เลือกเสริมจมูกแบบโอเพ่น ให้จมูกสวยเลิศแบบไร้กังวลแม้ฮัมพ์สูง

เมื่อต้องการให้ใบหน้าเป็นไปดั่งใจต้องการ สิ่งแรกที่ไม่ว่าใครก็จะนึกถึงเลยก็คือการศัลยกรรมนั่นเอง ซึ่งการศัลยกรรมจมูก หรือการเสริมจมูกนั้นมีเทคนิคมากถึง 3 แบบด้วยกัน คือ เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น, เทคนิคเสริมจมูกแบบปิด และเทคนิคเสริมจมูกแบบเซมิโอเพ่น ซึ่งการเสริมจมูกทั้ง 3 เทคนิคนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้แตกต่างกันไป ทั้งขั้นตอน, รอยแผลผ่าตัด, ค่าใช้จ่าย, ระยะเวลาพักฟื้น และลักษณะจมูกที่เหมาะสม

และสำหรับใครที่ต้องการเสริมจมูก แต่สังเกตเห็นว่าโครงสร้างเดิมของจมูกมีปัญหาค่อนข้างมาก ที่อาจส่งผลให้เกิดความลำบากในขั้นตอนการเสริมจมูก เช่น จมูกสั้น, จมูกฮัมพ์, ปลายจมูกงุ้ม หรือฐานเดิมจมูกเบี้ยว ก็ต้องเลือกศัลยกรรมด้วยเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นเลย เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุดเลยทีเดียว

ถ้าหากอยากรู้ว่าเพราะอะไร ดีแค่ไหน และจะเหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ ต้องติดตามต่อที่นี่เลย เพราะเราได้รวมข้อมูลที่จะทำให้การตัดสินใจของคุณง่ายขึ้นมาให้แล้ว ตั้งแต่การทำความรู้จักเบื้องต้นกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่น, ผู้ที่เหมาะกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่น, ข้อดีข้อจำกัดต่าง ๆ , ราคาเริ่มต้นของเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น ไปจนถึงการเปรียบเทียบเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นกับแบบปิดให้เห็นความแตกต่างแบบชัด ๆ

เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น คือ

เมื่อจะพูดถึงเทคนิคที่ใช้ในการเสริมจมูกแล้ว จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 เทคนิคด้วยกัน คือ เทคนิคเสริมจมูกแบบปิด, เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น และเทคนิคเสริมจมูกแบบเซมิโอเพ่น ซึ่งในวันนี้เราจะเน้นไปที่เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นกัน

เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น หรือที่บางคนอาจเรียกกันในชื่อว่า‘เทคนิคเสริมจมูกแบบเปิด’นั่นเอง โดยเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นคือการเสริมจมูกด้วยวิธีผ่าตัดแบบเปิดจมูกเพื่อให้สะดวกในการแก้ไขโครงสร้างเดิมของจมูก อีกทั้งยังสามารถเสริมจมูกและทำการรองปลายจมูกได้ภายในการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว

ซึ่งจะมีการเปิดแผลตั้งแต่ตำแหน่งกลางจมูกด้านล่าง ยาวไปจนถึงภายในโพรงจมูกทั้ง 2 ด้าน นับเป็นการเสริมจมูกที่มีแผลค่อนข้างใหญ่ทีเดียว จึงทำให้นอกจากจะมีรอบแผลที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว ยังใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานกว่าการเสริมจมูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ อีกด้วย

อีกทั้งเทคนิคการเสริมจมูกแบบโอเพ่นก็ใช้ระยะเวลาสำหรับการผ่าตัดมาก เนื่องจากมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและยิบย่อย ส่งผลให้การผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่นจำเป็นต้องใช้ยาสลบ แถมยังมีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

ใครที่เหมาะกับเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่น 

เทคนิคที่ใช้ในการเสริมจมูกแต่ละเทคนิคนั้นนอกจากจะมีขั้นตอนการทำจมูกที่ไม่เหมือนกันแล้ว ยังเหมาะสมกับจมูกที่มีลักษณะแตกต่างกันไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยการเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะจมูกเดิมดังนี้

1. ผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย

สำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยหรือมีเนื้อจมูกค่อนข้างบางนั้นจะเหมาะกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่นมากกว่าการเสริมจมูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ เพราะเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะสามารถเสริมจมูกและเสริมรองปลายจมูกได้พร้อม ๆ กันภายในการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว จึงไม่ต้องคอยกังวลว่าจะเกิดปัญหาซิลิโคนทะลุบริเวณปลายจมูก

2. ผู้ที่มีปัญหาจมูกฮัมพ์สูง

ผู้ที่มีปัญหาจมูกฮัมพ์สูงหรือมีโครงสร้างสันจมูกปูดออกมา จะเหมาะกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่นมากที่สุด เพราะว่าเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นสามารถทำการแก้ไขหรือตะไบโครงสร้างเดิมของจมูกก่อนที่จะใส่วัสดุเข้าไปเสริมได้อย่างสะดวกที่สุด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนลอยได้

3. ผู้ที่มีปัญหาจมูกงุ้ม 

ผู้ที่มีปัญหาจมูกงุ้มก็จำเป็นต้องใช้เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นเช่นกัน เพื่อให้สะดวกต่อการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างเดิมของจมูก ให้อยู่ในระดับที่พอดีและเหมาะสำหรับการเสริมจมูก หลังจากนั้นจึงค่อยทำการเสริมจมูกด้วยวัสดุที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้รูปทรงของจมูกที่ได้มีความสมดุลสวยงาม

4. ผู้ที่มีจมูกสั้น 

ในกรณีที่มีทรงจมูกเดิมค่อนข้างสั้น การเลือกเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการทะลุของซิลิโคนบริเวณปลายจมูกได้ เนื่องจากการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นสามารถปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมหลาย ๆ สิ่งได้ภายในการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเดิมของจมูก, การเสริมจมูกด้วยวัสดุต่าง ๆ รวมไปถึงการเสริมรองปลายจมูก

เลือกเทคนิค เสริมจมูกแบบโอเพ่น หรือ แบบปิด ดีกว่า ?

อย่างที่ได้รู้กันไปแล้วว่าเทคนิคที่ใช้ในการเสริมจมูกนั้นจะเหมาะสมกับการเสริมจมูกที่มีลักษณะหรือโครงสร้างเดิมแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกหรือตัดสินใจว่าจะเสริมจมูกแบบโอเพ่นหรือเสริมจมูกแบบปิดดีกว่ากัน จำเป็นต้องพิจารณาถึงรูปทรงหรือลักษณะโครงสร้างเดิมของจมูก รวมไปถึงรูปทรงจมูกที่เป็นเป้าหมายในการเสริมจมูกครั้งนี้ ว่ามีความเหมาะสมกับการเสริมจมูกด้วยเทคนิคใด

ถ้าหากโครงสร้างจมูกเดิมของคุณมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขให้เข้าที่เข้าทางก่อนที่จะเสริมจมูกด้วยวัสดุต่าง ๆ หรือมีลักษณะจมูกที่จำเป็นต้องเสริมรองปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุ การเลือกเทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะตอบโจทย์คุณได้ดีกว่า 

แต่ถ้าหากโครงสร้างจมูกเดิมของคุณไม่จำเป็นต้องแก้ไขอะไร หรือไม่มีลักษณะจมูกที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดปัญหาปลายทะลุ, จมูกเบี้ยว หรือซิลิโคนลอยจากการเสริมจมูกลงบนโครงสร้างที่ไม่เหมาะสม คุณก็อาจเลือกเป็นเทคนิคเสริมจมูกแบบปิดได้ เนื่องจากรอยแผลผ่าตัดจากการเสริมจมูกแบบปิดจะมีขนาดเล็กและอยู่ภายในโพรงจมูกเพียงเท่านั้น ทำให้ใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน ทั้งยังไม่สามารถมองเห็นแผลจากภายนอกได้อีกด้วย

ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบโอเพ่น 

ใครที่มีเป้าหมายว่าจะเสริมจมูกแบบโอเพ่น แล้วกำลังกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัด หรือต้องการรู้ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบโอเพ่นเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ในหัวข้อนี้เราจึงได้นำขั้นตอนการเสริมจมูกแบบโอเพ่นมาไล่เลียงเป็นข้อ ๆ ให้ได้ดูกัน

1. ในวันที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่น ก่อนเข้าห้องผ่าตัดแพทย์จะให้คุณทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าไปใส่ชุดที่ทางคลินิกหรือโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้เสียก่อน
2. เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการฉีดยาชาและดมยาสลบให้แก่คุณ โดยจะใช้เวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 15 นาที
3. หลังจากที่ยาออกฤทธิ์แพทย์ก็จะเริ่มต้นการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่น โดยผ่าตัดเปิดแผลตั้งแต่ตำแหน่งกลางจมูกด้านล่าง ยาวไปจนถึงภายในโพรงจมูกทั้ง 2 ด้าน แล้วเปิดจมูกออกจนสามารถมองเห็นแกนหรือโครงสร้างจมูกได้ชัดเจน
4. สำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกเยอะและหนา หรือมีความต้องการลดขนาดของจมูก แพทย์จะทำการเลาะไขมันบริเวณปลายจมูกออกให้ก่อน
5. แพทย์ทำการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนรูปทรงโครงสร้างเดิมของจมูกตามแต่ลักษณะจมูกที่มีปัญหา
6. เมื่อแก้ไขโครงสร้างจมูกเสร็จสิ้น แพทย์ก็จะนำวัสดุเสริมจมูกที่ได้เลือกไว้ใส่ไปที่ใต้เยื่อหุ้มกระดูก และในบางเคสก็อาจมีการเสริมรองปลายจมูกเพิ่มเข้าไปด้วย
7. สุดท้ายจึงค่อยเย็บปิดปากแผลและดามเฝือกอ่อนที่จมูก รวมถึงให้ยาปฏิชีวนะ
8. หลังจากเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ว แพทย์ก็จะทำการจ่ายยาและนัดวันเพื่อตัดไหม

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น 

ถ้าหากนำเทคนิคที่ใช้เสริมจมูกทั้งหมดมาเปรียบเทียบกันแล้ว เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นเรียกได้ว่าเป็นเทคนิคเสริมจมูกที่ตอบโจทย์ได้ทุกปัญหา อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งข้อดีต่าง ๆ ของการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นได้แก่

• สามารถแก้ไขโครงสร้างเดิมของจมูกได้ แม้ว่าจะเป็นโครงสร้างที่เป็นมาตั้งแต่เกิดหรือเพิ่งเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุก็ตาม เช่น จมูกหัก, กระดูกโป่ง หรือกระดูกจมูกคด
• สามารถป้องกันการทะลุของซิลิโคนบริเวณปลายจมูกได้ 
• สามารถลดโอกาสหรือความเสี่ยงที่ทำให้จมูกเบี้ยวและเอียงได้
• สามารถยืดผนังกั้นจมูกเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของฐานจมูกได้ ทำให้สามารถเสริมจมูกได้โด่งและพุ่งเต็มที่อย่างปลอดภัย
• สามารถแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างเดิมของจมูกได้อย่างแม่นยำและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
• สามารถเสริมจมูกแบบโอเพ่นได้ไม่ว่าจมูกของคุณจะมีรูปทรงแบบไหน หรือมีปัญหาที่จุดใด

ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

แม้ว่าการเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะมีข้อดีที่น่าสนใจและหลากหลายมากที่สุด แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างเล็กน้อยเช่นกัน ซึ่งข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นได้แก่

• มีรอยแผลผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่นบางส่วนอยู่ภายนอกโพรงจมูก ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปรอยแผลนี้ก็จะค่อย ๆ จางหายไป
• ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดเสริมจมูกค่อนข้างนานเมื่อเทียบกับเทคนิคเสริมจมูกอื่น ๆ เนื่องจากมีขั้นตอนการเสริมจมูกที่ซับซ้อนกว่า
• เนื่องจากการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นเป็นแผลผ่าตัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จึงต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานขึ้นตามไปด้วย
• เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นจำเป็นต้องใช้การดมยาสลบ 
• ค่าใช้จ่ายสำหรับการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนั้นมีราคาค่อนข้างสูง
• จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่นโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์

เสริมจมูกแบบโอเพ่นราคาเท่าไหร่ ? 

การเสริมจมูกแบบโอเพ่นเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ทั้งแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ, ระยะเวลานานในการผ่าตัดเสริมจมูก, มีขั้นตอนการเสริมจมูกที่ซับซ้อน รวมถึงการใช้ยาสลบในการผ่าตัด จึงส่งผลให้เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นราคาแพงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

โดยการเสริมจมูกแบบโอเพ่นราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 70,000 บาท และสูงไปจนถึง 200,000 บาทเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่เข้ารับบริการ, วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก และความยากง่ายในการเสริมจมูกของแต่ละเคส

เสริมจมูกแบบโอเพ่นกี่เดือนถึงเข้าที่ 

หลังจากที่ทำการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่นเสร็จมาใหม่ ๆ อาจจะยังดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่นัก เนื่องจากยังคงมีอาการข้างเคียงหลังผ่าตัดอยู่ เช่น อาการบวมแดง ซึ่งอาการข้างเคียงนี้จะเริ่มลดน้อยลงเมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 14 วัน โดยผลลัพธ์จากการเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะเข้าที่เข้าทางและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นก็คือหลังจากผ่านไปแล้ว 1 เดือนนั่นเอง

สรุป

การเสริมจมูกแบบโอเพ่นเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ใช้ในการศัลยกรรมเสริมจมูก ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุมทุกปัญหาและมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากที่สุด แต่ก็เป็นเทคนิคเสริมจมูกที่มีขั้นตอนซับซ้อน รวมถึงจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น จึงส่งผลให้เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นมีราคาสูงกว่าการเสริมจมูกด้วยเทคนิคอื่น ๆ