ภาพถ่ายพระนอน วัดพระนอนป่าเก็ดถี่ กับพระสงฆ์ ภาพถ่ายช่วงปี พ.ศ 2460-2475
พระนอนป่าเก็ดถี่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่
ภาพถ่ายพระนอน วัดพระนอนป่าเก็ดถี่ กับพระสงฆ์ ภาพถ่ายช่วงปี พ.ศ 2460-2475
ภาพถ่ายที่พระนอน ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ก่อนเกิดการบูรณะ ที่ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
วัดพระนอนป่าเก็ดถี่ บ้านป่าเก็ดถี่ ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นราวปีพ.ศ. ๒๐๙๘ อายุ ๔๕๖ ปี (๒๕๕๔) สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๖
วัดพระนอนป่าเก็ดถี่ บ้านป่าเก็ดถี่ เลขที่ ๑๙๘ หมู่ที่ ๔ ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๑๔๐ พื้นที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ ๕ ไร่ ๓ งาน ๗๖ ตารางวา โฉนดเลขที่ ๑๑๗๔๐
ประวัติความเป็นมาของวัดพระนอนป่าเก็ดถี่
ตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อพระพุทธเสด็จโปรดสัตว์โลกนั้นพระองค์ได้โปรดยักษ์ซึ่งกำลังไล่จับลูกสาวนายแสนแซ่วปลอดภัย ดังนั้นผู้เป็นลูกสาวจึงพานายแสนแซ่วไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์ประทานเส้นเกศาให้ ต่อมานายแสนแซ่วและลูกสาวก็ได้สร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขึ้นโดยนำเอาพระเกศาของพระพุทธเจ้าประดิษฐานไว้ในเศียรของพระพุทธรูป ไม่นานนักบริเวณที่ประดิษฐานพระพุทธรูปก็กลายเป็นวัดขึ้นมา เรียกว่า “พระนอนแสนแซ่ว” และเนื่องจากแถวนั้นมีป่าต้นเก็ดขึ้นจำนวนมาก บางครั้งชาวบ้านจึงเรียกว่า “วัดพระนอนป่าเก็ดถี่” และเป็นพระนอนใหญ่แห่งเดียวซึ่งอยู่ในท่าปรินิพพาน จนครั้งหนึ่งพระราชชายาเจ้าดารารัศมีเสด็จมานมัสการ ด้วยเห็นพระพักตร์ที่อิ่มงดงามจึงประทานชื่อว่า “พระนอนแสนสุข”
ปาฏิหาริย์ของพระนอนแสนสุขที่เกิดขึ้นคือ ที่ปรากฏในพงศาวดารแห่งนครเชียงใหม่ว่า เมื่อปี พ.ศ.๒๐๙๘ ครั้งนั้นเกิดศึกพม่าประชิดได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดสามอย่างในวันเดียวคือ ยอดเจดีย์หลวงกลางเมืองพังทลาย มีแร้งจับที่ยอดพระธาตุดอยสุเทพ และน้ำพระเนตรพระนอนแสนสุขตกเป็นเลือด และจากนั้นอีกสามวันเมืองเชียงใหม่ก็ถูกพม่ายึดไป จากนั้นวัดพระนอนแสนสุขก็กลายวัดร้าง จนเมื่อประมาณ ๑๕๐ ปีที่ผ่านมานี้ มีผู้เฒ่าชาวเมืองพิงค์ชื่อว่า หมอคำ หรือ หมอประคำ ผ่านมาพบเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์หนึ่งซึ่งขณะนั้นมีต้นไม้เป็นป่าห้อมล้อม ได้เห็นพระพักตร์ที่งดงามจึงเกิดความเลื่อมใส ศรัทธา และได้ชักชวนชาวบ้านให้มาช่วยกันบูรณะพระพุทธรูปและวัดขึ้นใหม่