปรับขึ้นเป็น 11,000 บาท ที่นับว่านำพาผู้พิทักษ์ป่าไทยสามารถลืมตาอ้าปากได้
ต้องย้อนปูมหลังก่อนว่า แต่เดิมผู้พิทักษ์ผืนป่าเป็นงานที่ต้องมีใจรักและต้องทำงานกับอุปสรรค์ที่ถาโถมพนักงานผู้พิทักษ์ทั้งเงินเดือนที่น้อยนิด สวัสดิการที่ต่ำต้อยที่สวนทางกับภาระงานที่หนักหน่วงและเสี่ยงภัยในหลายภาระกิจ อาทิการปราบปรามผู้กระทำความผิดในการบุกรุกผืนป่าที่ทรงอธิพล และที่เห็นได้ชัดที่สุด คือการจัดการไฟป่าที่เสี่ยงภัยและอันตราย
แต่ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาในภาระกิจของวราวุธ ศิลปอาชา สิ่งที่คนภายนอกเห็นอาจไม่ได้จับใจหรือ ร้าวใจในการดำเนินนโยบายจากสายตาคนภายนอกมากมายนัก แต่สิ่งที่สะท้อนคือระบบและงบประมาณที่ไม่สัมพันธ์กันที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรและกลไกที่ลำบาก แต่สิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงคือการที่เป็นคนประณีประนอม และ กล้าขับเคลื่อนอย่าง วราวุธ ศิลปอาชา ที่พยายามผลักดันให้เกิดขึ้น
เช่นการ ผลักดันไม่ให้ลูกจ้างของกรมป่าไม้คือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ถูกเลิกจ้าง การผลักดันการส่งเสริมระบบประกันชีวิต อีกทั้งการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า Smart PATROL เข้ามาในการช่วยทำให้การดูแลรักษาผืนป่าเพิ่มมากขึ้น
ถ้านับว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงแบบใด ก็นับว่าไม่ได้หวือหวาในสายตาคนนอก แต่ถ้าพูดถึงจิตใจของผู้พิทักษ์ผืนป่าก็เปรียบเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้มีกำลังใจ และเป็นแรงผลักดันให้รักษาผืนป่าอันเป็นมรดกเป็นทรัพยากรของชาติไทยให้ลูกหลานต่อไป