เปิดแอร์ แบบประหยัดเงินในกระเป๋า
แสงแดดส่องในช่วงบ่ายทำให้ความร้อนสูง แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น เช่นเดียวกับการติดตั้งคอมเพรสเซอร์ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นพื้นปูน ดาดฟ้า มุมอับที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท หรือได้รับแสงแดดโดยตรง เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นอุปกรณ์ระบายความร้อนจึงควรอยู่ในที่ร่ม และยกสูงเหนือพื้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้นและประหยัดพลังงาน
เปิดแอร์ 26-27 องศา พร้อมพัดลม
การเปิดพัดลมช่วยไล่ความร้อนภายในห้องก่อนเปิดแอร์ โดยเพิ่มอุณหภูมิแอร์ไปที่ 26-27 องศาเซลเซียส จะช่วยลดอุณหภูมิลงได้ 2 องศา แต่ประหยัดไฟมากกว่าการเปิดแอร์ที่ 23-24 องศาเซลเซียส ช่วยประหยัดค่าไฟได้ถึง 10%
ล้างแอร์ทุก 6 เดือน
เมื่อแอร์ผ่านการใช้งานไปนาน ๆ แม้เปิดในอุณหภูมิที่ต่ำแล้ว แต่ผู้ใช้งานยังไม่รู้สึกเย็น เพราะภายในแอร์มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น การล้างแอร์ทุก 6 เดือน จึงทำให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปล่อยลมเย็นได้เหมือนเดิม ประหยัดค่าไฟได้มากถึง 10% โดยที่ผ่านมา กฟผ. ได้ร่วมกับพันธมิตรดำเนินโครงการ “ล้างแอร์ช่วยชาติ” เพื่อสนับสนุนให้คนไทยร่วมใจลดใช้พลังงาน ล้างแอร์ไปแล้วกว่า 15,000 เครื่อง ช่วยประหยัดพลังงานได้กว่า 2.26 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) หรือเปรียบเทียบเป็นค่าไฟฟ้าที่ลดลง 17.93 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 1,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ “ล้างแอร์ช่วยชาติ” เฟส 2 ณ ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ โฮมโปร เพาเวอร์บาย เดอะมอลล์ ดิเอ็มโพเรียม สยามพารากอน และบลูพอร์ต ภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 เพียงนำบัตรประชาชนและใบเสร็จค่าไฟ 1 เดือนของปี 2565 เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรับสิทธิ์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 062 273 9396 หรือ 062 273 9335
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างเหมาะสมเพียงเล็กน้อย นอกจากช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้วยังช่วยประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นหนทางที่พวกเราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมช่วยชาติให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้
อ้างอิงจาก: กฝฟ