หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงในออฟฟิศเพื่อไม่ให้สุขภาพเราแย่ลง
การทำงานในออฟฟิศอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราหากเราไม่มีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ เพราะเราอาจจะต้องนั่งทำงานนานๆ ทำให้ไม่มีโอกาสในการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนั้น นี่คือวิธีหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงในออฟฟิศเพื่อไม่ให้สุขภาพเราแย่ลง เราเริ่มจากการดูแลตัวเองด้วยการ ออกกำลังกาย ควรพยายามออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินขึ้น-ลงบันได หรือจะทำการยืดกล้ามเนื้อและเอ็นดูร่างกายเล็กน้อยในช่วงพักเวลาก็ช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้น รับประทานอาหารที่เหมาะสม ควรรับประทานอาหารที่มีปริมาณโภชนาการเพียงพอและคุณภาพดีเพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ ควรมีการพักผ่อนเพียงพอเพื่อลดความเครียดและอาการเหนื่อยล้า ปฏิบัติงานโดยมีระยะเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ ควรพยายามให้เวลาพักผ่อนเพียงพอและอย่าทำงานโดยไม่หยุดพักให้ร่างกายได้พักผ่อน
โรคที่คนทำงานออฟฟิศกลัวมากเป็นอันดับต้นๆ คงไม่พ้น อาการออฟฟิศซินโดรม เพราะเป็นได้ทุกคน และเกิดขึ้นโดยที่เราอาจไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็มีอาการปวดหลัง นอกจากนี้ อาการที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจ โรคออฟฟิซซินโดรมเป็นอาการผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อเราเจอสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่โดยเฉพาะการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ต่างกันไปจากสภาพแวดล้อมที่เราเคยเคยสมัครเลือกไว้ในชีวิตประจำวัน โดยที่อาการหลักที่พบคือความกังวล ความเครียด หรืออาจมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง นอนไม่หลับ หรือท้องผูก ฯลฯ นอกจากนี้ คนบางกลุ่มอาจกลัวเป็นโรคออฟฟิซซินโดรมเพราะสภาพแวดล้อมที่ทำงานไม่เหมาะสมกับตนเอง อาทิเช่น การทำงานนานๆ ที่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การไม่ได้รับการติดตามและปรึกษาจากผู้บังคับบัญชา หรือการมีภาระงานที่มากเกินไป การกลัวเป็นโรคออฟฟิซซินโดรมจึงเป็นสิ่งที่ควรระวังเนื่องจากอาจเสียคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเราได้ในระยะยาว ออฟฟิศซินโดรมหมายถึงอาการที่เกิดขึ้นเมื่อมีการลดค่าออกซิเจนในเลือดที่เข้าสู่สมอง โดยจะมีอาการหลายอย่างที่แสดงออกมา เช่น มึนหัว หรือเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือมองไม่เห็นชัด อ่อนเพลีย หน้ามืด หรือมองไม่เห็นชัด อาเจียนหรือคลื่นไส้ ชัก หยุดหายใจ ถ้าไม่รักษาอย่างเร่งด่วนอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้นหากมีอาการออฟฟิศซินโดรม ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยอาจจะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหรือหน่วยฉุกเฉิน เพื่อให้ได้รับการดูแลและเพิ่มค่าออกซิเจนในเลือดให้กับร่างกายให้เร็วที่สุด